>>พิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้อัญมณีไทย “สยามเจมส์ เฮอริเทจ” จัดโชว์เครื่องประดับสุดเลอค่าชนิดประเมินราคาไม่ได้ ให้ได้รับชมกันผ่านสื่อผสมและโดมภาพยนตร์ 360° ที่ทันสมัยที่สุดของไทย ที่จะแสดงให้เห็นถึงความวิจิตรบรรจงของช่างฝีมือไทย และดีไซเนอร์ไทยผ่านเครื่องประดับอัญมณีที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ อันได้แก่ “สยามเจมส์ เทียร่า” มงกุฎประดับยอดด้วยทับทิมสยามที่จัดว่าเป็นราชาแห่งอัญมณีทั้งปวง และคอลเลกชันนพเก้าใน “ชุดรวงข้าว” และ“ชุดดวงดาว” ที่ใช้เวลาร่วมปีในการออกแบบและผลิต
“สยามเจมส์ เทียร่า” ประดับด้วยทับทิมสยาม ขนาดใหญ่ถึง 21.09 กะรัต ซึ่งปัจจุบันนี้หาได้ยากยิ่งนอกจากนี้ยังมีทับทิมสยามเม็ดเล็กอีก 24 เม็ด และรายล้อมมงกฎด้วยเพชรแท้กว่า 1,946 เม็ด ใช้เทคนิคการเจียระไนอัญมณีและการขึ้นตัวเรือนแบบพิเศษ เพื่อให้เกิดการตกกระทบของประกายอัญมณีแต่ละเม็ดให้งดงามที่สุด
ชุดคอลเลกชัน มณีนพรัตน์ ที่ถือได้ว่าเป็นการพลิกโฉมการออกแบบเครื่องประดับนพเก้า อัญมณีมงคลทั้ง 9 ชนิดตามความเชื่อของคนไทย ให้มีดีไซน์ที่โดดเด่น ทันสมัยทิ้งภาพนพเก้าแบบดั้งเดิมโดยนำเสนอในคอลเลกชันพิเศษ“ชุดรวงข้าว”ที่ได้แรงบันดาลใจจากรวงข้าวที่อ่อนช้อยพลิ้วไหว ที่เป็นตัวแทนของความเจริญงอกงามที่บ่งบอกความเป็นวิถีไทยประกอบด้วยสร้อยคอ และกำไลที่โดดเด่นด้วย ทับทิมไล่เฉดสีให้สวยงามที่สุดเพิ่มความแวววับสะดุดตาด้วยเพชร ไพลินและบุษราคัม รวมอัญมณี 141 เม็ด น้ำหนักรวม 38.72 กะรัต มาพร้อมกับต่างหูข้าว เหมือนดั่งยอดของรวงข้าวที่ชูช่ออวดความงาม รวมอัญมณี 38 เม็ด น้ำหนักรวม 16 กะรัต ความยากในการผลิตคือการใช้เวลาในการหาอัญมณีที่นำมาเรียงร้อยต่อกัน เพราะอัญมณีแต่ละเม็ดจะต้องไล่เฉดสี เจียระไนรูปทรงให้ได้ขนาดที่กำหนด จึงแสดงถึงเอกลักษณ์ความละเอียดชดช้อยของความเป็นไทยที่ไม่มีวันเลือนหายไปตามกาลเวลา
ส่วน“ชุดดวงดาว” ที่ได้แรงบันดาลใจจากความเปล่งประกายของดวงดาวที่กำลังส่องแสงในยามค่ำคืน เป็นดวงดาว 9 ชนิดประกอบไปด้วยแหวนดวงดาว ที่มีทั้งบุษราคัม ทับทิม และมรกต มาร้อยเรียง พันเกี่ยวอวดโฉมบนนิ้วเปรียบเสมือนมีดวงดาวอยู่ในครอบครอง รวมอัญมณี 90 เม็ด น้ำหนักรวม 18.61 กะรัต พร้อมกับสร้อยคอแบบโชกเกอร์ ที่โดดเด่นด้วยไพลิน ทับทิม และมรกต ที่ใช้เทคนิคพิเศษในการเจียระไน และการขึ้นตัวเรือนให้มีความนูนต่ำแตกต่างกัน เลือกอัญมณีที่มีลูกเล่น คือ Star sapphire เมื่อนำไฟมาส่องดูใกล้ๆ จะเห็นแฉกคล้ายดวงดาวส่วนกำไลข้อมือดวงดาวที่เจิดจรัสด้วยเพชรและอัญมณีหลากสี มีทั้งทับทิมที่เพิ่มความมั่นใจ แข็งแรง มั่นคงตามแบบฉบับผู้หญิงยุคใหม่ เพทายที่ให้ความรู้สึกสงบ รอบคอบ สุขุมอย่างมีระดับ และเสริมความสมดุลอย่างเป็นธรรมชาติด้วยมรกตน้ำงาม
นอกจากที่คุณจะได้ชื่นชมความงามของเครื่องประดับชุดไฮไลต์แล้ว ผู้ที่มาเยี่ยมชมสยามเจมส์ เฮอริเทจ ยังจะได้รับชมประติมากรรมช้างทองคำพ่อลูก (คุณทับทิม และพลายน้อย) รูปทรงงามสง่าหุ้มด้วยทองคำ 99.99% และประดับเครื่องทรงด้วยแก้วนวรัตน์สีสด และภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ยังประกอบด้วย 5 ห้อง ได้แก่ ห้องมณีนิรันดร์ที่ให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์เครื่องประดับของโลก และจำลองเครื่องประดับในยุคต่างๆ ทั่วโลกมาจัดแสดง ถัดมาคือ ห้องมณีประกาย ที่ให้ความรู้เรื่องการเจียระไนอัญมณีในแบบต่างๆ รวมถึงการจัดแสดงอัญมณีในกลุ่มต่างๆ ที่หายาก จากนั้นเป็น ห้องมณีมงคลจัดแสดงนพเก้า อัญมณีสิริมงคลที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อของคนไทย 9 ชนิด ได้แก่ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน ไพลิน มุกดา เพทาย และไพฑูรย์ “สยามเจมส์เทียร่า” สุดยอดมงกุฎที่เลอค่าแห่งกาลเวลา สุดท้ายคือ ห้องมณีวิทยานิทรรศการที่ให้ความรู้อย่างกระชับในเรื่องการออกแบบเครื่องประดับ โดยบอกถึงขั้นตอนการออกแบบ การผลิต ตลอดจนจัดแสดงอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้ในการทำงาน และยิ่งไปกว่านั้นคือ ทุกคนยังได้ลองออกแบบอัญมณีบนจอทัชสกรีนด้วยตัวเอง
รวมถึงความยิ่งใหญ่ของ สยามเจมส์ สเฟียร์ โดมภาพยนตร์ขนาดใหญ่ 15 เมตรจัดแสดงภาพยนตร์เรื่อง “กำเนิดอัญมณี” ที่ให้มุมมอง 360 องศาพร้อมแสงสีเสียงแบบสุดยอด ใครที่อยากสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าประทับใจ และเพลิดเพลินไปกับอัญมณีสวยๆ งามๆ ที่ประเมินค่าไม่ได้เหล่านี้ สามารถแวะไปที่ สยามเจมส์ เฮอริเทจ ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-17.00น. ในราคาท่านละ 200 บาท เด็กความสูงตั้งแต่ 90-135 เซนติเมตร ราคา 100 บาท ผู้ใหญ่อายุ 60 ปีขึ้นไปและเด็กสูงต่ำกว่า 90 เซนติเมตร ไม่เสียค่าใช้จ่าย ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.siamgemsheritage.com หรือโทร. 0-2949-9500 #0
Comments are closed.