Lifestyle

ตามรอยล้อของ 5 นักเดินทางชื่อดัง ควบ BMW ท่องเที่ยวไปทั่วโลก

Pinterest LinkedIn Tumblr

>>วันนี้ Celeb Online จะพาคุณไปตามรอยล้อของ 5 นักเดินทางชื่อดังที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู ออกตระเวนท่องเที่ยวไปทั่วโลก เก็บเกี่ยวความประทับใจถ่ายทอดลงบนกระดาษและแผ่นฟิล์ม ซึ่งแต่ละคนก็มีแรงบันดาลใจและเหตุผลในการเดินทางที่แตกต่างกัน อาจเป็นความฝัน ความท้าทาย หรือความเศร้า ติดตามเรื่องราวของนักผจญภัยสายสองล้อเหล่านี้ผ่านทางตัวหนังสือและภาพยนตร์ เชื่อว่าเรื่องราวการเดินทางไกลและรายละเอียดระหว่างทางของแต่ละคน จะช่วยให้คุณรู้สึกได้เดินทางร่วมซ้อนท้ายไปกับพวกเขา


1.Helge Pedersen สิบปีแห่งการเดินทางสองล้อหนังสือ : 10 Years on 2 Wheels
มอเตอร์ไซค์คู่ใจ : BMW R 80 G/S
เฮลเก้ เพเดอร์เซ็น นักบิดชาวนอร์เวย์เป็นต้นตำรับของการเดินทางท่องโลกด้วยสองล้อ เขาขายของทุกอย่าง แล้วสั่งซื้อ BMW Motorrad R 80 G/S มอเตอร์ไซค์แอดแวนเจอร์รุ่นแรกของโลก พร้อมตั้งเป้าว่าจะเดินทางไกลตามใจปรารถนา ไม่มีโจทย์ในใจว่าต้องไปถึงไหน ในปี 1982 ด้วยวัยเพียง 27 ปี เขาเริ่มต้นการเดินทางที่กินเวลายาวนานถึง 10 ปี ผ่านระยะทางรวมมากกว่า 400,000 กิโลเมตร ที่เขาท่องไปกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจชื่อ “โอลกา” ลุยไปในเส้นทางอันห่างไกล สู่เมืองต่างๆและผู้คนที่ไม่คุ้นเคยทั้งในจีน ปากีสถาน แอฟริกา รัสเซีย และที่อื่นๆ รวม 77 ประเทศ


ทักษะการถ่ายภาพและนักข่าวของเฮลเก้ ไม่นับถึงการที่เขาสื่อสารได้ถึง 4 ภาษา คือ ภาษานอร์เวย์ อังกฤษ สเปน และเยอรมัน ถือเป็นส่วนผสมอันลงตัวที่ทำให้เขามีรายได้ระหว่างท่องโลกบนอานมอเตอร์ไซค์ เฮลเก้เขียน ถ่ายทำวิดีโอ ถ่ายภาพนิ่งตลอดเส้นทาง เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และเรื่องราวของผู้คน วัฒนธรรม และบ้านเมืองอันไม่คุ้นเคยในที่ต่างๆ รอบโลก เขียนบทความลงนิตยสารทั้งสายมอเตอร์ไซค์และนิตยสารสารคดีที่มีผู้ติดตามอ่านอยู่ทั่วโลก


หนังสือเรื่อง “10 Years on 2 Wheels” ของเขากลายเป็นเบสต์เซลเลอร์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ใฝ่ฝันจะเดินตามรอยของเขากับโอลกา แต่นั่นไม่ใช่จุดจบของการเดินทาง ต้นทศวรรษ 1990 เขาย้ายจากนอร์เวย์มาปักหลักที่ซีแอตเติล สหรัฐฯ แล้วตั้งบริษัททัวร์ด้วยมอเตอร์ไซค์ชื่อ GlobeRider เพื่อพาผู้รักการท่องเที่ยวผจญภัยท่องไปในที่ต่างๆ ด้วยมอเตอร์ไซค์ ในที่ที่แปลกใหม่ซึ่งหลายๆ แห่งยังไม่มีผู้ไปเยือนมาก่อน


2.Neil Peart การออกเดินทางเพื่อเยียวยาใจ
หนังสือ : Ghost Rider: Travels on the Healing Road
มอเตอร์ไซค์คู่ใจ : BMW R1100GS
หลังจากสูญเสียลูกสาวคนเดียวไปด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ และภรรยาสุดที่รักต้องจากไปด้วยโรคมะเร็งภายในเวลาห่างกันไม่ถึง 10 เดือน ในปี 1998 นีล มือกลองและนักแต่งเพลงระดับตำนานแห่ง Rush วงดนตรีแนวโปรเกรสซีฟร็อกยุคบุกเบิก ตัดสินใจดึงตัวเองออกจากหุบเหวแห่งความโศกเศร้า ด้วยการเริ่มต้นการเดินทางครั้งสำคัญ ซึ่งเริ่มต้นอย่างไร้จุดหมาย และต่อมากินระยะทางถึง 88,500 กิโลเมตร โดยเขาขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจจากทวีปอเมริกาเหนือเลาะเรื่อยมาประเทศเม็กซิโก และย้อนกลับ ผจญภัยจากภูเขาสู่มหาสมุทร จากทะเลทรายสู่ดินแดนขั้วโลก ซึ่งถูกบันทึกเอาไว้ในหนังสือเรื่อง Ghost Rider: Travels on the Healing Road


ในเวลาต่อมานีลพูดถึงความทรงจำในช่วงนั้นว่า BMW R1100GS คือมอเตอร์ไซค์ที่เปลี่ยนชีวิตของเขา โดยพาเขาเดินทางผ่านช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าสู่การค่อยๆ เยียวยา หลังเดินทางมาครบ 100,000 ไมล์ มอเตอร์ไซค์คันนี้ซึ่งเป็นมอเตอร์ไซค์ตระกูล GS คันแรกในบรรดา 7 คันที่เขามี ได้ถูกนำไปจัดแสดงที่ AMA Motorcycle Hall of Fame สหรัฐฯ


หลังการเดินทางครั้งนั้น นีลกลับมาเล่นดนตรีอีกครั้ง และสร้างครอบครัวใหม่ เขาสู้กับโรคมะเร็งสมองอยู่ 3 ปี ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อปี 2020 ด้วยวัย 67 ปี


3.Benka Pulko ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็นแล้วไง ถ้ามั่นใจก็ลุยเลย!หนังสือ : Circling the Sun
มอเตอร์ไซค์คู่ใจ : BMW F650
สาวชาวสโลวีเนียที่อยู่ดีๆ ความคิดก็แวบเข้ามาในหัวสมอง ขณะที่เธอกำลังนอนมองเพดานว่า “อีกไม่นานก็จะอายุ 30 แล้ว ฉันจะออกเดินทางรอบโลก ด้วยมอเตอร์ไซค์!” ทั้งที่เธอยังขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ จากนั้นเธอใช้เวลา 5 เดือนในการเตรียมตัว ก่อนจะออกเดินทางไกลครั้งใหญ่ที่กินเวลายาวนานถึง 5 ปีครึ่ง ผ่าน 75 ประเทศใน 7 ทวีป


เบนกาออกเดินทางจากบ้านเกิดที่ประเทศสโลวีเนียเมื่อ 19 มิถุนายน 1997 ด้วยมอเตอร์ไซค์ BMW F650 ที่เธอบอกว่าขี่สบาย ควบคุมได้ง่าย และทำให้ตัวเองรู้สึกมั่นใจมากที่สุด และกลับบ้านอีกครั้งในวันที่ 10 ธันวาคมปี 2002 พร้อมถูกจารึกชื่อไว้ใน Guinness World Record ในฐานะผู้หญิงที่ขี่มอเตอร์ไซค์บินเดี่ยวในระยะไกลที่สุด (180,015 กิโลเมตร) และยาวนานที่สุด (2,000 วัน) เธอยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปถึงขั้วโลกใต้ และเป็นผู้หญิงคนแรกที่ขี่มอเตอร์ไซค์คนเดียวข้ามประเทศซาอุดีอาระเบียอีกด้วย


4.Kevin และ Julia Sanders ท่องโลกติดสปีดหนังสารคดี : The Ride: Alaska to Patagonia
มอเตอร์ไซค์คู่ใจ : BMW R1150GS
การเดินทางรอบโลกเป็นความฝันของใครหลายๆ คน ขณะที่บางคนทำได้แค่ฝัน เควินและจูเลีย กลับทำมันได้สำเร็จ…แบบใช้เวลาน้อยที่สุดในโลกอีกต่างหาก


สองสามีภรรยาชาวอังกฤษเคยเดินทางท่องเที่ยวทวีปอเมริกาใต้ด้วย BMW R80GS มาก่อนแล้ว จากนั้นอยู่ๆ เควินก็คิดขึ้นมาว่า เขาจะออกเดินทางรอบโลกพร้อมกับภรรยา ทริปที่เริ่มต้นในเดือนมิถุนายนปี 2002 ก็เกิดขึ้น พวกเขาเลือกใช้มอเตอร์ไซค์ BMW R1150GS มอเตอร์ไซค์ตระกูล GS ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นที่สุดของสายแอดเวนเจอร์ เดินทางอย่างต่อเนื่องด้วยระยะทางเฉลี่ยวันละ 1,600 กิโลเมตร เป็นระยะทางรวม 31,319 กิโลเมตร สิ้นสุดการเดินทางภายในเวลา 19 วัน 8 ชั่วโมง 25 นาที เป็นการเดินทางรอบโลกที่ใช้เวลาน้อยที่สุด เร็วกว่าสถิติเดิมถึง 12 วันครึ่ง แถมยังเร็วกว่าสถิติการเดินทางรอบโลกด้วยรถยนต์ที่มีคนผลัดกันขับ 2 คนอยู่ 1 ชั่วโมง 50 นาที อีกด้วย


จิตวิญญาณแห่งนักเดินทางทำให้พวกเขาออกเดินทางไกลอีกครั้งในปีต่อมา และคว้าสถิติ Guinness World Record ที่สองมาครอง ในฐานะนักเดินทางข้ามทวีปอเมริกา จากอลาสกาไปถึงอาร์เจนตินา โดยใช้เวลา 35 วัน เร็วกว่าสถิติเดิม 12 วัน จากนั้นทั้งคู่ตั้งบริษัททัวร์ด้วยมอเตอร์ไซค์ GlobeBusters ขึ้นในปี 2004 และจับมือกับช่องรายการโทรทัศน์ National Geographic พานักบิดอีก 11 คน ออกเดินทางเพื่อถ่ายทำสารคดีเรื่อง The Ride: Alaska to Patagonia เพื่อเดินทางออกจากอลาสกาไปยังสุดปลายแหลมของทวีปอเมริกาใต้ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อสถิติ แต่เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การสำรวจโลก


5.Ewan McGregor และ Charley Boorman ฝันให้ไกลแล้วต้องไปให้ถึง!หนังสือ : Long Way Round
มอเตอร์ไซค์คู่ใจ : BMW R1150GS
เมื่อพูดถึงการเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ ไม่มีใครไม่รู้จักหนังสือบันทึกการเดินทางเรื่อง Long Way Round ของสองหนุ่มนักแสดง ยวน แมคเกรเกอร์ และ ชาลี บอร์แมน ที่กลายมาเพื่อนซี้เพราะคลั่งมอเตอร์ไซค์เหมือนกัน
เซเลบริตี้ ทริปของพวกเขาต่างจากทริปล่าฝันสองล้อทั่วๆ ไป ตรงที่เป็นการเดินทางพร้อมอุปกรณ์จัดเต็ม โดยมีกล้องคนละสองตัว ตัวหนึ่งติดที่หมวกกันน็อก อีกตัวถอดออกมาถือได้ โดยมีจอเล็กๆ ติดที่แฮนด์บาร์เอาไว้มองภาพที่ถ่าย และยังมีทีมช่างภาพอาชีพคอยบันทึกภาพนักขับและทิวทัศน์อันสวยงาม


พวกเขาออกเดินทางด้วย BMW R1150GS เริ่มจากลอนดอนเลาะผ่านทวีปยุโรปไปยูเครน คาซัคสถาน มองโกเลีย รัสเซีย ก่อนจะข้ามมหาสมุทรมาทวีปอเมริกาเหนือ เริ่มที่อลาสก้าผ่านแคนาดาและมุ่งสู่จุดหมายปลายทางที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ ก่อนบินกลับสู่ลอนดอนอีกครั้ง รวมระยะทาง 31,000 กิโลเมตร

ทริปนี้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นหนังสือบันทึกการเดินทางที่เขาผลัดกันเล่าเรื่องราวอย่างสนุกสนาน จนการอ่าน Long Way Round เป็นเหมือนการได้เดินทางร่วมกับทั้งคู่ไปด้วย และยังเป็นแรงบันดาลใจและแรงกระตุ้นให้นักล่าฝันทั้งหลาย ลุกขึ้นมาทำฝันให้เป็นจริงเสียที

Comments are closed.

Pin It