ดราม่าผ่อนถ่ายตำแหน่งประธานาธิบดียังไม่จบ ไม่เพียงแค่แผนการจงใจไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เท่านั้น ทว่า ภริยาของเขาอย่าง เมลาเนีย ทรัมป์ ก็ละเลย “ขนบ” ของการส่งไม้ต่อนี้ด้วยเช่นกัน
ร้อนถึง แอชลีย์ ไบเดน คุณหนูหมายเลขหนึ่งที่ปกติค่อนข้างสงบปากสงบคำ ยังต้องออกมาติงอดีตสตรีหมายเลขหนึ่งที่ไม่ยอมทำตามประเพณีของทำเนียบขาว
ลูกสาวคนเดียวของประธานาธิบดีคนที่ 46 แอชลีย์ ไบเดน ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากที่ โจ ไบเดน บิดาของเธอชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี และกำลังจะเข้าพิธีสาบานตนในค่ำคืนวันนี้ตามเวลาประเทศไทย
แอชลีย์ พูดถึงหลายๆ ประเด็น ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดของพิธีสาบานตน ความโกลาหลที่เกิดขึ้นในวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกของเธอและครอบครัวที่มีต่อการละเลยประเพณีอันดีงามของทำเนียบขาวของ เมลาเนีย ทรัมป์
สำหรับประธานาธิบดี จะมีการส่งต่อตำแหน่งอย่างเป็นทางการผ่านพิธีสาบานตน ขณะที่สตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศ ก็มีประเพณี ‘ส่งต่อ’ ด้วยเหมือนกัน ผ่าน “ที แอนด์ ทัวร์” ซึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ จะต้องเชิญ จิล ไบเดน มาจิบน้ำชาและพาทัวร์ทำเนียบขาว ที่กำลังจะเป็นบ้านของประธานาธิบดีคนใหม่ไปอีก 4 ปี ก่อนที่เธอจะย้ายออกไป
ทว่า โชคร้ายที่อดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง กลับปฏิบัติตัวไม่ต่างจากสามีของเธอ ปฏิเสธการจัดพิธี “ที แอนด์ ทัวร์” ต้อนรับว่าที่สตรีหมายเลขหนึ่งคนต่อไป ซึ่ง แอชลีย์ แม้ปากออกมาบอกว่า ครอบครัวของเธอเห็นว่า “ไม่เป็นไร” แต่ในใจคงแอบเคือง ไม่อย่างนั้นคงจะไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
ในเรื่องนี้ แคปริเซีย มาร์แชล อดีตเลขาธิการฝ่ายสังคมของทำเนียบขาวในสมัยประธานาธิบดี บิล คลินตัน ให้ความเห็นว่า เมลาเนีย ควรจะเชิญ จิล มาจิบชากาแฟ และพาทัวร์ทำเนียบขาวตามประเพณี “ที แอนด์ ทัวร์” เพื่อที่จะให้ว่าที่สตรีหมายเลขหนึ่งได้สานสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบ ก่อนที่จะย้ายเข้ามาพักอาศัย
แอชลีย์ ไบเดน ยังพูดถึงแผนในอนาคตของตัวเธอเอง ว่า จะไม่เป็นส่วนหนึ่งในทีมงานบริหารประเทศของคุณพ่อประธานาธิบดีอย่าง อีวานก้า ทรัมป์
นักเคลื่อนไหวทางสังคมวัย 39 บอกว่า จะมุ่งมั่นทำงานเพื่อสังคมต่อไป โดยเฉพาะการเข้าไปช่วยทวงคืนความยุติธรรมแก่ผู้ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบทางกฎหมาย รวมทั้ง ช่วยเหลือคนที่เป็นทุกข์จากสุขภาพจิต
สถานีซีเอ็นเอ็นซึ่งถ่ายทอดบทสัมภาษณ์ แอชลีย์ ไบเดน เปิดเผยว่า คุณหนูหมายเลขหนึ่งไม่ค่อยพูดถึงเรื่องราวของตัวเองมากนัก อย่างที่รู้กันว่า เธอหวงแหนความเป็นส่วนตัวสูงมาก
สิ่งที่เธอพูดถึงเยอะๆ ก็คือ เรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อครอบครัวของ โจ ไบเดน หลังจากที่ชนะคะแนนในการเลือกตั้งเป็นต้นมา เธอบอกว่า สังคมอเมริกัน โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย “โหดร้ายและไม่ปราณี” นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่แอชลีย์ไม่เปิดเผยโซเชียลมีเดียแอคเคาน์ต่อสาธารณชน โดยให้เหตุผลว่า เธอต้องการอยู่ในโซนที่รู้สึกปลอดภัย
Comments are closed.