>>ครั้งแรก! ที่นักอ่านชาวไทยจะได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ในมหกรรมหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก กับงาน ‘Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016’ งานมหกรรมที่รวบรวมหนังสือภาษาอังกฤษชั้นเยี่ยมจากสำนักพิมพ์ทั่วโลก หลากหลายรูปแบบทุกประเภทหนังสือ จำนวนกว่า 2 ล้านเล่ม นำมาจำหน่ายให้คนรักหนังสือได้เป็นเจ้าของในราคาลดถึง 60-80% จากปก
โดยบริษัท เร๊ดดี้ทูรี๊ด จำกัด ผู้จัดงานให้รายละเอียดความพิเศษของงานที่กำลังจะเกิดขึ้น พร้อมนำหนังสือหายากรวมถึงตัวอย่างหนังสือ Limited Edition ที่มีไม่กี่เล่มในโลกมาจัดแสดง โดยมีหนอนหนังสือคนดังอย่าง พอลล์ กาญจนพาสน์, ทยา ทีปสุวรรณ, พลอยพยัพ ศรีกาญจนา, ปาวา นาคาศัย (เบอร์ดี้), จิรพัฒน์ สินไชย, ณภัทร วรวงศ์วสุ, ณัฐพงษ์ ชาติพงษ์ (ฟรอยด์) และคุณคณิตกุล เนตรบุตร(แพรว) ร่วมงาน
นายสุรเชษฐ วรวงศ์วสุ ผู้อำนวยการ บริษัท เร๊ดดี้ทูรี๊ด จำกัด กล่าวถึงที่มาในการนำงานมหกรรมหนังสือสุดยิ่งใหญ่เข้ามาจัดในเมืองไทย “เดิมทีผมเป็นนักอ่านอยู่แล้วและมีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาความรู้ผ่านทักษะด้านการอ่าน โดยเฉพาะหนังสือภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสำหรับการสื่อสารของคนทั่วโลกในปัจจุบัน ซึ่งผมเชื่อมาตลอดว่า การแบ่งปันความรู้คือของขวัญล้ำค่าอันยั่งยืนที่ผู้ใหญ่จะสามารถมอบให้แก่เยาวชนได้ รวมถึงคนรุ่นเราเองก็ยังสามารถสนุกกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านหนังสือในแบบที่ชื่นชอบได้เช่นกัน ประจวบกับได้รู้จักเจ้าของโครงการและไปร่วมงาน Big Bad Wolf ที่ประเทศมาเลเซียซึ่งจัดยิ่งใหญ่มากจนกลายเป็นที่กล่าวถึงกันไปทั่วโลก จึงตัดสินใจนำกิจกรรมที่มีประโยชน์นี้มาสู่คนไทย โดยเป้าหมายหลักของการจัดงาน Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016 คือการส่งเสริมให้คนไทยได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น และหวังจะช่วยยกระดับทักษะภาษาอังกฤษด้วยหนังสือดีมีคุณภาพในราคาที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ ทั้งยังเป็นการช่วยปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับประชาชนอีกด้วย”
ความพิเศษของงานมหกรรมหนังสือ Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยนี้ ได้แก่การนำหนังสือภาษาอังกฤษชั้นเยี่ยมจากสำนักพิมพ์ดังทั่วโลก หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น ชีวประวัติบุคคลสำคัญ นวนิยาย หนังสือเด็กและวรรณกรรม คู่มือทำอาหาร ประวัติศาสตร์ ศิลปะ-แฟชั่น ภาพถ่าย หนังสือเฉพาะทางทุกประเภท และอีกมากกว่า 2 ล้านเล่ม มาจำหน่ายในราคาลดถึง 60-80% ทั้งยังเป็นโอกาสดีที่นักสะสมจะได้เป็นเจ้าของหนังสือหายากและหนังสือฉบับ Limited Edition ประเภทต่างๆ ที่มีเพียงไม่กี่เล่มในโลก โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-21 สิงหาคม 2559 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารฟอรั่ม หมายเลข 9 ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. และที่พิเศษสุดแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยมาก่อน คือจะมีการเปิดจำหน่ายแบบ Non-stop 60 ชั่วโมงติดต่อกัน! ในช่วงสุดสัปดาห์ของการจัดงานคือ วันที่ 12-14 และ วันที่ 19-21 สิงหาคม จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมสัมผัสคลังความรู้และจินตนาการ และร่วมเปิดโลกทัศน์ให้ตัวคุณ ครอบครัว เพื่อนฝูง ผ่านหนังสือดีๆ มีคุณภาพที่คัดสรรมาสู่มือชาวไทยกันในงานดังกล่าว
โดยงานมหกรรมหนังสือ Big Bad Wolf Book เกิดจากการที่ แอนดรู แย๊ป (Mr.Andrew Yap) ผู้ก่อตั้งชาวมาเลเซียมองเห็นปัญหาการขาดโอกาสด้านการอ่านและพัฒนาความรู้ภาษาอังกฤษที่เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซีย จึงตัดสินใจเดินทางไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆทั่วโลกเพื่อซื้อหนังสือที่มีคุณภาพ มาจัดงานเทศกาลหนังสือดีในราคาต่ำกว่าราคาปกถึง 80% โดยหวังจะเป็นจุดเล็กๆ ที่จะช่วยผลักดันให้ประชาชนที่ไม่ได้มีรายได้สูงนัก ได้เข้าถึงโอกาสในการศึกษาหาความรู้และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ให้ก้าวทันโลกที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารอย่างในยุคปัจจุบัน จากปีแรกด้วยจำนวนหนังสือที่รวบรวมได้ 150,000 เล่ม กลายเป็น 3,500,000 เล่มใน 6 ปีต่อมา และมีผู้เข้าชมงานเพื่อเลือกซื้อหนังสือไม่ต่ำกว่า 500,000 คนในปี 2558 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ จากการสนับสนุนของภาครัฐและเอกชนที่เห็นความสำคัญของการอ่าน ปัจจุบันงาน Big Bad Wolf ได้เติบโตจนกลายเป็นงานหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเมื่อนักอ่านตัวยงอย่างสุรเชษฐได้ไปสัมผัสบรรยากาศราวสวรรค์ของคนรักหนังสือเช่นนี้ จึงไม่รอช้าที่จะนำโอกาสดีๆมาถึงมือนักอ่านชาวไทยเช่นกัน
“นอกจากต้องการที่จะเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษและส่งเสริมให้คนไทยอ่านหนังสือมากขึ้นแล้ว เรายังจัดตั้งโครงการ Red Readerhood (เร๊ด รี๊ดเดอร์ฮู๊ด) เพื่อแบ่งปันหนังสือไปสู่วงกว้าง เปรียบเสมือนการช่วยกันแทนที่ในตะกร้า ในมือของ Red Ridinghood หรือหนูน้อยหมวกแดง ด้วยหนังสือที่จะนำไปสู่มือนักอ่านด้อยโอกาส เพื่อเป็นการตอบแทนสังคม โดยผู้ร่วมงานสามารถซื้อหนังสือภายในงานแล้วแจ้งความจำนงมอบเข้าโครงการฯ นอกจากนี้เรายังจะนำหนังสืออีก 1,000 เล่มขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อทรงแจกจ่ายในโครงการตามพระราชดำริต่อไป” นายสุรเชษฐกล่าวทิ้งท้าย
Comments are closed.