ใกล้จะถึงวันชี้ชะตาของคนกรุงเทพฯ เข้ามาทุกขณะ เรียกได้ว่าเหลืออีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะรู้แล้วว่า ใครที่จะได้เข้ามาช่วยดูแลแก้ปัญหา และสร้างความเจริญให้กับมหานครแห่งนี้ เวลานี้จึงเห็นบรรดาผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ออกมาแย่งพื้นที่สื่ออย่างดุเดือด ทุกรายการต่างเชิญไปร่วมดีเบต และขึ้นเวทีปราศรัยกันแทบไม่เว้นแต่ละวัน
ในอีกมุมหนึ่งก็มีการต่อสู้ห้ำหั่นไม่แพ้กัน สำหรับเหล่าทีมงานของบรรดาผู้ว่าฯ คนดัง และผู้สมัครสภากรุงเทพมหานครในเขตต่างๆ ซึ่งในทั้ง 50 เขตของกรุงเทพฯ แต่ละพรรคก็ต่างส่งผู้สมัครเข้าชิงชัยกันอย่างเต็มที่ และขนเอาผู้สมัครโปรไฟล์ดีนามสกุลดัง มาช่วยเรียกคะแนนเสียง และร่วมลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย จะมีใครเป็นใครกันบ้างนั้น ลองไปดูกัน?
“โตโต้–อภิชาต สนิทวงศ์ ณ อยุธยา” แม้จะเติบโตจากธุรกิจอาหาร แต่หนุ่มคนนี้ก็มีความสนใจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทำสตาร์ทอัพ สร้างสรรค์แอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับการถ่ายภาพแบบครบวงจร เปิดร้านอาหาร มาจนตอนนี้ได้ก้าวมาทดลองชิมงานด้านการเมือง ด้วยการเป็นทีมงานจากพรรครักษ์กรุงเทพ ทีมอัศวิน เข้าชิงตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ที่เขต 7 สาทร หมายเลข 3
โตโต้เรียนจบด้านเศรษฐศาสตร์ จากยูนิเวอร์ซิตี้ออฟโคโลราโด ต่อด้วย ปริญญาโท MBA ที่ศศินทร์ และได้เคยเข้าร่วมงานกับ บุญรอดบริวเวอรี่ ทำด้าน Business Development หลังจากนั้นก็หันมาเดินสายงานด้านธุรกิจเต็มตัว โดยทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางด้านธุรกิจและการลงทุนมาได้หลายปีแล้ว จึงมีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่หลากหลาย
งานนี้ต้องรอดูว่าหนุ่มโตโต้จะได้รับข่าวดีแบบสองต่อหรือไม่ เพราะในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ นอกจากจะต้องลุ้นผลการเลือกตั้งแล้ว เขายังมีอีกหนึ่งงานใหญ่ นั่นคือฤกษ์งามยามดีในการเข้าพิธีวิวาห์กับ “เฟิร์น–สุตรีลักษ์” แฟนสาวแอร์โฮสเตสคนสวยในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้อีกด้วย เรียกได้ว่าตอนนี้เขาต้องวิ่งหัวหมุนเตรียมพร้อมรับวันสำคัญของชีวิตอย่างเต็มที่
“พงศ์ธร เพชรชาติ” เซเลบนักธุรกิจหนุ่มที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหู แต่ถ้าเอ่ยถึงชื่อภรรยาของเขา “นุ่น-โสภาวดี เพชรชาติ” เชื่อได้ว่าในแวดวงสังคมไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเธอถือเป็นหนึ่งในเจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่นบ้านเรา นั่งกุมบังเหียน Club21 ที่นำเข้าแบรนด์ดังๆ มากมายมาอย่างยาวนาน โดย “ปุ๋ย–พงศ์ธร เพชรชาติ” ตัดสินใจหันเหเบนเข็มมาด้านงานการเมือง ด้วยการลงสมัครชิงที่นั่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตวังทองหลาง ในหมายเลข 6 โดยเขาเป็นส่วนหนึ่งของพรรครวมไทยยูไนเต็ด พรรคการเมืองใหม่ที่น่าจับตามอง ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันของคนที่อยากเห็นประเทศไทยมีประชาธิปไตย ไม่แตกแยก รวมเอาคนรุ่นใหม่น่าสนใจมาไว้ด้วยกัน ประหนึ่งทีมกีฬา จึงได้ใช้ชื่อว่า “รวมไทยยูไนเต็ด” โดยมี วรนัยน์ วานิชกะ อดีตนักเขียนและบรรณาธิการนิตยสาร นั่งเป็นหัวหน้าพรรค
พงศ์ธร ถือเป็นหนึ่งในแกนหลักในการดำเนินนโยบายพรรค เรื่องผู้ว่านกฮูก เน้นเพิ่มเติมการบริหารงาน ดูแลประชาชนนอกเวลาราชการ ให้เหมาะกับการเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหลของกรุงเทพมหานคร โดยเขามีความสนใจในประเด็นด้านการขับเคลื่อนความปลอดภัย และการพัฒนาชีวิตประชาชนยามค่ำคืน
สำหรับอีกหนึ่งหนุ่มที่มาจากพรรคนี้เช่นเดียวกัน คือ “เคน-คมจักร จักรพันธุ์ ณ อยุธยา” หนุ่มมาดดี อดีตนักรักบี้ทีมชาติไทย ที่ลงสมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ในเขตคลองเตย หมายเลข 2 หนุ่มนักกีฬาพันธุ์แท้คนนี้ขอโอกาสเข้ามาดูแลกรุงเทพมหานคร พร้อมความตั้งใจของคนรุ่นใหม่ที่จะผลักดันแวดวงกีฬาให้ก้าวเข้าสู่การเป็นอาชีพได้อย่างเต็มภาคภูมิ
เคน-คมจักร จบการศึกษาด้านธุรกิจจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และในสมัยประถมและมัธยม เขาเรียนที่วชิราวุธวิทยาลัย สถาบันการศึกษาที่ทำให้เขาหลงรักในรักบี้ และพัฒนาฝีมือจนก้าวไปติดทีมชาติ และคว้าเหรียญทองแดงซีเกมส์มาครองได้ ส่วนในระดับสโมสรเขาอยู่สังกัดทีมสโมสรทหารบก
ข้ามมาอีกหนึ่งพรรคที่ถือได้ว่าเป็นสังกัดใหญ่ที่มีหน้าเก๋าๆ มากมาย อย่าง พรรคไทยสร้างไทย ที่มีหัวหอก อย่าง คุณหญิงหน่อย–สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นโลโก้พรรค และมี “ศิธา ทิวารี” ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรค ในพื้นที่เขตบางเขน ก็ได้ “เก่ง-วิกรม ธรรมวัฒนะ” ลงสมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หมายเลข 4
โดยเขาถือได้ว่าเป็นเจ้าถิ่นของเขตนี้ เพราะถ้าพูดถึงนามสกุลธรรมวัฒนะ ที่แสนจะโด่งดังใครๆ ก็รู้จักว่าเป็นเจ้าของตลาดยิ่งเจริญ ตลาดสำคัญในย่านบางเขน โดยวิกรมถือเป็นรุ่นหลาน เขาเป็นบุตรชายของนายเทอดชัย หรือผู้ใหญ่แดง ซึ่งแม้ทุกวันนี้เขาจะไม่ได้นั่งเป็นผู้บริหาร ดูแลธุรกิจตลาดให้บริการผู้คนย่านนี้แล้ว แต่เขาก็ยังอยากช่วยดูแล ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้คนในเขตบางเขนอยู่เช่นเดิม
ปิดท้ายด้วยสาวคนนี้ “แอนนา-หทัยรัตน์ ธนากิจอำนวย” ภรรยาของ “ลูกนัท-ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย” ซึ่งเพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยเธอได้เข้าร่วมกับพรรครวมไทยยูไนเต็ด ลงสมัครในเขตสวนหลวง ด้วยหมายเลข 2 แม้นามสกุลคุ้นๆ หูนี้จะเป็นของสามีเธอ แต่สาวคนนี้ก็เป็นที่รู้จักไม่น้อยหน้ากัน ที่สำคัญ เธอกำลังอยู่ในกระแส จากการไปพัวพันกับคดีดังสุดฉาวในแวดวงการเมือง กับคดีการฟ้องร้องด้านการล่วงละเมิดทางเพศ ของอดีตรองหัวหน้าพรรคชื่อดัง โดยเธอออกมาแสดงตัวว่าเป็นเหยื่ออีกคนหนึ่ง
แต่ก็เป็นที่น่าเสียดาย เนื่องด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เธอกลัวว่าคนจะมองเจตนาในการออกมาเคลื่อนไหวอย่างนี้ผิดไป ทำให้เธอตัดสินใจขอถอนตัวลาออกจากการลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ แต่เห็นอุดมการณ์อันแรงกล้าของเธอ ที่อยากช่วยผลักดันและขับเคลื่อนสิทธิสตรี เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ รวมไปถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่เป็นประจำ เชื่อได้ว่าเส้นทางการเมืองของเธอไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่นอน
Comments are closed.