เทศกาลอาหารประจำปีสุดอลังการ Singapore Food Festival (SFF) ครั้งที่ 29 กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมเสิร์ฟประสบการณ์ด้านอาหารกว่า 70 รายการ ที่รวบรวมไว้ในงานภายใต้คอนเซ็ปต์ “มรดกทางวัฒนธรรม” “ความร่วมสมัย” และ “นวัตกรรม” ไว้อย่างครบถ้วน เทศกาลอาหารสิงคโปร์ปีนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่วิกฤติการณ์โควิด 19 ที่เปิดโอกาสให้นักชิมทั่วโลกได้มาสัมผัสและลิ้มลองด้วยตัวเอง โดยมีร้านอาหารกว่า 20 ร้าน และเมนูอาหารค่ำมื้อพิเศษ 9 คอร์ส รวมถึงกิจกรรมสนุก ๆ มากมายภายในงาน ไม่ว่าจะเป็นเวิร์คช็อป ทัวร์ และเมนูสุดพิเศษจากร้านอาหารที่เข้าร่วมในเทศกาลครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม – 11 กันยายน 2565
เหล่าฟู้ดดี้ที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมงานด้วยตัวเอง สามารถเข้ามาสัมผัสประสบการณ์อาหารสิงคโปร์ได้ด้วยการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ คลาสเรียนทำอาหารในห้องเสมือนจริงโดยเชฟชื่อดัง (Virtual Masterclass) หรือสามารถเข้าชมเบื้องหลังการทำอาหารจากในครัวของเชฟท้องถิ่นผ่านวีดิโอในเว็บไซต์ www.singaporefoodfestival.sg ได้อีกด้วย
นางสาวเทอี เกา ผู้อำนวยการฝ่ายค้าปลีกและอาหารประจำการท่องเที่ยวสิงคโปร์ กล่าวว่า “เทศกาลอาหารสิงคโปร์ยังคงเป็นงานเฉลิมฉลองด้านวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลายของเรา ที่มาในรูปแบบของงานระดับโลกเพื่อเปิดโอกาสให้บรรดาเชฟ บาร์เทนเดอร์และคนในวงการอาหารของเราได้โชว์ฝีมือ หลังจากที่การเดินทางระหว่างประเทศเริ่มกลับมาอีกครั้ง เราก็หวังว่าการจัดเทศกาลอาหารอย่างเดิมที่เคยทำมา ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาร่วมชมงานและลิ้มรสกับประสบการณ์ด้านอาหารนานาชาติด้วยตัวเองอย่างเต็มอิ่มที่สิงคโปร์ เราขอเชิญชวนทุกคนให้เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้และสัมผัสประสบการณ์อาหารสิงคโปร์ในรูปแบบใหม่ที่พร้อมรอให้คุณได้มาลองด้วยตัวเอง และผ่านประสบการณ์เสมือนจริง”
รายการเด็ดห้ามพลาดของเทศกาลอาหารสิงคโปร์
ปีนี้เทศกาลอาหารสิงคโปร์มาในธีม “ฟู้ดดี้ตัวจริงเท่านั้น” ที่จัดเต็มทั้งพื้นที่ใน Festival Village นำเสนอเมนูพิเศษจากร้านอาหารที่เข้าร่วมและมีเสิร์ฟเฉพาะงานเท่านั้น ทัวร์และเวิร์คช็อป รวมถึงกิจกรรมที่สามารถรับชมได้จากบ้านของคุณเอง
โซน Festival Village ได้รวบรวมแบรนด์อาหารและเครื่องดื่ม กว่า 25 แบรนด์มาร่วมในเทศกาลครั้งนี้ ที่บริเวณเบย์ฟร้อนท์ (Bayfront Event Space) ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึงวันที่ 11 กันยายน 2565 มีร้านอาหารกว่า 25 ร้าน ที่พร้อมเสิร์ฟ อาหารชื่อดังที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ถูกนำมาตีความใหม่ให้ร่วมสมัยขึ้นสมัย เช่น เมนูขึ้นชื่อของร้าน Jelebu Dry Laksa ที่จัดเต็มด้วยบอสตันล็อบสเตอร์และกุ้งลายเสือ ร้านฟู้ดทรัคสุดฮ็อตของสิงคโปร์ The Goodburger ก็พร้อมมาเสิร์ฟเมนูสุดพิเศษเฉพาะในเทศกาลอาหารสิงคโปร์เท่านั้นอย่าง Blue Lotus Eating House ที่เป็นเบอร์เกอร์ปูผัดพริกเจ หรือร้านที่เพิ่งได้รับรางวัล Michelin Bib Gourmand อย่างร้าน One Prawn & Co ที่ร่วมกับแบรนด์เก่าแก่อย่าง Hock Lian Huat นำเสนอเมนูพิเศษอย่าง ซุปครีมกุ้ง (prawn bisque) ที่จัดเต็มทั้งกุ้ง หอยแมลงภู่และหอยลาย และเมนู ngoh hiang (หอยจ๊อที่ทำจากเนื้อ) ในโซน Chef Arena ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกับ Festival Village จะมีเมนูอาหารค่ำมื้อพิเศษ 9 คอร์ส โดยสุดยอดเชฟชื่อดัง ที่จะสาธิตการทำอาหารในคลาสออนไลน์ และที่พลาดไม่ได้ก็คือค็อกเทลสุดพิเศษ Martell Noblige จากการรังสรรค์ของ Juan Yi Jun หัวหน้าบาร์เทนเดอร์ ของ No Sleep Club
นอกจากอาหารที่รอให้คุณ ๆ มาลิ้มลอง ในเทศกาลยังมีกิจกรรมมากมายสำหรับคนรักอาหาร อย่างเวิร์คช็อปต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ลงมือทำอาหารด้วยตัวคุณเอง บรรดาฟู้ดดี้ยังจะได้เรียนศิลปะการผสมผสานเครื่องเทศจาก Jeya Seelan ทายาทรุ่นที่ 3 ของร้านเครื่องเทศชื่อดัง Jeya Spices และยังมีเคล็ดลับการทำอาหารอร่อย ๆ จาก Annie Xavier นักเขียนตำราอาหารผู้รักในการทำขนมอบอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโซน Marketplace ที่รวมรวบสินค้าที่ผ่านการคัดสรรมาเป้นพิเศษให้คุณได้ช้อปกันอย่างจุใจ พร้อมกับความบันเทิงต่างๆ ใน Entertainment stage ที่สนับสนุนโดย Tiger Beer
นอกเหนือจากร้านอาหารในโซน Festival Village ร้านอาหารต่างๆ ทั่วทั้งเกาะสิงคโปร์จะนำเสนอเมนูพิเศษสำหรับช่วงเทศกาลเสิร์ฟที่ร้านให้คุณได้ลองชิมกันอีกด้วย และด้วยความที่สิงคโปร์เป็นแหล่งรวมของหลากหลายวัฒนธรรม ร้าน Two Men Bagel House นำเสนอเมนู เบเกิลวิช ที่รวมเอารสชาติของแกงแบบจีน อินเดียและมาเลย์มาปรุงเข้ากันได้อย่างลงตัว ส่วนร้านอาหารและบาร์สไตล์อิตาเลี่ยนมาเลย์อย่าง Dopo Teatro ก็มีเมนูพิเศษอย่าง พิซซ่าแซมบาลกอแรง (sambal goreng pizza) มาให้ลิ้มลองกัน
คุณจะได้พบกับการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคกับความสดใหม่ เมื่อร้านดั้งเดิมอย่าง Steeple’s Deli ร่วมมือกับร้านน้องใหม่ Park Bench Deli จับมือกันเปิดร้านเฉพาะกิจหนึ่งวันพร้อมเสิร์ฟแซนด์วิชที่มีทั้งคอร์นบีฟและพาสตรามี ส่วนฟู้ดดี้สายหวาน ต้องไม่พลาดไอศกรีมรสชาชัก หรือไอศกรีมรสฝรั่งชุบบ๊วย จากร้าน The Ice Cream & Cookie Co. และ Creamier
สำหรับฟู้ดดี้สายเที่ยวที่พร้อมจะลองของแปลกใหม่ เทศกาลนี้มีทั้งทัวร์และเวิร์คช็อปมากมายให้คุณลองทั่วเกาะสิงคโปร์ ไม่ว่าจะเป็น Atlas Aquaculture และ Blue Aqua ที่จัดทัวร์ชมฟาร์มปลาและฟาร์มกุ้ง ซึ่งผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้ว่าวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารของพวกเขามีที่มาอย่างไร และเรียนรู้วิธีเลี้ยงกุ้งที่บ้านของตัวเองได้อีกด้วย หรือสำหรับฟู้ดดี้สายคลีน สามารถร่วมเวิร์คช็อปการจับคู่แพลนท์เบสชีสกับเครื่องดื่มจินโดย Nut Culture พร้อมโอกาสสุดพิเศษกับการชมเบื้องหลังการทำงานในโรงกลั่นและทำความรู้จักสมุนไพรต่าง ๆ ที่เป็นส่วนผสมของกับเครื่องดื่มชื่อดังอย่าง Singapore Dry Gin สำหรับฟู้ดดี้ที่หลงไหลเรื่องราวหรือประวัติความเป็นมาของอาหารต่าง ๆ ต้องไม่พลาดการเรียนทำอาหารสไตล์ครอบครัวจากยุค 60 ไปพร้อม ๆ กับเรื่องเล่าจากบรรดาคุณตาคุณยาย ในเวิร์คช็อปกึ่งละคร โดย Oh! Stories
ผู้ร่วมงานสามารถเข้าชมกิจกรรมอื่น ๆ ที่จัดขึ้นในช่วงเดียวกันอีกมากมาย ทั้งเทศกาลอาหารวีแกน (Singapore Vegan Festival) และ Feed9Billion Singapore Restaurant Week ที่มาพร้อมอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารเพื่อความยั่งยืนและนวัตกรรมการสร้างสรรค์ทางอาหารใหม่ ๆ มากมาย เทศกาลอาหารสิงคโปร์ ยังร่วมกับ Airbnb Experiences จัดเวิร์คช็อปสุดพิเศษ อย่างการลงมือทำและลิ้มรสกาแฟ cold brew จากเมล็ดกาแฟท้องถิ่น และร้านอาหารระดับ มิชลิน สตาร์ 1 ดาว Burnt Ends ที่จะจัดงานปาร์ตี้ ที่รวมเอาร้านอาหารต่าง ๆ ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารอร่อย ๆ ท่ามกลางเสียงดนตรีที่สนุกสนาน
เทศกาลอาหารสิงคโปร์ 2022 ยังเปิดโอกาสให้เหล่าฟู้ดดี้ที่ไม่ได้บินมาร่วมงานด้วยตัวเองสามารถสัมผัสประสบการณ์ดี ๆ ได้จากที่บ้าน ทั้งคลาสสอนทำอาหาร 9 คลาสที่เปิดให้ชมฟรี โดยคุณจะได้ทำอาหารไปพร้อม ๆ กับเชฟชื่อดังในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น สุดยอดเชฟขนมอบของเอเชียประจำปี 2022 อย่าง Maira Yeo จากร้านระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว Cloudstreet เชฟ Justin Lee จากร้าน JL Dessert Bar ที่กรุงโซล เชฟ Will Goldfarb จากร้าน Room4Dessert ที่บาหลี และเชฟ Genevieve Lee จากร้าน Sourbombe Bakery รวมถึงอุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับเรียนทำอาหารมีจำหน่ายในเว็บไซต์หลักของเทศกาลอาหารเพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การเรียนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังได้นำเสนอวัฒนธรรมอาหารที่หลายหลายของตัวเองออกไปยังประเทศอื่น ๆ อีก 13 ประเทศ บรรดาฟู้ดดี้สามารถลิ้มรสเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารพื้นเมือง เช่น การจับมือกันของ 2 เชฟชื่อดัง (4-hands dinner) จาก 2 ประเทศ ที่จัดขึ้นที่ประเทศฟิลิปปินส์และประเทศอังกฤษ โดยในประเทศฟิลิปปินส์นั้น เป็นการจับมือกันของเชฟ Han Li Guang จากร้าน Labyrinth และเชฟ Chele Gonzales จากร้าน Gallery by Chele ส่วนที่ประเทศอังกฤษ ร้าน KEK Seafood ร่วมมือกับร้านเบอร์เกอร์ดังของอังกฤษอย่าง Honest Burger นำเสนอเมนู Cereal Chicken Burger เสิร์ฟคู่กับคราฟท์เบียร์จากโรงเบียร์ในอังกฤษอย่าง Northern Monk ที่จับมือกับ Off Day Beer ของสิงคโปร์ในช่วงเวลาจำกัดเท่านั้น
สำหรับผู้สนใจร่วมงานเทศกาลอาหารสิงคโปร์ 2565
สามารถเข้าไปที่ www.singaporefoodfestival.sg สำหรับรายการกิจกรรมและรายละเอียดของบัตรเข้าชม