>>HELLO! Travel ร่วมกับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ชวนสัมผัสความงดงามเหนือกาลเวลาของ 52 เมืองมรดกโลกอันทรงคุณค่าผ่านนิตยสารฉบับพิเศษ HELLO! Travel ฉบับปี 2016 กับคอนเซ็ปต์ World Heritage พร้อมชื่นชมธรรมชาติอันน่าตื่นตาและวัฒนธรรมอันน่าตื่นใจกับการท่องเที่ยวแบบเฟิสต์คลาส
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นิตยสารฉบับพิเศษ HELLO! Travel ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากกลุ่มผู้อ่านผู้รักการเดินทางและชื่นชอบที่จะได้เห็น ได้สัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษในสถานที่ต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก ซึ่ง HELLO! Travel มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการสรรหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจใหม่ๆ มานำเสนอผู้อ่านอย่างสม่ำเสมอ โดยสร้างสรรค์หัวข้อที่แตกต่างกันไปในแต่ละฉบับเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อ่าน และสำหรับครั้งนี้นิตยสารฉบับพิเศษ HELLO! Travel ได้ร่วมกับ การบินไทย นำเสนอเรื่องราวมรดกโลกทั้ง 52 แห่งทั่วโลก เพื่อนำทางผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ รวมทั้งวัฒนธรรมความเป็นอยู่และเรื่องราวของธรรมชาติ ได้วางแผนการเดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุขและเปี่ยมไปด้วยความทรงจำอย่างมิรู้ลืม
ปัจจุบันดินแดนมรดกโลกที่องค์การยูเนสโกประกาศมีมากถึง 1,052 แห่งใน 165 ประเทศทั่วโลก HELLO! Travel จึงได้คัดสรรมรดกโลกล้ำค่าเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่าน ได้แก่ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St.Petersburg) นครแห่งประวัติศาสตร์ที่มั่งคั่งด้วยวัฒนธรรมของประเทศรัสเซีย นอกเหนือจากพระราชวัง ศิลปวัตถุอันงดงามตระการตาแล้ว อดีตนครหลวงแห่งนี้ยังเป็นศูนย์รวมศิลปินหลายแขนง ทั้งวรรณกรรมและดนตรี เป็นต้น บัมแบร์ก (Bamberg) ศูนย์กลางของการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศเยอรมนี เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองนั้นถือว่าเป็นศูนย์รวมทางประวัติศาสตร์ ที่มีความโดดเด่นทั้งทางด้านสถาปัตยกรรมและมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
ลี่เจียง (Lijiang) เมืองแห่งมนตราของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาทางตอนเหนือของต้าลี่ ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ยาวนานกว่า 800 ปี เมืองเก่าลี่เจียงได้รับการอนุรักษ์ดูแลสถาปัตยกรรมแบบจีนไว้เป็นอย่างดี จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1997 จากองค์การยูเนสโก อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) สวรรค์บนดินของประเทศแคนาดา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอุทยานที่เก่าแก่และสวยที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่ง ประกอบไปด้วยธารน้ำแข็งหลายแห่ง (glaciers) ทุ่งน้ำแข็ง (ice field) ฯลฯ และที่นี่คืออีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
พระราชวังโกเลสตาน (Golestan Palace) หรือวังสวนกุหลาบ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ในยุคสมัยของกษัตริย์คาจาร์ (Qajar) เพื่อใช้เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ นับเป็นพระราชวังที่ตระการตา พร้อมด้วยสวนดอกไม้ที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีตำหนักต่างๆ อีก 7 อาคารอยู่ในบริเวณเดียวกัน มีอาคารรูปลักษณ์โบราณและคลาสสิกแบบยุโรป องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี 2013 และพระราชวังดรอตต์นิงโฮล์ม (Drottningholm) ความสวยงามไร้กาลเวลาแห่งประเทศสวีเดน เป็นพระราชวังที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดน รวมไปถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งประทับมาตั้งแต่ปี 1981 จนถึงปัจจุบัน โดยตั้งอยู่ริมน้ำ ห่างจากใจกลางกรุงสตอกโฮล์มราว 10 กิโลเมตร เป็นสถานที่นิยมของนักท่องเที่ยวเนื่องจากทรงอนุญาตให้ประชาชนได้เข้าชมพระราชวังอย่างใกล้ชิด
ร่วมเปิดประสบการณ์ระดับเฟิสต์คลาส พร้อมสัมผัสความงดงามผ่านภาพและตัวหนังสือของสถานที่สำคัญ ซึ่งเป็นมรดกโลกทั้ง 52 แห่งในนิตยสารฉบับพิเศษ “HELLO! Travel ฉบับปี 2016” ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปได้แล้ววันนี้ :: Text by FLASH
Lifestyle
Comments are closed.