>>ฉลองครบรอบ 5 ปีของโรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ด้วยการจัดทำโครงการ “5 ปีแห่งความสำเร็จ 5 เดือนของการแบ่งปัน” เพื่อแบ่งปันความสำเร็จสู่สังคมในมิติต่าง ๆ เป็นเวลา 5 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคมนี้
ในเดือนมกราคมซึ่งมีวันเด็กแห่งชาติ จึงได้จัดทำโครงการสำหรับเด็ก ด้วยการแบ่งปันความสุขให้แก่เด็ก ๆ นักเรียนโรงเรียนวัดซับเสือแมบ จังหวัดลพบุรี ที่ได้รับคัดเลือกโดย “พนักงานดีเด่นประจำปี 2559” ของโรงแรม โดยได้ส่งมอบสนามเด็กเล่นตามหลักการพัฒนาสมอง (Brain Based Learning Playground) และสื่อการเรียนการสอนให้แก่โรงเรียน เพื่อนำไปใช้พัฒนาการศึกษาและคุณภาพชีวิตของเด็กๆ
สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนแห่งความรัก ก็แบ่งปันความรักด้วยการออกแบบชุดน้ำชายามบ่าย และเครื่องดื่มค็อกเทลในธีม “ฮาร์ทส แอนด์ โรสเซส” (Hearts and Roses Afternoon Tea and Cocktails) ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อนำเงินรายได้จากการจำหน่าย ชุดน้ำชายามบ่าย และเครื่องดื่มค็อกเทลในธีม “ฮาร์ทส แอนด์ โรสเซส” จำนวน 55 บาท ต่อชุด ต่อแก้ว ไปมอบให้แก่มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก พร้อมกันนี้ทางโรงแรมได้ร่วมสมทบทุนในจำนวนเงินที่เท่ากันเพื่อร่วมแบ่งปันความรักในโอกาสนี้ด้วย
ในเดือนมีนาคม ได้ทำการแบ่งปันรอยยิ้มสู่แดนอาทิตย์อุทัย โดยเป็นธรรมเนียมของโรงแรมที่จะสนับสนุนห้องจัดเลี้ยงเพื่อจัดคอนเสิร์ตการกุศล แก่ เพรย์ ฟอร์ แจแปน (Pray for Japan) ที่จัดขึ้นเพื่อหาเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่น โดยคอนเสิร์ตการกุศลนี้มีชาวญี่ปุ่นที่พำนักอยู่ในประเทศไทยมาร่วมชมคอนเสิร์ตกว่า 300 คนทุกปี นอกจากนี้ทางโรงแรมได้ร่วมบริจาคเงินเพิ่มเติมให้แก่คณะเพรย์ ฟอร์ แจแปน เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่นตามนโยบายอีกด้วย
ก้าวเข้าสู่หน้าร้อนในเดือนเมษายน ซึ่งถือเป็นเดือนสำคัญของคนไทย เพราะเป็นเดือนของวันขึ้นปีใหม่ไทย วันครอบครัว และ วันผู้สูงอายุ ทางโรงแรม จึงขอร่วมแบ่งปันความรัก ความห่วงใยแก่ผู้สูงอายุ โดยจัดกิจกรรมให้ผู้บริหารและพนักงานของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ได้ร่วมกันเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้สูงอายุ พร้อมบริจาคเงินสมทบทุนเพื่อใช้ในการดูแลผู้สูงอายุที่สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่น) จังหวัดนครปฐม ในวันที่ 19 เมษายน 2560
และในเดือนสุดท้าย เดือนพฤษภาคม เป็นการปิดท้ายโครงการอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการแบ่งปันโอกาส และการเรียนรู้ โดยการมอบโอกาสพิเศษเพื่อให้นิสิต นักศึกษา ที่กำลังศึกษาอยู่ในสาขาวิชาการโรงแรม งานครัว และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่มีความสนใจการทำอาหาร และต้องการพัฒนาความสามารถในการปรุงอาหาร ได้มีโอกาสสมัครเข้าร่วมแข่งขันการทำอาหารชิงรางวัลเป็นทุนศึกษาดูงานที่ โรงแรม โฮเทล โอกุระ อัมสเตอร์ดัม (Hotel Okura Amsterdam)
ซึ่งนิสิต นักศึกษา ที่สนใจสามารถยื่นใบสมัครได้ที่ แผนกทรัพยากรบุคคล ชั้น 23 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ในวันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 10.00 น. ถึง 15.00 น. ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2560 และโพสต์คลิป VDO ความยาว 3-5 นาที แสดงการทำอาหารประเภทใดก็ได้ ลงในหน้าเฟสบุ๊คของตนเอง พร้อมส่งคลิป VDO มาที่ อีเมล์ [email protected] ภายในวันที่ 7 เมษายน 2560
ทางโรงแรมจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านรอบแรกในวันที่ 12 เมษายน 2560 และนัดหมายเพื่อการทดสอบการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ก่อนที่จะประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายเพียง 5 คน ที่จะได้มีโอกาสได้เรียนรู้และฝึกฝนการปรุงอาหารญี่ปุ่นจากหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ชาวญี่ปุ่น ประจำห้องอาหาร ยามาซาโตะ เชฟ ชิเงรุ ฮางิวาระ (Shigeru Hagiwara) เป็นเวลาทั้งสิ้น 3 สัปดาห์ โดยในวันสุดท้ายผู้เข้าแข่งขันจะต้องทำอาหารให้คณะกรรมการ และแขกผู้มีเกียรติรับประทานในคืนตัดสิน (Judges’ Panel Night)
ใครที่ทำอาหารได้ถูกใจคณะกรรมการและแขกจะได้รับรางวัลสุดยิ่งใหญ่ รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 100,000 บาท โดยเป็นทุนไปศึกษาดูงาน 9 วันที่โรงแรม โฮเทล โอกุระ อัมสเตอร์ดัม (Hotel Okura Amsterdam) รวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ที่พักที่โรงแรม โฮเทล โอกุระ อัมสเตอร์ดัม 8 คืน และมื้ออาหารกลางวันสุดพิเศษที่ห้องอาหารยามาซาโตะ (Yamazato) 1 มื้อ มื้ออาหารค่ำที่ห้องอาหารซีเอลเบลอ (Ciel Bleu) 1 มื้อ โปรแกรมท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ดัม 1 วัน รวมไปถึงการจัดทำวีซ่า ประกันการเดินทาง พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท
โดยจะได้ร่วมโปรแกรมการเรียนรู้การทำอาหารในครัวกับเชฟโอะโนะ ค็อกไมเยอร์ (Chef Onno Kokmeijer) เชฟชื่อดังจากห้องอาหารซีเอลเบลอ ซึ่งเป็นห้องอาหารที่ได้รับดาวเกียรติยศมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาวและเป็นเชฟที่ได้รับรางวัลเป็นตำแหน่ง เอส วี เอช มีสเทอเชฟ (SVH Meesterchef) หรือ มาสเตอร์ เชฟ (Master Chef) ซึ่งถือเป็นตำแหน่งสูงสุดของบุคคลากรในสายงานพ่อครัวจากสถาบันชื่อดังในวงการธุรกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการของประเทศเนเธอร์แลนด์ คือ Stichting Vakbekwaamheid Horeca
คุณสมบัติผู้สมัครจะต้องเป็นนิสิต นักศึกษา เพศชาย – หญิง สัญชาติไทย อายุระหว่าง 18 -25 ปี และกำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 3 หรือ 4 ของสถาบันการศึกษาในประเทศไทย รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อฝ่ายสื่อสารการตลาดที่ [email protected] หรือโทร 02 687 9000
Comments are closed.