[email protected]
ใครทราบเรื่อง “ใบรับรองความโสด” ที่ต้องให้ผู้หญิงทำกันหรือยังคะ ..อาจมีคนทราบบ้าง ไม่ทราบบ้าง..งั้นเรามาอ่านเนื้อหาข่าวนี้กันเลย
นายยศศักดิ์ คงมาก ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติม ในการออกหนังสือรับรองให้กับบุคคลที่ร้องขอเพื่อแสดงว่าตนเองไม่มีคู่สมรสหรือที่เรียกว่าหนังสือรับรองความเป็นโสด เพื่อให้สำนักทะเบียนท้องถิ่นทั่วประเทศ รวมถึง 50 สำนักงานเขตของ กทม.ใช้ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน
ซึ่งเดิมในการออกหนังสือรับรองความโสด กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดแนวทางไว้ตามหนังสือที่ มท 0404/ว98 ลงวันที่ 21 มกราคม 2529 เพื่อนำไปใช้ในการติดต่อทำนิติกรรมต่างๆ รวมถึงการสมรสด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังมีการแก้ไขกฎหมายที่ให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว หรือหย่าสามี สามารถใช้คำนำหน้าชื่อว่า น.ส.ได้ ทำให้เกิดความสับสนในการตรวจสอบ แม้ว่าจะมีระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 แล้วก็ตาม
เนื่องจากก่อนหน้านั้น ข้อมูลทางทะเบียนใช้วิธีการจดบันทึกและไม่ได้นำลงคอมพิวเตอร์ ทำให้การตรวจเช็กข้อมูลเก่าทำได้ยาก รวมถึงกรณีสาวไทยไปจดทะเบียนกับคนต่างชาติในต่างประเทศ ข้อมูลของไทยก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ ขณะที่หญิงไทยที่ต้องการสมรสในต่างประเทศ เกือบทุกประเทศกำหนดให้มีเอกสารรับรองความเป็นโสด แม้กระทั่งในประเทศไทยเองในเรื่องการทำนิติกรรมต่างๆ ก็ใช้เอกสารรับรองความโสด เช่น กรมที่ดินใช้ในเรื่องการโอนหรือขายที่ดิน
นายยศศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้น กรมการปกครองจึงกำหนดแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติมในการออกหนังสือรับรองที่เข้มงวดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ต้องสอบถามสตรีผู้ร้องขอว่าต้องการหนังสือรับรองไปใช้เกี่ยวกับเรื่องใด เช่น หากผู้ร้องนำไปใช้เป็นหลักฐานในการสมรสกับบุคคลต่างชาติ ก็ต้องมีคุณสมบัติเข้าเงื่อนไขการสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมทั้งต้องตรวจสอบพยานเอกสารและพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยต้องนำหลักฐานเอกสารส่วนตัว เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านไปด้วย และต้องมีการนำพยานบุคคล 2 คน ไปอ้างอิงเพื่อให้ปากคำและข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ หากเป็นพยานเท็จจะต้องถูกดำเนินคดีอาญามีโทษทั้งจำทั้งปรับต่อไป …
อ่านเนื้อหาข่าวนี้จบแล้ว ใครเป็นผู้หญิงที่เตรียมตัวแต่งงานหรือทำนิติกรรมต่างๆ เช่น จะซื้อขายหรือโอนทรัพย์สินบ้าน ที่ดิน หรือคอนโด ก็ต้องลุกขึ้นแต่งตัวไปขอใบรับรองความโสดมาเก็บไว้กับตัวแล้วล่ะค่ะ ที่สำคัญงานนี้ไปคนเดียวไม่ได้ด้วยนะคะ ต้องพาพยานบุคคลไปกับเราด้วยสองคนเพื่อไปยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า เรานี้เป็นโสดของแท้จริงๆ
เฮ้อ..เป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก ตูจะเป็นโสด ไม่มีสามี เพราะหา(ดี)ไม่ได้ก็ไม่มีใครเชื่อ เจ้าหน้าที่ของรัฐเองก็ไม่เชื่อข้อมูลที่ตนมีอยู่ ระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 ก็ไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้ดีพอ
แถมผู้หญิงพูดคนเดียวก็ไม่น่าเชื่อถือ เพราะไม่สามารถยืนยันความเป็นโสดของตัวเองได้ ต้องมีพยานบุคคลไปยืนยันความเป็นโสดของเราอีกสองคน (ถ้าโกหกก็ต้องถูกดำเนินคดีทางอาญา มีโทษทั้งจำคุก ทั้งปรับ ฐานแจ้งความเท็จ แต่จำคุกคนเดียวก็ไม่ได้น่ะค่ะ คุณผู้อ่าน ต้องให้มีเพื่อนไปร่วมจำคุกอีกสองคน 555)
ทำไมศักดิ์ศรีความน่าเชื่อถือ ในความเป็นลูกผู้หญิงมันต่ำเตี้ย ติดดินอย่างนี้ค่ะ..ท่านเจ้าหน้าที่ของรัฐ ช่างเป็นแนวคิดวิธีปฏิบัติที่คำนึงถึงสิทธิความเสมอภาคเท่าเทียมกันเหลือเกิน !
ด้านคุณผู้ชายทั้งหลายใช้คำนำหน้าว่า “นาย” ตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเลยจนตาย ไม่ว่าจะแต่งงานหรือไม่แต่งงาน หรือจะแต่งงานสักกี่หนกี่ครั้งก็ตาม ก็ยังใช้ “นาย” อยู่อย่างนั้น
และที่ผ่านมา คุณผู้ชายทั้งหลายก็ไม่เคยสร้างปัญหาอะไรเลยใช่ไหมคะ? สงสัยตั้งแต่ตั้งหน่วยงานทะเบียนราษฎรขึ้นมา ประเทศไทยไม่เคยมีปัญหาผู้ชายสมรสซ้อนเลย? กรมที่ดินไม่เคยมีปัญหาผู้ชายแอบขายบ้านที่ดิน ซึ่งเป็นที่สินสมรสเลยด้วย?
แหม..ถ้าคุณผู้ชายเป็นคนแสนดีอย่างนี้ก็สมควรแล้วล่ะค่ะ ที่หน่วยงานภาครัฐต้องออกกฎระเบียบปฎิบัติให้ผู้หญิงมีใบรับรองความโสด ไม่อย่างงั้นคุณผู้ชายที่แสนดีทั้งหลายคงจะกลัวไม่กล้าจีบผู้หญิงคนไหน เพราะไม่รู้ว่าเธอโสดจริงหรือเปล่า?
ตั้งแต่รัฐบาล รสช.ได้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายคำนำหน้าชื่อสตรี เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาในมาตรา 30 ที่ว่าด้วยความเสมอภาคเท่าเทียมกันระหว่างหญิงชาย ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ได้บัญญัติไว้ และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ ก็ดูจะมีแต่สร้างปัญหาให้กับคุณๆ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐมาโดยตลอดน่ะค่ะ
ดังนั้นอ้วนขอแนะนำให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยยื่นเรื่องถึงศาลปกครองในการออกระเบียบปฏิบัตินี้ก่อนดีไหมคะ หรือถ้าต้องการลดขั้นตอนยุ่งยากก็ยื่นเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญขอให้ยกเลิกกฎหมายคำนำหน้าชื่อสตรีที่แก้ไขใหม่เสียเลย เพราะทำให้เกิดปัญหาในขั้นตอนปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายทะเบียนฯ
แต่ เอ..ถ้าเราต้องใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 นี้อยู่ต่อไป “สิทธิความเสมอภาคหญิงชาย” ก็ยังต้องมีอยู่ใช่ไหมค่ะ อย่างนี้ ต้องรบกวนถามว่า แล้วทำไม? ต้องให้ผู้หญิงมีใบรับรองความโสดอยู่ข้างเดียวล่ะค่ะ อ้วนก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งล่ะ ที่อยากได้..ใบรับรองความโสดของคุณผู้ชายบ้าง ไม่ทราบว่ากรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยจะจัดการเรื่องนี้ให้ผู้หญิงบ้างได้ไหมคะ?
อ้อ..ขอให้มีพยานรับรองความโสดของผู้ชายสองคนด้วยนะคะ อิอิ
Comments are closed.