นอนอย่างไรให้สุขภาพดี

>>เพราะกว่า 1 ใน 3 ของชีวิตคนเราคือความจำเป็นในการพักผ่อน ในเวลา 24 ชั่วโมงของ 1 วัน สุขภาพคนเราจะดีได้ ต้องมีการนอนหลับให้เพียงพอไม่น้อยกว่า 7 – 8 ชั่วโมง แถมไม่ใช่การนอนที่มีคุณภาพ นั่นไม่เพียงแค่หลับเฉยๆ แต่ยังรวมไปถึงการหลับที่สมบูรณ์ ที่จะช่วยให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งการจะนอนหลับเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีได้นั้น นอกจากร่างกายของคุณเองแล้ว ยังต้องรวมไปถึงองค์ประกอบทั้งศาสตร์และศิลป์ในการดูแลสภาพแวดล้อมในห้องนอนอีกด้วย

การนอนหลับที่ดีอย่างเพียงพอ หรือไม่ต่ำกว่า 7-8 ชั่วโมงต่อวัน จะส่งผลให้ร่างกายมีสุขภาพดีทั้งในแง่ของการฟื้นฟูพละกำลัง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ ห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ และนอกจากนี้ยังช่วยในแง่ของการเผาผลาญพลังงานที่เกิดขึ้นขณะนอนหลับ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยของการมีสรีระที่สวยงามตามธรรมชาติ ตลอดจนยังช่วยให้สมองปลอดโปร่ง สามารถเรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆ ได้อย่างแม่นยำอีกด้วย ส่วนการพักผ่อนไม่เพียงพอจะส่งผลให้สุขภาพร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยง่าย โดยสาเหตุที่ทำให้นอนไม่พอนั่นอาจเกิดมาจากหลายปัจจัย อาทิ ความเครียด การทำงานหนักเกินไป หรือแม้แต่ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว การให้ความใส่ใจในสุขภาวะของตนเองจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การแบ่งเวลาสำหรับออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการนอน ดังนั้นบรรยกาศในห้องนอนและเครื่องนอน นับเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่จะช่วยให้คุณได้พักผ่อนอย่างเหมาะสม

โดยทาง คอตตอน ยูเอสเอ หน่วยงานที่ดูแลด้านมาตรฐานคุณภาพผ้าฝ้ายของประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นต้นทางวัตถุดิบของสิ่งทอมากมาย รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องนอน ร่วมกับผู้ผลิตชุดเครื่องนอนคุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ “ปีกัสโซ่” (Picasso) มีวิธีแนะนำให้คุณเลือกใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการตกแต่งห้องนอนและเลือกเครื่องนอนที่จะช่วยให้คุณได้พักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ศาสตร์และศิลป์ในการจัดห้องนอน คุณต้องคำนึงถึง

1. แสงสว่างภายในห้องนอน โดยแสงสว่างตามธรรมชาติอย่างแสงแดดเป็นเรื่องจำเป็น เพราะนอกจากจะช่วยฆ่าเชื้อโรคจากความร้อนที่ถ่ายเทเข้ามา แล้วยังเป็นอีกหนึ่งกลไกที่ช่วยแสดงการเปลี่ยนแปลงของเวลาอีกด้วย ส่วนแสงจากดวงไฟ ก็ต้องเลือกแบบที่ไม่สว่างจ้าที่กระจายแสงโดยตรงจากโคม ซึ่งจะรบกวนขณะนอนหลับได้ แต่ควรเลือกใช้แสงทางอ้อม โดยการปรับแสงให้ตกกระทบกับผนัง เพดาน หรือระนาบอื่นๆ ก่อนตกลงสู่พื้นที่ภายในห้อง หรือออกแบบในลักษณะหลืบไฟ โดยซ่อนหลอดไฟไว้ภายในและให้แสงสว่างลอดออกมา แสงประเภทนี้ช่วยให้ห้องไม่สว่างจ้าเกินไป และช่วยสร้างบรรยากาศในการพักผ่อนได้ดีกว่า

2. อุณหภูมิและการระบายอากาศ สำหรับเมืองร้อนอย่างประเทศไทย การเปิดเครื่องปรับอากาศจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้นนอกจากเราควรจะปรับอุณหภูมิให้พอเหมาะไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปแล้ว ยังควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของอากาศในขณะกำลังใช้งานอีกด้วย ควรหมั่นดูแลความสะอาดของห้องนอนและแผ่นกรองอากาศให้สะอาดอยู่เสมอ และห้องนอนที่ดีนั้นควรมีช่องเปิดทั้งประตูหน้าต่างที่ช่วยระบายอากาศ ซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องได้ แถมยังช่วยลดความอับชื้นและปริมาณเชื้อโรคได้อีกด้วย โดยมีหลักง่ายๆ คือการสร้างทางลมเข้าและทางให้ลมออก โดยช่องลมทั้ง 2 ควรอยู่ด้านตรงกันข้าม เพราะจะช่วยให้อากาศสามารถไหลเวียนได้ทั่วห้อง แต่ถ้าไม่สามารถทำให้อยู่ตรงข้ามกันได้ ก็ควรให้อยู่ในลักษณะเยื้องกัน หรือในบริเวณผนังที่ตั้งฉากกัน ไม่ควรให้ช่องเปิดรวมกันอยู่ในด้านเดียว เพราะลมจะไม่หมุนเวียน

3. การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เตียงนอน” นอกจากจะต้องคำนึงถึงวัสดุที่นำมาผลิตแล้ว การจัดวางตำแหน่งของเตียงก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรพิจารณา โดยเริ่มจากเลือกตำแหน่งของเตียงให้สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก ไร้สิ่งกีดขวาง โดยปกติแล้วห้องนอนมักจะเป็นห้องที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัย คนส่วนใหญ่จึงมักวางเตียงชนผนัง เพื่อให้มองเห็นส่วนอื่นของห้องได้อย่างชัดเจน รวมถึงไม่วางเฟอร์นิเจอร์กีดขวางการเปิดปิดประตูหน้าต่าง หลีกเลี่ยงการจัดเตียงให้หันหน้าไปทางห้องน้ำ หรือสิ่งที่ไม่โสภา เพื่อให้อรรถรสแห่งการพักผ่อนสมบูรณ์แบบที่สุด

4. สีที่เลือกใช้สำหรับห้องนอน ควรเลือกใช้โทนสีธรรมชาติและสีที่ไม่สดมากนักกับห้องนอน เพื่อให้ความรู้สึกที่โปร่งสบาย และสามารถระงับความกระวนกระวายใจได้ และยิ่งเมืองไทยที่เป็นเมืองร้อน จึงควรใช้สีห้องนอนในโทนสีเย็น ซึ่งช่วยให้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลายมากกว่า และควรเลือกชุดเครื่องนอนให้สอดคล้องกับโทนสีของห้อง

5. เลือกชุดเครื่องนอนที่เหมาะกับการพักผ่อน ควรเลือกพิจารณาเครื่องนอนที่ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ธรรมชาติ 100% คุณภาพสูง เพราะเส้นใยธรรมชาติที่ให้สัมผัสอันอ่อนนุ่ม สบายผิว จะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง พร้อมทั้งระบายอากาศได้ดี จึงไม่อับชื้นและไม่อมกลิ่น ยิ่งถ้ามีจำนวนเส้นใยในการถักทอมากก็จะยิ่งทนทาน หากลองสังเกตดีๆ เมื่อเรานำผ้าปูที่นอนที่ผลิตจากผ้าฝ้ายมาซักบ่อยๆ จะพบว่านอกจากจะไม่เป็นขุยแล้ว ยังให้ความรู้สึกที่นุ่มสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

โดยปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการผลิตเครื่องนอนนั้นพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง นวัตกรรมล่าสุดสำหรับเครื่องนอนต้องยกให้กับ ไมโครสต็อป (Microstop) ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติมีคุณสมบัติช่วยป้องกันไรฝุ่น เชื้อรา แบคทีเรีย ช่วยป้องกันการเกิดภูมิแพ้ พร้อมทั้งเทคโนโลยีการพิมพ์ระบบรีแอกทีฟ (Reactive) ที่ช่วยคงสีสันที่สดใส ไม่ซีดจาง แม้ผ่านการซักบ่อยครั้งก็ตาม

วิธีการถนอมเครื่องนอน

เพื่อสุขลักษณะที่ดี ควรซักชุดเครื่องนอนอย่างน้อยทุกๆ 2 สัปดาห์ หากซักด้วยเครื่องซักผ้าควรตั้งเป็นโปรแกรมถนอมผ้า ไม่ควรใช้สารฟอกขาว และไม่ควรขยุ้มลงเครื่องซักผ้าเพราะจะทำให้เกิดฟองอากาศทำให้ผ้าลอยตัวขึ้น ควรพับทบไปมา แล้วกดผ้าให้จมน้ำในเครื่องซักผ้า ตากในที่ร่มที่อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อคงสภาพลวดลายและสีสันให้ดูใหม่อยู่เสมอ พร้อมพับเก็บให้เรียบร้อยทันทีที่แห้งเพื่อป้องกันรอยยับที่จะเกิดขึ้น :: Text by FLASH



>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/