คาเฟ่ฮอปเปอร์ไม่ควรพลาด! กับการปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ของแบรนด์ “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) ในงานเปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์แห่งใหม่ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท 53 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Modern Timeless” (โมเดิร์น ไทม์เลส) จากฝีมือการสร้างสรรค์ของ โต-ศุภรัตน์ ชินะถาวร นักออกแบบคาเฟ่มากฝีมือ ที่ได้หยิบยกเอาเอกลักษณ์ของแบรนด์มาตีความขึ้นใหม่ ถ่ายทอดสู่งานดีไซน์ที่มีความทันสมัยเหนือกาลเวลา ประกอบกับการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มและเบเกอรี่สุดพิเศษ เพื่อเอาใจเหล่าคอกาแฟให้ได้ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยมและเบเกอรี่รสกลมกล่อม ท่ามกลางบรรยากาศใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน! พร้อมโซน Pet Friendly ที่สร้างสรรค์มาเพื่อเอาใจเหล่าคนรักสัตว์โดยเฉพาะ
สำหรับ “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) แฟล็กชิพสโตร์แห่งใหม่นี้ ได้ถูกออกแบบขึ้นในคอนเซ็ปต์ “Modern Timeless” (โมเดิร์น ไทม์เลส) ที่นอกจากจะฉีกภาพการดีไซน์เดิมๆ ทั้งหมดแล้วยังปรับเปลี่ยนโลโก้แบรนด์ให้ดูทันสมัยขึ้นอีกด้วย โดยเหล่าคาเฟ่ฮอปเปอร์ทั้งหลายจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ครั้งใหม่ที่แฝงไปด้วยรายละเอียดการออกแบบมากมายจากคำว่า COFFEE (คอฟฟี่), PASSION (แพสชัน), SPECIALTY (สเปเชียลตี้) ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟรสชาติใหม่ที่รังสรรค์โดยบาริสต้าชั้นเยี่ยม ผ่านวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ที่ล้วนถูกสร้างขึ้นจากความหลงใหลของแบรนด์ “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) โดยจุดทั้งสามจุดนั้นถูกนำมาตีความในแง่ของการเลือกใช้วัสดุและโทนสีร้านตามระดับความเข้มของกาแฟ ซึ่งถูกแบ่งสัดส่วนเป็นคั่วอ่อน 30% คั่วกลาง 60% และคั่วเข้ม 10% โดยสะท้อนเป็นงานดีไซน์ผ่านการเลือกใช้โทนสีตามจุดต่างๆ ที่มีทั้งโทนสีอ่อน กลาง และเข้ม รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบขึ้นมาใหม่จากแรงบันดาลใจของระดับความเข้มกาแฟด้วยเช่นกัน และผนังกำแพงสีขาวอันโดดเด่นที่มีโทนสีไม่ซ้ำกันในแต่ละวันซึ่งเกิดจากการหักเหของแสง นอกจากนี้ยังมีการใช้สีของครีม่า (สีของชั้นโฟมที่ลอยอยู่บนกาแฟ) มาเป็นไอเดียในการตกแต่งร้านอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างสรรค์พื้นที่ผ่านแนวความคิดรูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน พร้อมผสมผสานมุมมองทางแฟชั่นที่ยังคงคอนเซ็ปต์ความเท่ตามแบบฉบับ “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
โดยสาขานี้ทาง “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) ได้คิดค้นสุดยอดเมนูรสเยี่ยม สำหรับสาขาแฟล็กชิพสโตร์ สุขุมวิท 53 โดยเฉพาะ เริ่มที่ไฮไลท์พิเศษเป็นเซตเครื่องดื่ม Dirty Parade (เดอร์ตี้ พาเหรด) ซึ่งผสมผสานช็อตเอสเพรสโซ่เข้มข้นเข้ากับนมเย็นที่เก็บในอุณหภูมิไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส และเพิ่มเอกลักษณ์ให้แต่ละแก้วด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศผ่าน 10 เมนูเครื่องดื่ม ได้แก่ Dirty (เดอร์ตี้), Caramel Dirty (คาราเมล เดอร์ตี้), Hazelnut Dirty (เฮเซลนัท เดอร์ตี้), Chai Dirty (ชัย เดอร์ตี้), Toffeenut Dirty (ทอฟฟี่นัท เดอร์ตี้), Thai Style Dirty (ไทย สไตล์ เดอร์ตี้), Bon Bon Dirty (บอน บอน เดอร์ตี้), Strawberry Dream Dirty (สตรอว์เบอร์รี ดรีม เดอร์ตี้), Mocha Dirty (มอคค่า เดอร์ตี้) และ Matcha Espresso Dirty (มัทฉะ เอสเพรสโซ่ เดอร์ตี้) ในราคาแก้วละ 120 บาท
รวมถึงเมนูเบเกอรี่เลิศรส ไม่ว่าจะเป็น Red Wine Beef Pie (เรด ไวน์ บีฟ พาย) พายเนื้อสูตรพิเศษที่คัดสรรเนื้อชั้นดีหมักกับซอสไวน์แดง ห่อด้วยแป้งพายเนื้อบางกรอบ ช่วยชูรสชาติของไส้เนื้อหมักไวน์แดงได้เป็นอย่างดี (ราคา 180 บาท), Chicken Truffle Pie (ชิคเกิ้น ทรัฟเฟิล พาย) พายไก่ซอสทรัฟเฟิล มีรสชาตินุ่มละมุนจากตัวครีมซอส อกไก่ และเห็ดทรัฟเฟิล ในแป้งพายสูตรบางกรอบหอมหวานเต็มคำ (ราคา 180 บาท), Sausage Pie (ซอสเซส พาย) พายไส้กรอกที่ทำมาจากไส้กรอกหนังกรอบชิ้นโต รสชาติเข้มข้น เมื่อทานคู่กับแป้งพายทำให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว เหมาะสำหรับการทานเป็นอาหารว่างคู่กับกาแฟ (ราคา 90 บาท), เมนูเบอร์เกอร์ ที่มีทั้งเบอร์เกอร์เนื้อและเบอร์เกอร์หมู จากการคัดสรรเนื้อและหมูชั้นดีเพื่อนำมาหมักกับเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะ พร้อมเพิ่มรสชาติเข้มข้นด้วยซอสมายองเนส มะเขือเทศ และผักสลัด ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นในทุกคำ (ราคา 180 บาท), Egg Croissant Sandwich (เอ้ก ครัวซองต์ แซนด์วิช) ครัวซองต์แซนด์วิชรังสรรค์จากไข่ต้มพร้อมปรุงรสด้วยมายองเนส และเครื่องเทศต่างๆ เสิร์ฟพร้อมผักสลัดและมะเขือเทศ (ราคา 150 บาท), Tuna Croissant Sandwich (ทูน่า ครัวซองต์ แซนด์วิช) ทูน่าเนื้อแน่นปรุงรสด้วยซอสมายองเนส แครอท ถั่วลันเตา และเครื่องเทศ ทานคู่กับผักสลัดและมะเขือเทศ ให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว (ราคา 150 บาท), Margherita Pizza (มาร์การิต้า พิซซ่า) แป้งพิซซ่าเนื้อนุ่มที่ชูรสด้วยซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษ โรยหน้าด้วยมอสซาเรลลาชีส พาเมซานชีส ออริกาโน และใบเบซิล (ราคา 200 บาท) และเมนู 4 Cheese Pizza (โฟร์ ชีส พิซซ่า) จากการรังสรรค์แป้งพิซซ่าสูตรพิเศษ เพิ่มความเข้มข้นด้วยซอสมะเขือเทศสูตรลับเฉพาะ โรยหน้าด้วยมอสซาเรลลาชีส พาเมซานชีส ผักโขม และออริกาโน (ราคา 200 บาท)
นอกจากนี้ที่สาขาสุขุมวิท 53 ยังมีเมล็ดกาแฟคัดเฉพาะที่เสิร์ฟเฉพาะสาขานี้เท่านั้น ได้แก่ Blend Black : 19-0915 เมล็ดกาแฟอาราบิก้าจากเชียงราย (Thai Chiangrai Arabica) และเมล็ดกาแฟจากดอยช้าง (Thai AA Doi Chang) ที่เสิร์ฟแบบคั่วเข้ม หอมกลิ่นบราวชูก้าและช็อกโกแลต รสสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น หอมหวานเหมือนรสชาติย่างของมาร์ชเมลโล่ และอีกหนึ่งไฮไลท์ของสาขานี้คือเซเลบริตี้บาร์ ที่ในทุกๆ เดือน ทาง “C.P.S. COFFEE” (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) จะมีบาริสต้ามาโชว์ฝีมือรังสรรค์เมนูสุดพิเศษให้เหล่าคอกาแฟได้รับชมกัน
Comments are closed.