ภาพถ่ายเปรียบเสมือนบันทึกความทรงจำอันมีค่า แม้กาลเวลาจะผ่านไปแต่เรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกที่ช่างภาพได้ลั่นชัตเตอร์และถ่ายทอดสู่ภาพถ่ายยังไม่เลือนหาย Leica Camera Thailand (ไลก้า คาเมร่า ไทยแลนด์) แบรนด์กล้องลักชัวรี่ระดับโลก จึงจัดงาน “LIFE’S WORTH” (ไลฟ์ส เวิร์ธ) นิทรรศการภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของพลังความจงรักภักดี ความสามัคคี ความเสียสละ และพลังน้ำใจของจิตอาสา เพื่อน้อมรำลึกใน พระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จากฝีมือการถ่ายภาพของ Leica Thailand Ambassador (ไลก้า ไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์) อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์, พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ และ ชัชวาล จันทโชติบุตร เนื่องในโอกาสครบรอบสองปีวันคล้ายวันสวรรคต ณ บริเวณหน้า Leica Gallery Bangkok (ไลก้า แกลเลอรี แบงค็อก) ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2561
อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ ในฐานะ Leica Thailand Ambassador กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการจัดนิทรรศการภาพถ่าย “LIFE’S WORTH” ว่า “นิทรรศการนี้เกิดจากการคุยกันในกลุ่มของแอมบาสเดอร์ว่าเราอยากทำอะไรที่สะท้อนให้เห็นสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงทำมาตลอดพระ ชนม์ชีพ ซึ่งผมระลึกถึงพระราชนิพนธ์แปลในเรื่อง “นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ” ดังพระราชดำรัสว่า
“งานทุกอย่างที่มีด้านหน้าเเละด้านหลังเหมือนเหรียญบาท งานด้านหน้านั้นมีคนทำกันอย่างเยอะเเยะ เเละมีคนเเย่งกันทำเพราะมีผลเห็นได้ชัด เเละก็ปูนบำเหน็จกันได้อย่างเต็มที่ เเต่งานด้านหลังที่ไม่ปรากฏต่อสายตาคนต้องเป็นคนที่เข้าใจงานเเละหน้าที่ของตัวเองจริงๆ ถึงจะทำได้ เเละต้องเสียสละด้วย เพราะงานด้านหลังเป็นงาน “ปิดทองหลังพระ” ถ้าทำดีแล้วต้องไม่ให้เห็นปรากฏเเละต้องยอมรับว่าไม่ได้อะไรตอบเเทนเลย นอกจากความภาคภูมิใจในการทำงานในหน้าที่ของตน”
“พวกเรา ไลก้า แอมบาสเดอร์ เลยตกลงกันว่าจะลงพื้นที่เพื่อบันทึกเกี่ยวกับจิตอาสาที่คอยช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ก่อนลงผมก็คิดภาพในหัวไว้ในฐานะคนถ่ายภาพว่าเราอยากได้ภาพแบบนั้นแบบนี้ พอเราลงพื้นที่ไปจริงๆ แล้วกลายเป็นว่าเราไม่ต้องทำอะไรมากกว่าบันทึกเหตุการณ์จริงๆ อารมณ์จริง บรรยากาศความจริงใจเป็นพลังงานสะท้อนกลับออกมาที่ตัวเรา สิ่งที่เหล่าจิตอาสาทำนั้นยิ่งใหญ่และไม่ได้ต้องการให้ใครมายกยอ พวกเขาทำให้เรานอนอยู่บ้านไม่ได้ เลิกงานกี่โมงดึกดื่นก็ขอลงพื้นที่ไปบันทึกสิ่งดีงามแบบนี้ไว้ให้ได้มากที่สุดผมว่ามันงดงามและปราศจากข้อแม้ สำหรับผมนี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำมาตลอดพระชนม์ชีพเป็นอย่างดี” อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ กล่าว
ชัชวาล จันทโชติบุตร หนึ่งใน Leica Thailand Ambassador ผู้ลงพื้นที่ถ่ายภาพเผยว่า “ช่วงนั้นผมต้องเดินทางไปต่างประเทศค่อนข้างนาน กลับอีกทีคือหลังพระราชพิธีเสร็จสิ้น เลยเข้าไปกราบพระบรมศพเป็นครั้งสุดท้าย ระหว่างนั้นได้เห็นการช่วยเหลือของอาสาสมัครมากมาย ผมรับหน้าที่เก็บภาพจิตอาสาบริเวณโรงครัวซึ่งเปรียบเสมือนปากท้องและกำลังขับเคลื่อนทั้งหมด และได้มีโอกาสพูดคุยกับหลายท่านที่เป็นเจ้าของซุ้มทำอาหาร หลายท่านทำอาหารแจกตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่เราลงพื้นที่เก็บภาพ ทุกคนพูดเหมือนกันว่า สิ่งที่ทำนั้นน้อยนิดมากเมื่อเปรียบกับสิ่งที่พระองค์ทรงทำต่อประชาชนชาวไทยมาตลอดพระชนม์ชีพ สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจในชีวิตผมให้เห็นถึงคนที่เสียสละเพื่อผู้อื่นและการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน คือ สิ่งที่เหล่าจิตอาสาระลึกได้และนำมาปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน ดังแนวทางที่พระองค์ท่านทรงปฏิบัติ”
พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ หนึ่งใน Leica Thailand Ambassador เปิดเผยว่า “แรงบันดาลใจในการถ่ายภาพเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ผมได้มีโอกาสบันทึกภาพเหตุการณ์ที่ลานพระราชบิดา โรงพยาบาลศิริราช และเห็นพสกนิกรของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้มารวมตัวกันที่โรงพยาบาลศิริราชอย่างหนาแน่น ทำให้ผมได้เห็นการรวมจิตใจของชาวไทย-ชาวต่างชาติทั่วโลกที่ส่งมายังโรงพยาบาลศิริราชอย่างไม่ขาดสาย จนถึงแถลงการณ์ฉบับสุดท้ายที่ทำให้สะเทือนใจคนทั้งโลกนั้น มีทั้งความโศกเศร้าเสียใจ แต่ในขณะเดียวกัน มีผู้ที่ประคองสติขณะทั้งที่ยังหลั่งน้ำตา ได้แสดงจิตวิญญาณเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทย ออกมาในรูปแบบต่างๆ อาทิ การให้บริการรับส่งผู้ที่มาร่วมงาน การทำอาหาร งานก่อสร้าง งานศิลปะ ฯลฯ ทุกเหตุการณ์เกิดขึ้นมาภายหลังจากคืนวันที่ 13 ตุลาคม โดยมิได้นัดหมาย ผู้ที่ดำเนินการปิดทองหลังพระตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงทุกวันนี้ ยังคงทำและดำเนินรอยตามพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ ๙ อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของ Leica Thailand Ambassador จึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด คือ การถ่ายภาพ บันทึกความเสียสละ การกระทำความดี ของบุคคลผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อบอกเล่าสู่สังคมให้เหล่าจิตอาสาได้มีความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะส่งต่อแรงบันดาลใจนี้ให้กับคนรุ่นต่อๆ ไปด้วยการกระทำความดี”
สำหรับบรรยากาศภายในงานเปิดนิทรรศการภาพถ่าย “LIFE’S WORTH” เป็นไปอย่างอบอุ่นของเหล่าแขกผู้มีเกียรติ อาทิ พัชทรี ภักดีบุตร, จิตติมา วรรธนะสิน, ศรัณย์ภัค เพ็ญชาติ, จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา, เบญจรัตน์ อรรถจินดา, อินทุกานต์-อาทิตย์ สิริสันต์, ดนัย เกษมกุลศิริ, วินรัตน์ สกาวรัตนานนท์, โสภาวดี เพชรชาติ ฯลฯ มาร่วมชมภาพถ่ายประวัติศาสตร์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรัก สามัคคีของกลุ่มจิตอาสา ผู้ปิดทองหลังพระ เสียสละเวลา แรงกาย และทุนทรัพย์ โดยไม่หวังผลตอบแทนมาร่วมงานและร่วมฟังเสวนาในหัวข้อ “ปิดทองหลังพระ” โดย อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์, ชัชวาล จันทโชติบุตร และตัวแทนจิตอาสา สมยศ พรชัยรัตนโชติ, วัชรี เชาวะนะ, สาโรจน์ ดุลยคง บอกเล่าถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ และแนวทางการสานต่อพระราชดำริของพระองค์ท่านอีกด้วย
สำหรับจิตอาสา สมยศ พรชัยรัตนโชติ บริษัทให้บริการเช่าเหมารถตู้ ถนนข้าวสาร-สนามบิน เผยว่า “แรงบันดาลใจที่ทำให้ผมมาเป็นจิตอาสาคือ ผมโตมาในย่านผ่านฟ้า ผมรับเสด็จพระองค์ท่านอยู่ริมถนนเสมอ ผมอยากทำความดีเพื่อพ่อ จึงตัดสินใจมาขับมอเตอร์ไซค์ แต่ช่วงหลังเห็นว่าคนมากันมากแล้วไม่มีใครบอกทาง ผมเลยมาทำจิตอาสาคอยบอกทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องชาวไทย”
จิตอาสา สาโรช ดุลยคง อาชีพวิศวกรเสียง กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของจิตอาสาเกิดขึ้นหลังจากสำนักพระราชวังประกาศว่าพระองค์สวรรคต ผมก็อยากจะทำความดี เพื่อพระองค์ท่าน เพราะพระองค์ท่านทรงงาน เพื่อประชาชนชาวไทยโดยที่เราไม่เคยได้ยินท่านบ่นว่าเหนื่อย ผมเลยตัดสินใจซื้ออุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้ง กาแฟ โอวัลติน มาม่า มาแจก สลับกับวิ่งรถรับส่งทุกอย่างด้วยทุนทรัพย์ตัวเองแล้วก็กลุ่มเพื่อนๆ ใน Facebook บางคนมาไม่ได้ ก็จะส่งเงิน ส่งของมา สิ่งที่ทำเพราะประเทศไทยเป็นเหมือนบ้านเรา”
ผู้สนใจสามารถร่วมชม “LIFE’S WORTH” (ไลฟ์ส เวิร์ธ) นิทรรศการภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของพลังความจงรักภักดี ความสามัคคี ความเสียสละ และพลังน้ำใจของจิตอาสา เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 11 ถึงวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2561 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ บริเวณหน้า Leica Gallery Bangkok (ไลก้า แกลเลอรี แบงค็อก) ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.02-656-1102
Art Eye View
Comments are closed.