Celeb Online

ดินเนอร์อินเดอะสกาย อร่อยระดับ 5 ดาวแบบลอยฟ้า


>>ปิดประสบการณ์รับประทานอาหารแบบสุดพิเศษครั้งแรกในประเทศไทย “ดินเนอร์ อิน เดอะ สกาย” กับการดินเนอร์กลางอากาศบนความสูงกว่า 50 เมตร ชมวิวเมืองกรุงเทพ พร้อมอิ่มเอมกับเซ็ตอาหารแบบ 4 คอร์ส ระดับ 5 ดาว จากฝีมือเชฟใหญ่ของโรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ถือเป็นมื้ออาหารพิเศษที่น่าจะลองสัมผัสสักครั้งในชีวิต

“ดินเนอร์ อินเดอะสกาย” เริ่มต้นจากประเทศเบลเยี่ยม ก่อนที่คอนเซ็ปการรับประทานอาหารแบบใหม่ อย่างการดินเนอร์บนโต๊ะที่อยู่สูงกลางอากาศแบบนี้เริ่มได้รับความนิยม นำไปเปิดให้บริการที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 45 ประเทศ อย่าง ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ โคลัมเบีย จีน มาเก๊า เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ญี่ปุ่น สวีเดน ไต้หวัน โปรตุเก และในบ้านเรา ประเทศไทย เป็นประเทศล่าสุด และเป็นประเทศที่ 2 ในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดย ดินเนอร์ อินเดอะสกาย ประเทศไทย เกิดจากความร่วมมือของดีไอทีเอส เอเชีย (DITS Asia), ดิ เอ็มโพเรียม กรุ๊ป, โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ซึ่งเป็นพันธมิตรบริการอาหารอย่างเป็นทางการ และ Uber Thailand พันธมิตรบริการรับ-ส่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากการที่ผู้บริหารซึ่งได้ไปสัมผัสประสบการณ์นี้ในต่างแดน เล็งเห็นถึงความพิเศษของคอนเซ็ปต์การรับประทานแบบนี้ซึ่งยังไม่มีในเมืองไทย และน่าจะเหมาะกับตลาดบ้านเรา ซึ่งผู้คนชื่นชอบร้านอาหารและบาร์แบบรูฟท๊อป ที่อยู่สูงบนยอดตึก รวมไปถึงการมีนักท่องเที่ยวมากมายที่มองหาความแปลกใหม่และประสบการณ์ใหม่ๆ

ดินเนอร์มื้อนี้เริ่มจากใช้เครนจากยุโรปน้ำหนัก 200 ตัน ยกชุดโต๊ะอาหารพร้อมแขก 22 ท่าน บนเก้าอี้รัดเข็มขัดนิรภัยให้ลอยขึ้นกลางอากาศ ให้แขกได้เพลิดเพลินกับบริการอาหารดินเนอร์มื้อหรูแบบ 4 คอร์ส พร้อมชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงามของท้องฟ้ายามเย็นและยามค่ำของมหานครกรุงเทพฯ โดยมีบริการอูเบอร์รับส่งถึงพื้นที่จัดงานอย่างสะดวกสบาย ซึ่งพื้นที่จัดงาน “ดินเนอร์ อินเดอะสกาย ประเทศไทย ตั้งอยู่ระหว่างศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ สวนเบญจสิริ และไดโนซอร์ แพลนเน็ต บนพื้นที่ของโครงการ ดิ เอ็มสเฟียร์ ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ระดับโลกใจกลางเมือง เพื่อให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศไทยได้สัมผัสประสบการณ์สุดตื่นเต้นและหนึ่งเดียวในโลกนี้

มื้ออาหารแบบ 4 คอร์ส จากเชฟเกตาโน่ พาลุมโบ Executive Chef ของโรงแรมเชอราตันแกรนด์สุขุมวิท โดยใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 1 ชั่วโมง พร้อมเครื่องดื่ม ค็อกเทล ไวน์ แชมเปญ และซ็อฟท์ดริ๊งค์ โดยดินเนอร์จะประกอบด้วย อาหารเรียกน้ำย่อย เนื้อดิบสไลด์ เสิร์ฟกับ สลัดผัก น้ำสลัดเลม่อน และพำร์เมซานชีสโฟม ตามด้วยซุปมะเขือเทศเย็นใส่เนื้อปูและแตงกวา ส่วนอาหารจานหลัก เลือกได้ ระหว่าง ปลาบัตเตอร์ฟิช เสิร์ฟคู่กับ มันฝรั่งกลิ่นหญ้าฝรั่น, หน่อไม้ฝรั่ง, มะเขือเทศเชอร์รี่ และ ซอสบีทรูท, ซี่โครงเนื้อออสเตรเลียตุ๋น เสิร์ฟกับ บาร์บีคิวซอส และ ผักอบ หรือ เนื้อสันในแกะออสเตรเลียอบ เสิร์ฟกับ ถั่วฮาเซลนัท หัวผักกาด และมันม่วงบด และปิดท้ายด้วย ชีสเค้ก รสเสาวรส เสิร์ฟกับ ซอสราสเบอร์รี่ และ ไอศกรีมชาเขียว

สำหรับผู้ที่เป็นมังสวิรัต เมนูจะถูกปรับเปลี่ยนเป็น แตงโมสไลด์ เสิร์ฟคู่กับ สลัดผัก น้ำสลัดเลม่อน และ พำร์เมซานชีสโฟม ซึ่งทำออกมาได้หน้าตาคล้ายกับเนื้อสไตล์มาก และรสชาติอร่อยชุ่มเต็มคำ ส่วนซุปเป็นซุปมะเขือเทศเย็น กับ เปโคริโน่ชีสมูส และ ขนมปังกรอบ และเมนคอร์สเป็น ลาซานญ่าผัก กับ มะเขือเทศ และ ซอสเห็ด และของหวานคือ ชีสเคก้ รสเสาวรส เสิร์ฟกับ ซอสราสเบอร์ร ี่ และ ไอศกรีมชาเขียว

แต่ละวันมี 2 รอบ คือ รอบ Sunset เวลา 18.00 น. และรอบ City Lights เวลา 19.30 น. โดยก่อนจะขึ้นไปรับประทานแขกทุกท่านจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวและแบบฟอร์ม Liability Form มีกฏระเบียบสำหรับความปลอดภัย ซึ่งดินเนอร์ อินเดอะสกาย ใช้ระบบความปลอดภัยระดับเดียวกับธีมพาร์ค สวนสนุก อย่างที่นั่งของแต่ละคนจะมีเข็มขัดนิรภัยคาดถึง 3 เส้น และเซฟตี้เหมือนกับรถไฟเหาะกันเลยทีเดียว โดยเก้าอี้สามารถเอียงเอนและหมุนออกทางด้านข้างเพื่อให้คุณได้ชมวิวในมุมที่กว้างขึ้น

ในทุกทริปที่ลอยฟ้าขึ้นไป นอกจากจะมีการให้ข้อมูลด้านความปลอดภัยและวิธีปฏิบัติตัวโดยละเอียดแล้ว ระหว่างมื้ออาหารยังมีพนักงานดูแลความปลอดภัยค่อยสอดส่องดูแลอยู่ด้วยตลอดทั้งทริป โดยจะประจำอยู่ที่ปลายโต๊ะทั้ง 2 ด้าน พร้อมทั้งจะทำการติดต่อสื่อสารกับผู้ควบคุมเครนและพนักงานภาคพื้นดินตลอดเวลา เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ทั้งหมดตลอดเวลาการให้บริการ บริษัทใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อมอบความปลอดภัยขั้นสูงสุด

ส่วนสัมภาระ หรือ กระเป๋า จะมีล็อกเกอร์ให้ฝากบริเวณด้านล่าง โดยของที่สามารถนำขึ้นไปได้คือ สิ่งของที่มีขนาดไม่เกินฝ่ามือ อย่าง โทรศัพท์มือถือ สำหรับเก็บภาพ (สำหรับไม้เซลฟี่ สามารถนำขึ้นไปได้ แต่ต้องดูแลรักษาทรัพย์สินของตัวเอง โดยทางพนักงานแจ้งว่ามีหลายท่านที่ไม้เซลฟี่อาจจะหนีบหรือล็อกตัวโทรศัพท์ไม่แข็งแรง อาจทำให้โทรศัพท์ล่วงหล่นลงมาได้)

สำหรับใครที่จะไปลองสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ สามารสำรองที่นั่งได้ โดยในวันจันทร์-ศุกร์ ราคา 4,990 บาท และวันเสาร์-อาทิตย์ ราคา 5,390 บาท ซึ่งการเดินทางไปสามารถเลือกใช้บริการของ Uber ซึ่งเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ ให้บริการรับ – ส่งด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ หรือถ้าใครขับรถไปเองสามารถจอดรถได้ฟรีที่ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียมได้นานฟรี 4 ชั่วโมง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ทางเว็บไซต์ www.dinnerinthesky.co.th ซึ่งตามกำหนดแล้วจะมีให้บริการถึงเพียงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้เท่านั้น