เพราะร้านอูเมะโนะฮานะมาตั้งสาขาในต่างประเทศสาขาแรกในเมืองไทย ทำให้คนไทยพลอยรู้จักศัพท์อาหารการกินแบบฉบับญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกคำหนึ่งคือ “ไคเซกิ” อันเป็นวิธีการเสิร์ฟแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยเสิร์ฟอาหารทีละจานจนจบครบ 10 คอร์ส เหมือนธรรมเนียมของชาวตะวันตก เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติความสดใหม่ของอาหารทุกจาน ซึ่งอาหารแต่ละจานนั้นจะได้รับการตกแต่งอย่างประณีตสวยงามตามสไตล์ญี่ปุ่นที่มีความละเมียดละมัยอยู่แล้ว
“อูเมะโนะฮานะ” หมายถึง “ดอกบ๊วย” ซึ่งเป็นร้านชื่อดังจากเมืองคุรุเมะ จังหวัดฟุกุโอกะ เมื่อ 40 กว่าปีก่อน ร้านแรกมีชื่อเสียงในการนำเสนอเมนูปูได้อร่อยล้ำด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม โดยเชฟจะเลือกปูทาราบะและสึวาอิ รวมถึงเมนูอันเป็นเอกลักษณ์ที่โด่งดังอีกเมนูหนึ่งคือ เต้าหู้และยูบะ ที่ใช้เมล็ดถั่วเหลืองออแกนิคเป็นวัตถุดิบหลัก
เมนูที่ร้านนี้มีให้เลือกสั่งทั้งเป็นเซ็ตแบบไคเซกิ ที่มีให้เลือกลิ้มลองความแปลกอร่อย 4 เซ็ต คือ Umenohana Zen เป็นเมนูบรรดาเต้าหู้จานเด็ดของร้านมาอยู่ในเซ็ตนี้ ซึ่งคนญี่ปุ่นชอบกินเต้าหู้เป็นชีวิตจิตใจ เซ็ตนี้จึงกลายเป็นเซ็ตยอดนิยมที่เสิร์ฟสารพัดเต้าหู้มาให้ลิ้มลองกันอย่างจุใจ
Hakubai Zen ปกติเราจะรู้จักชาบูที่ลวกในน้ำซุปหมูหรือน้ำซุปปลา แต่เซ็ตนี้คือชาบูหมูที่จุ่มในน้ำเต้าหู้ แปลกมั๊ยคะ!! มาพร้อมเหล่าบริวารทั้งปลาดิบ และอาหารทะเลย่างบนหินลาวา
Kacho Fu-Getsu เป็นเมนูผสมผสานของอร่อยหลาย ๆ อย่าง อาทิ เต้าหู้ ซาชิมิ เมนูปู หลายรูปแบบ รวมถึงเนื้อวัวย่างบนหินลาวา
ส่วนเซ็ตสุดท้ายชื่อ Umeyu Zen ( 2,850 บาท ) ที่ผู้เขียนได้ลิ้มลองนั้น น่าสนใจมากถือเป็นเซ็ตที่รวมเมนูเด็ดที่มีชื่อเสียงของร้านทั้งหมดมารวมกันอยู่ในเซ็ตนี้ ถ้าภาษายุทธจักรก็ต้องบอกว่ารวมสุดยอดเคล็ดวิชาทั่วยุทธภพ เริ่มจากจานเรียกน้ำย่อย ประเดิม 3 จานเป็นเมนูเต้าหู้ที่หารับประทานได้เฉพาะของร้านนี้เท่า เช่น เต้าหู้มิเนะโอกะ คล้าย ๆ เต้าหู้นมสด ท็อปด้านบนด้วยซอสยูสึมิโสะ จานที่ 2 เป็นฟองเต้าหู้ราดซอสวาริโชวหยุ เป็นฟองเต้าหู้ที่นุ่มละมุนลิ้นมาก อีกจานเป็นหน่อไม้ฝรั่งเนื้อปูสึวาอิห่อด้วยฟองเต้าหู้ ราดด้วยซอสพอนสึ
จานต่อมาคือซาชิมิที่รวมปลาดิบ 3 ชนิดซึ่งแล้วแต่ว่าในวันนั้นจะได้ปลาทะเลสด ๆ อะไรจากตลาด ถัดจากนั้นเป็นอีกจานเด่นของที่ร้านคือปู 2 ชนิดเป็นปูซึวาอิ ขนาดเล็กแต่เนื้อหวานที่สุดในบรรดาปูทั้งหมด อีกชนิดคือปูทาราบะ เป็นตัวใหญ่น้อง ๆ ปูฮอกไกโดทีเดียว ปูชนิดนี้เนื้อจะแน่นกินอร่อย ที่สำคัญคือจะนำปูสดเนื้อใส ๆ มานึ่งในรังถึงที่ทำจากไม้ไผ่ ใช้เวลาประมาณ 7 นาที กลิ่นหอมของเนื้อปูจะกำจายไปทั่วห้องยั่วน้ำลายคนรักปูเป็นยิ่งนัก
ขนมจีบเต้าหู้ลูกโตสั่งตรงจากญี่ปุ่นถูกนำมาเสิร์ฟมาคั่นเวลาก่อนจะเดินหน้าไปถึงเมนูไฮไลต์อย่างเนื้อวัวที่หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า เห็นลายมันแทรกรู้เลยว่าต้องไม่ธรรมดา เพราะเป็นเนื้อวัวคุโระเกะวากิว เป็นวัวพันธุ์ขนดำที่มีไขมันชนิดละเอียดแทรกเข้าไปอยู่ในอณูของเนื้อ นำมาย่างในหินลาวาร้อนจัด เสียงแฉ่ ๆ เมื่อไขมันของเนื้อโดนความร้อน ย่างพอสุกก็ส่งเข้าปาก อ้ำ!!รสชาติหวานหอมสมราคามาก เนื้อนุ่มกำลังดีพอให้เคี้ยว ยิ่งเคี้ยวยิ่งหอมอร่อยถูกใจคนรักเนื้อมาก อ้อ!! ใครชอบกระเทียมก็มี Garlic Butterเอาทาบนหินตอนย่าง ให้กลิ่นหอมรสชาติเข้มข้นขึ้น
ถ้ายังไม่อิ่ม จานต่อมายังเสิร์ฟซูชิหน้าปลาดิบ และปิดท้ายเซ็ตเมนูแบบไคเซกิด้วยขนมหวานมินิโอกะ เป็นนมสดครีมสดหั่นเป็นสีเหลี่ยมชิ้นเล็ก เหมือนคัสตาร์ด รสชาตินุ่ม ๆ นิ่ม ๆ เย็น ๆ ใส่ผลไม้สดทั้งกีวี มะละกอและไซรับและท้ายสุดต้องจิบชาไฮจินฉะ ซึ่งเป็นชาหลังอาหาร มีสรรพคุณช่วยล้างไขมันในเส้นเลือด รับประทานจบก็สบายใจว่าจะไม่มีไขมันจากอาหารมาเกาะตามผนังเส้นเลือดให้เจ็บป่วยภายหลัง
อีกเมนูยอดฮิตที่ลูกค้าทุกคนมาแล้วจะต้องสั่งคือ Hikiage Yuba ( ฮิคิอาเกะ ยูบะ ราคา 450 บาท ++) เป็นเมนูทำฟองเต้าหู้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ใครที่เคยรับประทานฟองเต้าหู้แล้วสงสัยมั๊ยว่าทำกันอย่างไร ถ้าสั่งเมนูนี้มาแล้วจะตื่นเต้นมหัศจรรย์กับภูมิปัญญาในการทำอาหารสุขภาพของคนโบราณมาก
เป็นน้ำเต้าหู้ที่ทำจากถั่วเหลืองนำเข้าจากญี่ปุ่นใส่ลงหม้อต้มสี่เหลี่ยมตั้งอยู่บนเตาแก๊สขนาดเล็กโดยใช้ไฟตุ๋นอ่อน ๆ ทิ้งไว้สัก 7 นาที ด้านบนของน้ำเต้าหู้จะเริ่มจับเป็นฝ้า ใช้ตะเกียบแซะขอบของหม้อเพื่อให้ฟองเต้าหู้ร่อนออกจากขอบหม้อ จากนั้นก็ใช้ตะเกียบคีบฟองเต้าหู้สด ๆ น่ารับประทานขึ้นมาได้ 1 แผ่น แต่ยังมีกรรมวิธีคือหยิบใส่ถ้วยแล้วฝนเปลือกของผลยูสุคล้าย ๆ มะนาวลงไป ตามด้วยวาริโชวหยุ เสร็จแล้วก็ส่งเข้าปาก
ฟองเต้าหู้สด ๆ สีเหลืองนวล ๆ เนื้อนุ่มละมุนลิ้นมาก ให้กลิ่นหอมของเต้าหู้จาง ๆ เท่านี้ก็อร่อยแล้ว ส่วนผิวของผลยูสุและโชวหยุจะช่วยแต่งกลิ่นหอมยิ่งขึ้น
ชุดนี้จะทำฟองเต้าหู้ได้หลายแผ่น สามารถทำแจกได้ครบทุกคน พอน้ำเต้าหู้แห้งเกือบติดก้นหม้อแล้วขอแนะนำว่าอย่าให้เสียของควรซดน้ำเต้าหู้ซะ อร่อยสุด ๆ ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อนเลย เพราะน้ำเต้าหู้โดยทั่วไปจะเติมน้ำจนใสหรือปรุงแต่งจนแทบไม่ได้รสชาติดั้งเดิมของน้ำเต้าหู้แท้ ๆ
ส่วนคนรักปูห้ามพลาดเมนูนี้เด็ดขาด Kani Moriawase (คานิ โมเรียวาเสะ ราคา 3,850 บาท ) แค่เห็นปูเปลือกสีส้มสดชิ้นโต ๆ อยู่ในจานก็แทบจะบ้าคลั่งแล้ว จานนี้ใช้ปูทาราบะเนื้อแน่นและปูซึวาอิเนื้อหวานมาปรุงให้ลิ้มลอง 5 สไตล์ ทั้งนึ่ง ย่าง ซูชิเนื้อปู และชุบแป้งทอด กินกันเพลินๆ
ร้านอูเมะโนะฮานะ ตั้งอยู่ที่อาคารนิฮอนมูระ มอลล์ ชั้น 3 ซอยทองหล่อ 13 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 15.00 น. และ 18.00 – 23.00 น. ถ้ามากันหลายคนขอแนะนำให้โทรจองล่วงหน้าดีกว่า เพราะลูกค้าแน่นมาก โทร. 084-438-3892
**การเสิร์ฟแบบไคเซกิ จะเรียงลำดับการอาหารดังนี้ โคบาชิ( อาหารเรียกน้ำย่อย) / มูชิโมโนะ ( อาหารนึ่ง) / ออนโมโนะ (อาหารอุ่น ) / มูโคะซึเกะ ( ปลาดิบ) / อะซึเกะบาชิ ( อาหารจานหลัก) / นิโมโนะ ( อาหารต้ม) / ยากิโมโนะ ( อาหารย่าง) / อาเกะโมโนะ (อาหารทอด) / ฮันโมโนะ( ข้าว) , ชิรุโมโนะ(ซุป) ,ซึเกะโมโนะ(ผักดอง) / ขนมหวาน
ภาพโดย ธัชกร กิจไชยภณ
Comments are closed.