ART EYE VIEW—ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของราชวงศ์จักรี ที่ได้สร้างประโยชน์สุขให้กับปวงชนชาวไทย สร้างความมั่นคงและความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศชาติ ภายใต้ร่มพระบารมี มากว่า 200 ปี
เนื่องใน “วันจักรี” วันที่ 6 เมษายน ปีนี้ ศิลปินไทย 8 ท่านได้แก่ วัชระ กล้าค้าขาย,แดง บัวเสน,วิศนุพงศ์ หนูนันท์,ธนฤทธิ์ ทิพย์วารี,ชัชวาล รอดคลองตัน,กิตติพงศ์ สุริยทองชื่น,ทวีศักดิ์ ศรีทองดี และธวัชชัย สมคง จึงมีผลงาน พระบรมสาทิสลักษณ์และพระบรมรูปของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ หลากเทคนิคการสร้างสรรค์ ในรูปแบบเฉพาะตน มาจัดแสดงให้ชมผ่าน
นิทรรศการ ภูมิใจภักดิ์ รักจักรี (Beloved Chakri Art Exhibition) ระหว่างวันที่ 4 – 12 เมษายน พ.ศ.2557 ณ บริเวณชั้น 2 ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ ใกล้ท่าน้ำสี่พระยา
อีกหนึ่งนิทรรศการที่ต้องการบอกกล่าวเล่าแจ้งด้วยว่า ริเวอร์ซิตี้ มีนโยบายกลับมาคืนพื้นที่ศิลปะให้กับศิลปินและผู้ชม ดังนั้นต่อไปนี้ บริเวณชั้น 2 จะมีนิทรรศการศิลปะที่น่าสนใจหมุนเวียนมาให้ชมตลอดทั้งปี
ความเป็นมาของ “วันจักรี”
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่1)เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีและทรงสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของไทย เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325
โดยชื่อของราชวงศ์จักรี มีที่มาจากบรรดาศักดิ์ของ “เจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์” ตำแหน่งสมุหนายก ซึ่งเป็นตำแหน่งทางราชการที่พระองค์เคยดำรงตำแหน่งมาก่อนในสมัยกรุงธนบุรี
คำว่า “จักร” และ “ตรี” เป็นเทพอาวุธของพระนารายณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระแสงจักรและพระแสงตรีไว้ 1 สำรับ
และกำหนดให้ใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำราชวงศ์จักรีสืบมาจนปัจจุบัน (ซึ่งปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี)
ในปี พ.ศ. 2416 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)โปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 4 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อประดิษฐานไว้ให้พระมหากษัตริย์องค์ต่อมา พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนได้ถวายบังคมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นธรรมเนียมปีละครั้ง
และโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แต่มีการย้ายสถานที่ในการประดิษฐานหลายครั้ง เช่น พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท และพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท เป็นต้น
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ย้ายพระบรมรูปมาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดร ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5 พระบรมชนกนาถ
จนกระทั่ง ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2461 การซ่อมแซมก่อสร้างและประดิษฐานพระบรมรูปทั้ง 5 รัชกาล จึงสำเร็จลุล่วง และได้มีพระบรมราชโองการประกาศตั้งพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูป ในวันที่ 6 เมษายนปีนั้น
และต่อมาโปรดฯ ให้เรียกวันที่ 6 เมษายนว่า “วันจักรี”
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW ของ www.astvmanager.com และ ART EYE VIEW เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: [email protected]
และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews
Comments are closed.