>>ส่งท้ายปลายสิงหาคมเดือนแห่งวันแม่กันด้วยบันทึกการเดินทางไต่เขาโคตาคินาบาลูของสาวเก่งสุดแกร่ง “ทันตแพทย์หญิงนภัสพร ชำนาญสิทธิ์ หรือหมออีม” บทพิสูจน์ของพลังสตรีที่มีมากกว่าที่ใครๆ คิด เฉกเช่นเดียวกับการรับบทบาทแม่ที่ไม่ว่าจะเหนื่อยยากขนาดไหน ผู้หญิงเราก็สามารถรับมือได้อย่างยอดเยี่ยม
เรื่องเล่าระหว่างการเดินทางของหมออีมซึ่งการท่องเที่ยวมาเลเซียได้รวบรวมมาเพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนกับ “ความกล้า” ที่ท้าทายนิยามต่างๆ ที่จำกัดความเป็นผู้หญิงออกไปอย่างสิ้นเชิง กับการพิชิตหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียอาคเนย์ อีกทั้งเป็นเขาสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถปีนได้
โดย “โคตาคินาบาลู” เจ้าของระดับความสูง 4,095 เมตร ไม่ทำให้ทันตแพทย์หญิง นภัสพร ชำนาญสิทธิ์ หรือหมออีม รู้สึกกริ่งเกรงหรือลังเลใจที่จะไปพิชิต แต่กลับกันมันเหมือนเป็นการท้าทายให้เธอได้ไปสัมผัสประสบการณ์การผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิตที่เธอไม่มีวันลืม ที่สำคัญที่นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้สำเร็จ!
แม้จะเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่ไม่มีประสบการณ์การปีนเขาลูกใหญ่ๆ ระดับโลก พกพาแค่ความตั้งใจจะไปปักหมุดบนยอดเขาที่เธอได้เห็นความงดงามผ่านภาพถ่าย ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าโคตาคินาบาลู “ไว้ตัว” เสมอสำหรับผู้ที่อยากพิชิต เพราะจะมีเพียงผู้ที่แข็งแรงและเข้มแข็งเท่านั้นจึงจะได้สัมผัสกับความงดงามที่ซ่อนอยู่ใน “ความยาก”
หลังจากส่งเทียบเชิญให้ตัวเอง หมออีมก็ใช้เวลาเตรียมร่างกายเพื่อไปทักทายกับจุดสูงสุดบนเกาะบอร์เนียว รัฐซาบาร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทันตแพทย์สาวที่สารภาพว่าไม่ชอบออกกำลังกายเลย!
“ด้วยความที่อยากไปมากเลยตัดสินใจร่วมทีมกับป๋าคมรัฐ (คมรัฐ พิชิตเดช) ซึ่งป๋าเตือนว่าเส้นทางนี้เดินยากเลยนะสำหรับมือใหม่ ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ป๋าแนะนำให้ฝึกลุกนั่งอย่างน้อยวันละ 200 ครั้ง อีมก็ทำตามที่ป๋าบอกทุกอย่างเพราะกลัวว่าไปแล้วจะไม่ไหว”
นอกจากกำลังกาย หมออีมลงมือศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเขาสูงลูกนี้ จนทราบว่าโคตาคินาบาลูเป็นเหมือนด่านแรกหรือจุดเริ่มต้นสำหรับนักปีนเขาจากทั่วโลกที่อยากพิสูจน์กำลังใจและกำลังกายว่าแพ้ความสูงหรือไม่ ดังนั้น นักปีนเขาลูกใหญ่ๆ ระดับโลกหลายคนจึงมาเริ่มต้นที่นี่…หมออีมก็เช่นกัน
สองวันหนึ่งคืนกับการเดินบนเส้นทางที่ได้ชื่อว่ายากสำหรับนักปีนเขามือใหม่ ไม่ได้อาศัยเพียงแค่ร่างกายที่สมบูรณ์พร้อม แต่ต้องอาศัยพลังใจที่ทำให้แต่ละก้าวเคลื่อนไปข้างหน้าจนกระทั่งถึงจุดที่สูงเหนือระดับเมฆ
“อีกก้าวเดียว…อีกก้าวเดียว…อีกก้าวเดียว…” หมออีมบอกกับตัวเองในใจยามร่างกายเริ่มประท้วงหลังจากเดินติดต่อกันหลายชั่วโมง แต่โชคดีที่โคตาคินาบาลูไม่เคยใจร้ายกับนักปีนเขาด้วยการมอบความงดงามตามธรรมชาติเพื่อบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยให้ตลอดสองข้างทาง ทั้งทัศนียภาพที่สวยแปลกตา และพืนพรรณนานาชนิดที่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามระดับความสูงและลักษณะภูมิประเทศ ซึ่งหมออีมยืนยันว่า “สวยและหลากหลาย” ไปที่เดียวจึงเหมือนได้ไปหลายที่ มีเซอร์ไพรส์ให้สายตาได้มองตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงจุดหมาย
แน่นอน…การพิชิตยอดเขาสูงเสียดฟ้าไม่ง่าย ต้องอาศัยทักษะที่หลากหลาย ทั้งการเดิน (ทน) การปีน และการไต่เชือกที่หมออีมบอกว่า “เสียวเอาการ” แต่กระนั้นก็ไม่ได้อันตรายเกินไปนัก เพราะการเดินทางมีทั้งหัวหน้าทีมคอยดูแลและคนนำทางท้องถิ่น ที่ทำให้การเดินทางราบรื่นและปลอดภัย
แต่…เหงื่อทุกหยด ความเหนื่อย และความท้อแท้ทั้งหมดก็พลันหายเป็นปลิดทิ้งเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทันทีที่สองเท้าสัมผัสยอดโคตาคินาบาลูได้สำเร็จ ความสวยงามของมันมากมายขนาดไหน หมออีมบอกได้เพียงว่า…
“สวยมาก (กกกกกกกก)”
พร้อมบรรยายภาพความงามที่เธอได้สัมผัสเอง ไม่ใช่แค่จากภาพถ่ายอีกต่อไปแล้วว่า “บนยอดเราจะเห็นวิวทิวทัศน์แบบ 360 องศาเลย มองเห็นทุกอย่างเพราะเราอยู่ในจุดที่สูงกว่าทุกสิ่ง สูงกว่าระดับเมฆด้วยซ้ำ คุ้มค่าสุดๆ กับความเหนื่อย” หมออีมย้ำว่าเธอตัดสินใจไม่ผิดที่มา และมันช่างคุ้มแสนคุ้มสำหรับการเอาความทุ่มเทเข้าแลก เพราะรางวัลที่เธอได้รับเป็นรางวัลชิ้นใหญ่ที่ทั้งชีวิตจะไม่มีวันลืม
“ตอนขึ้นไปเหนื่อยมากก็จริง แต่พอไปถึงยอดแล้วกลับลงมาจะรู้สึกคิดถึงมากจนอยากกลับขึ้นไปอีก เหมือนมันมีมนต์เสน่ห์บางอย่างที่ดึงดูดเราให้กลับไป”
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หมออีมกลับไปเยือนโคตาคินาบาลูอีกเป็นครั้งที่สอง และอาจจะมีครั้งที่สามสี่ตามมา พร้อมกับฝากถึงคนที่อยากพิชิตเขาสูงเสียดฟ้าลูกนี้บ้าง
“อีมอยากชวนทุกคนที่รักในธรรมชาติและรักการปีนเขาให้มาที่นี่กันนะคะ จริงๆ ทุกคนไปโคตาคินาบาลูได้ มันไม่ได้ยากจนเกินไป แค่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม อีมเชื่อว่าถ้าทุกคนได้มาที่นี่ ทุกคนจะประทับใจและมีความสุขมาก จนอยากกลับมาอีกแน่นอนค่ะ”
นอกจากโคตาคินาบาลู หมออีมยังได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจมากมายจากประเทศมาเลเซีย จนอยากชวนคนไทยให้มาท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้างแห่งนี้บ้าง
“ก่อนหน้านี้อีมเคยไปดำน้ำที่สิปาดัน ชอบมากค่ะ สวยมากๆ ธรรมชาติที่ประเทศมาเลเซียยังสมบูรณ์อยู่มาก ที่สำคัญการเดินทางก็ไม่ยาก ไปง่าย มีวันหยุดแค่ไม่กี่วันก็ไปได้แล้ว คนที่นี่น่ารักค่ะ ถึงหน้าตาจะเข้มไปนิด ดูเหมือนดุ แต่จริงๆ ใจดี ต้อนรับพวกเราดีมากค่ะ”
รู้อย่างนี้แล้ว…อย่าปล่อยตัวเองเพลิดเพลินไปกับความงามจากภาพถ่ายที่ให้แค่การจินตนาการ ออกไปให้รางวัลชีวิตกับตัวเอง แล้วคุณจะพบว่าการเดินทางและการท่องเที่ยวให้ประสบการณ์ที่คุ้มค่าเสมอ และหากไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหน มาเลเซียคือจุดหมายปลายทางที่จะทำให้การออกเดินทางของคุณคุ้มค่าและน่าประทับใจอย่างแน่นอน :: Text by FLASH
Comments are closed.