>>เมื่อลมหนาวพัดมาก็ถึงเวลาโบกมือลาฤดูใบไม้ร่วง เตรียมพร้อมเข้าสู่ฤดูหนาวแบบเต็มตัว และตามธรรมเนียมแบบญี่ปุ่นแล้ว เขาก็มีวิธีส่งท้ายฤดูกาลแห่งสีส้มแสดแดงนี้กันด้วยความอร่อยของพืชผักและผลิตภัณฑ์แห่งฤดูกาลนี้ และทางห้องอาหารญี่ปุ่นยามาซาโตะ ของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ก็ได้จัดเตรียมความอร่อยเหล่านี้ให้เราได้ลิ้มลองกันแบบญี่ปุ่นแท้ จัดเสิร์ฟในช่วงวันที่ 6-19 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น 
โดยอาหารพิเศษที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง โดยจัดเป็นชุดเพื่อให้บริการทั้งมื้อกลางวัน และมื้อค่ำ จากฝีมือเชฟชิเงรุ ฮางิวาระ หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารยามาซาโตะ คัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงนำเข้าประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาปรุงเป็นอาหารเมนูพิเศษโดยวัตถุดิบชั้นดีอย่าง หอยนางรม เกาลัด ปลาแมคเคอแรล ปลาหางเหลือง ฯลฯ 
เมนูอาหารชุดมื้อกลางวัน ช่วงเวลา 11.30 – 14.30น. ราคาชุดละ 1,300 บาท++ ประกอบไปด้วย ปลาแมคเคอเรลและกุ้งย่าง ซุปเกี๊ยวหอยนางรมและเห็ดชิเมะจิ ซาชิมิชั้นดี (ปลาหางเหลือง ปลาดาบ และหอยสังข์ญี่ปุ่น) ปลากระพงย่างรับประทานพร้อมเกาลัดและชีส ลูกชิ้นปลาซัมมะตุ๋นใส่เห็ดชิทะเกะและต้นหอมญี่ปุ่น เทมปุระกุ้งและผักรวม ข้าวต้มชาปลาแซลมอนและไข่ปลาแซลมอน ซุปมิโซะ และขนมหวานเป็นพุดดิ้งลูกพลับและถั่วหวาน เสิร์ฟพร้อมผลไม้ตามฤดูกาล
ส่วนอาหารชุดมื้อค่ำ “ไคเซกิ” ให้บริการตามแบบราชสำนักญี่ปุ่น ช่วงเวลา 18.00 – 22.30น. ราคาท่านละ 4,500 บาท++ ประกอบด้วยอาหาร 7 รายการ เริ่มต้นจากฟองเต้าหู้ราดซอสแป้งถั่วเหลือง กุ้งและหอยเชลล์ใส่สาเกรับประทานกับผักดอง เห็ดไมทะเกะและซอสครีมงาดำ ซุปปลากระพงแดงนึ่งใส่สาเกและใบซันโชะ ซาชิมิชั้นดี (ท้องปลาทูน่า ปลาโมะมิจิ ปลาหางเหลือง กุ้งหวาน และคาเวียร์) ปลาแมคเคอเรลสเปนและหอยนางรมย่างราดซอสมิโซะเสิร์ฟกับเนื้อเทอริยากิและเกาลัดตุ๋น ปลาซาบะตุ๋นมิโซะกับหัวไช้เท้าและเห็ดหอม เทมปุระปูหิมะ ปลาทรายและผักนานาชนิด เส้นหมี่น้ำญี่ปุ่นหน้าปลาไหลย่างเสิร์ฟกับข้าวห่อสาหร่ายไส้ผักดอง ปิดท้ายมื้อพิเศษด้วยไอศกรีมนมถั่วเหลืองและผลไม้ตามฤดูกาล
ใครที่อยากลิ้มลองความอร่อยของอาหารช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงที่เข้ากับบรรยากาศแบบนี้ ตรงไปได้ที่ห้องอาหารยามาซาโตะ ตั้งอยู่ที่ชั้น 24 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 02 687 9000 หรือ [email protected] หรือที่เว็บไซต์ www.okurabangkok.com
Comments are closed.