“เพราะผู้หญิงย่อมเข้าใจผู้หญิงด้วยกัน” BDMS Wellness Clinic จึงจัดทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางที่พร้อมให้การดูแลและให้คำปรึกษาทุกเรื่องสุขภาพที่ผู้หญิงกังวล พร้อมการบริการที่ครบครัน ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ในสถานที่อันเป็นส่วนตัว สะดวกสบาย ตอบโจทย์สำหรับผู้หญิงทุกช่วงวัย
แพทย์หญิง วราธิป โอทกานนท์ ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวช ประจำคลินิกส่งเสริมสุขภาพสตรี (Women’s Health Clinic) ที่ BDMS Wellness Clinic จะพาเราไปรู้จักกับคลินิกส่งเสริมสุขภาพสตรีและเรื่องสำคัญที่ผู้หญิงควรรู้
เริ่มแรกคุณหมอกล่าวถึงที่มาของ คลินิกส่งเสริมสุขภาพสตรี (Women’s Health Clinic) ว่า “เป็นคลินิกเฉพาะทางที่มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพให้กับผู้หญิงทุกช่วงวัยโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ เนื่องด้วยเทรนด์ของผู้หญิงยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับประสบการณ์ในการดูแลสุขภาพผู้หญิงจึงมีความเข้าใจในความละเอียดอ่อนรวมถึงความจำเพาะเจาะจงของเพศหญิงที่ไม่ใช่เพียงเรื่องของสูตินรีเวช แต่ยังรวมถึงความกังวลใจและการสื่อสารที่ตรงจุด ซึ่งผู้หญิงด้วยกันจะเข้าใจกันได้ดี จึงเป็นที่มาของคลินิกส่งเสริมสุขภาพสตรี ที่มีบุคลากรทางการแพทย์ผู้ชำนาญการ ที่ได้คัดสรรมาเพื่อเป็นทางเลือกตามความต้องการของผู้รับบริการแต่ละท่าน โดยคลินิกจะมอบการดูแลด้านสุขภาพ การออกกำลังกาย การสร้างสมดุลด้านฮอร์โมน รวมถึงด้านความสวยงาม โดยให้คำปรึกษา คำแนะนำ และไขข้อข้องใจที่เน้นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดในทุกมิติสำหรับผู้หญิงในทุกช่วงวัย เป็นเดสติเนชั่นในเรื่องของเฮลธ์และเวลเนส มาที่นี่ที่เดียวสามารถดูแลได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า รวมไปถึงสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก
สำหรับจุดเด่นของคลินิกฯ คือ การให้ความใส่ใจกับทุกปัญหาของผู้หญิง บางเรื่องอาจจะไม่ใช่โรคแต่เป็นความไม่สบายตัว ไม่สบายใจ เราก็ไม่ละเลย เพราะที่นี่เรามุ่งเน้นการแก้ปัญหาให้ผู้รับบริการมีสุขภาพที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยทีมแพทย์และทีมซัพพอร์ตที่มีความเป็นมืออาชีพ อีกทั้งเรื่องความเป็นส่วนตัว สำหรับสถานที่ของเราจะเน้นความเป็นส่วนตัวสูง มีลิฟท์ส่วนตัว ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายใจ หรือกล้าที่จะสื่อสารข้อมูลที่ตรงจุดกับทีมแพทย์ที่มีความชำนาญการเฉพาะทาง ที่พร้อมจะให้การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม และยังมี Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok เวลเนสรีสอร์ทที่พร้อมบริการทั้งคนไทยและต่างชาติ นอกจากนี้ การดูแลรักษาที่ออกแบบเฉพาะบุคคล และให้ความสนใจในประเด็นที่มุ่งเน้นแก้ปัญหาของผู้รับบริการจริงๆ โดยมีทีมแพทย์และผู้ชำนาญการเฉพาะด้านทำงานร่วมกัน เพื่อปรับการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลที่สุด”
คุณหมอแนะนำการดูแลสุขภาพของผู้หญิงในแต่ละช่วงวัย ไว้ว่า “หลักกว้างๆ ที่ใช้ในการดูแล คือการสร้างสมดุลของชีวิต เพราะด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน เราอาจจะใช้เวลากับโซเชียลมีเดียหรือสื่อต่างๆ มากขึ้น รวมถึงหน้าที่การงาน ที่ทำให้เวลากินเวลานอนผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น ทำให้เราต้องปรับไลฟ์สไตล์ เพราะทุกการใช้ชีวิตจะส่งผลถึงฮอร์โมน เมื่อถึงวัยที่ต้องการมีบุตร บางครั้งการใช้ชีวิตที่ผ่านมาส่งผลให้ร่างกายไม่พร้อมแต่เราไม่รู้ ซึ่งตรงนี้การตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะช่วยให้เราตรวจพบความเสี่ยงของโรคบางอย่างได้ตั้งแต่ระยะแรกๆ
โดยโปรแกรมการตรวจสุขภาพเราจัดไว้สำหรับทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะวัยรุ่น วัยทำงาน หรือวัยหมดประจำเดือน โดยมีการตรวจสุขภาพอย่างอื่นเพิ่มเติมตามความเหมาะสม เพื่อตรวจเช็กว่าเรามีความเสี่ยงของโรคอะไรที่ซ่อนเร้นอยู่หรือเปล่า และจะได้ปรับร่างกายให้สมดุล อะไรที่ขาดเราก็จะได้เติม อะไรที่เกินเราจะได้ปรับให้มันลดลง เพื่อให้ร่างกายเราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น”
นอกจากนี้ คุณหมอยังบอกถึงอีกเรื่องที่ผู้หญิงต้องใส่ใจคือ “บางครั้งเราสนใจในเรื่องสุขภาพมากจนเกินไปก็อาจส่งผลเสียได้ ยกตัวอย่าง เด็กวัยรุ่น เรื่องของภาพลักษณ์ภายนอกและการยอมรับจากเพื่อนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ทำให้เด็กบางคนคุมอาหารอย่างเข้มข้น ออกกำลังกายมากเกินกว่าปกติ สิ่งนี้จะส่งผลกับฮอร์โมน หรือทำให้ประจำเดือนไม่ปกติ ซึ่งเขาคิดว่าไม่เป็นไร แต่บางทีภาวะฮอร์โมนเขาเหมือนคนอยู่ในวัยหมดประจำเดือนทั้งที่ยังเป็นวัยรุ่น หรือบางคนที่ออกกำลังกายมากๆ ทำให้มีการเพิ่มของอนุมูลอิสระมากเกินไป กลายเป็นส่งผลร้ายต่อตนเอง หรือมีภาวะต่อมหมวกไตล้า จากการใช้ชีวิตเครียด การตรวจสุขภาพจึงเป็นการตรวจหาความเสี่ยงและรู้ก่อนที่จะป่วย เพื่อที่จะปรับไลฟ์สไตล์ให้ร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม”
“สำหรับผู้หญิงวัยทำงาน ที่โหมงานหนักจนเกินไป เมื่อถึงเวลาที่ต้องการสร้างครอบครัวและต้องการมีบุตร อาจจะเลยช่วงพีคหรือช่วงที่ร่างกายสมบูรณ์พร้อมที่สุดไปแล้ว ความสามารถของร่างกายในการสร้างเซลล์สืบพันธุ์หรือไข่ ไม่สมบูรณ์เหมือนตอนที่เราอายุยังน้อยกว่านั้น ซึ่งอาจจะมีโอกาสที่โครโมโซมผิดปกติ ทารกพิการแต่กำเนิด มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ หรือแม้แต่ปัญหามีบุตรยากในอนาคต ตรงนี้เรามีเทคโนโลยี Egg Freezing คือการเก็บไข่แช่แข็งเอาไว้ก่อน เพื่อเตรียมไว้ช่วงที่พร้อมจะมีบุตร หรือในเวลาที่ต้องการ”
คุณหมออธิบายถึง Egg Freezing ว่า “ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ อายุ 20 ขึ้นไปถึง 35 ปี แต่ก็ไม่ได้อยากจำกัดไว้แค่นี้ ช่วงอายุที่มากกว่านี้ก็สามารถทำได้ แต่ต้องมานั่งคุยกันก่อน ให้หมอตรวจร่างกาย แล้วเจาะเลือดวิเคราะห์ฮอร์โมนต่างๆ ว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน บางคนอายุเยอะ แต่ร่างกายก็ยังสามารถผลิตไข่ได้ก็มี ซึ่ง Egg Freezing เป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากบางอาชีพไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ในช่วงวัยที่เหมาะสม หรือบางคนมีความจำเป็นด้านสุขภาพ อาจจะมีโรคที่มีความจำเป็นต้องรักษาด้วยรังสี ใช้เคมีบำบัด หลังจากรักษาแล้วสามารถตั้งครรภ์ได้ แต่ช่วงที่ทำการรักษามันจะไปทำลายเซลล์สืบพันธุ์ที่รังไข่ จึงต้องเก็บไข่ไว้ก่อน แล้วค่อยทำการรักษา ทำให้ผู้หญิงปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเก็บไข่เพื่อฟรีซเอาไว้ก่อนมากขึ้น
ทั้งนี้ ขั้นตอนการเก็บไข่ก็ไม่ได้มีอะไรให้ต้องกังวล เพราะไม่ได้มีความเจ็บปวดใดๆ ขั้นตอนจะมีการเจาะเลือด เพื่อตรวจระดับฮอร์โมน มีการอัลตร้าซาวน์ เพื่อดูความคืบหน้าของไข่ ส่วนการเก็บไข่จะทำในห้องปลอดเชื้อ มีให้ยาระงับปวดและดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมวิสัญญีแพทย์
สำหรับบางท่านที่คิดว่าถ้าเก็บไข่ไปแล้ว ไข่จะหมดไปเลยมั้ย? หรือจะหมดประจำเดือน หรือเข้าวัยทองเร็วหรือเปล่า? ต้องบอกว่า ไม่ใช่นะคะ ในแต่ละรอบเดือนจะมีไข่อยู่จำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ใช้ จะมีอยู่ฟองเดียวที่ไข่ตก ที่เหลือจะฝ่อไปโดยธรรมชาติ แต่เราเอาไข่ที่ต้องสูญเปล่าไปตามธรรมชาตินั้นมาใช้ ฉะนั้นจะไม่ทำให้เราต้องเสียไข่มากกว่าปกติ หรือมีภาวะหมดประจำเดือนก่อนวัย ส่วนไข่ที่ฟรีซก็สามารถเก็บไว้ได้หลายปี และเมื่อพร้อมมีบุตรก็ให้มาพบแพทย์เพื่อผ่านกระบวนการที่ทำให้ปฏิสนธิด้วยวิธีการทำอิ๊กซี่ (ICSI) และฝังตัวอ่อนต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากมีข้อบ่งชี้ก็สามารถวินิจฉัยก่อนที่จะเอาตัวอ่อนฝังไปในโพรงมดลูกได้ ด้วยเทคโนโลยีการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมหรือโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ (PGT-A: Preimplantation Genetic Testing – Aneuploidy)
สำหรับผู้ที่สนใจการทำ Egg Freezing สามารถนัดเข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ได้เลยค่ะ เรามีผู้ชำนาญการคอยให้คำปรึกษา และตรวจเช็กร่างกายให้สมบูรณ์พร้อมที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงทุกคนค่ะ”
นอกจากนี้ สำหรับผู้หญิงที่มีความกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและสุขภาพของตนเอง สามารถนัดพบเพื่อปรึกษาทีมแพทย์ที่พร้อมให้คำปรึกษาทุกเรื่องสุขภาพผู้หญิงในทุกช่วงวัยได้ที่ คลินิกส่งเสริมสุขภาพสตรี บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-826-9971 หรือ www.bdmswellness.com, www.facebook.com/BDMSWellnessClinic/ และอีเมล: [email protected]
Comments are closed.