อูโบลท์ เอาใจแฟนบอลพรีเมียร์ลีก ด้วยนาฬิกาจักรกลสุดคลาสสิก

แฟนบอลนับล้านทั่วโลกต่างดีใจไปกับการกลับมาอีกครั้งของฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก “อูโบลท์รักฟุตบอล” (Hublot Loves Football) และเราไม่พลาดที่จะเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษใหม่ล่าสุดเพื่อฉลองการกลับมาของ การแข่งขันฟุตบอลที่เข้มข้นและน่าติดตามที่สุด เราขอแนะนำคลาสสิก ฟิวชัน โครโนกราฟ พรีเมียร์ลีก (Classic Fusion Chronograph Premier League)

การเปิดตัวคลาสสิก ฟิวชัน โครโนกราฟ พรีเมียร์ลีก เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอูโบลท์ต่อกีฬาลูกหนังที่งดงามนี้ นับเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาระหว่างแบรนด์นาฬิกากับฟุตบอล ซึ่งมีความแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่เริ่มต้นในปี 2549

ในฐานะผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของพรีเมียร์ลีกมาตั้งแต่ปี 2563 อูโบลท์เป็นผู้สนับสนุนลีกฟุตบอลแห่งนี้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกมาโดยตลอด พรีเมียร์ลีกได้รับการถ่ายทอดสดไปยัง 900 ล้านครัวเรือนใน 189 ประเทศ และมีผู้ติดตามถึง 1.66 พันล้านคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับพรีเมียร์ลีกผ่านสื่ออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

แต่เรื่องราวจะน่าเล่าขานก็ต่อเมื่อเรื่องนั้นเป็นประโยชน์ต่อปัจจุบันหรืออนาคต ดังนั้น อูโบลท์จะจัดงานอีเวนต์พิเศษอันเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันคู่ อาร์เซนอล vs. แมนเชสเตอร์ซิตี้ ในวันที่ 8-9 ตุลาคม โดยรวบรวมเหล่าแอมแบสซาเดอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและบุคคลสำคัญร่วมสมัยในวงการฟุตบอลมาในงานนี้

แมตช์ชั้นนำ ลีกฟุตบอลที่ทรงเกียรติที่สุดในโลก และแขกรับเชิญระดับตำนานแห่งวงการลูกหนัง… แล้วอูโบลท์จะต้องการอะไรอีกสำหรับการเปิดตัวนาฬิกาคอลเลกชันพิเศษรุ่นนี้ ด้วยการผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือนพร้อมหมายเลขกำกับไม่ซ้ำกัน คลาสสิก ฟิวชัน โครโนกราฟ พรีเมียร์ลีก คือบทพิสูจน์ที่เด่นชัดของอูโบลท์ต่อแฟนบอลพรีเมียร์ลีกทุกคนและเหล่าแชมเปี้ยนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลีก นี่เป็นนาฬิกาโครโนกราฟจักรกลเรือนแรกที่อูโบลท์ทำขึ้นสำหรับพรีเมียร์ลีกโดยเฉพาะ

เช่นเดียวกับนาฬิกาบิ๊กแบง อี (Big Bang e) ที่สร้างขึ้นสำหรับพรีเมียร์ลีกในปี 2563 คลาสสิก ฟิวชัน โครโนกราฟ พรีเมียร์ลีก รุ่นใหม่นี้ยังมีสีม่วงเข้มที่โดดเด่นประดับสายรัดและหน้าปัด ตัวนาฬิกามี 2 หน้าปัดย่อยตามแบบฉบับของรุ่นคลาสสิก ฟิวชัน โดยที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาของวงหน้าปัดระบุวินาทีจะมีโลโก้สิงโตสวมมงกุฎซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันน่าภาคภูมิใจของพรีเมียร์ลีก รูปสิงโตสวมมงกุฎนี้ยังสามารถพบได้บนกระจกด้านหลัง และเหนือหมายเลขประจำตัวของเจ้าของผู้โชคดีทั้ง 100 ท่าน นาฬิกาเรือนนี้เหมาะสำหรับนักสะสมที่มีทั้งความหลงใหล พร้อมใส่ใจประเพณี ประสิทธิภาพ และความเป็นเลิศควบคู่กันไป