Art Eye View

แรงบันดาลใจจากโขน The Invisible World โชว์ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน

Pinterest LinkedIn Tumblr


Text : ฮักก้า Photo : วรงกรณ์ ดินไทย

“การเผยแพร่งานศิลปะในเมืองไทยให้เวิร์คที่สุด เราต้องพุ่งไปหาผู้ชม มากกว่าให้ผู้ชมมาหาเรา”

โอ๋- จิตติ ชมพี อดีตนักศึกษาปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ผู้หันมาเอาดีด้านการเต้นกว่า 16 ปี เคยผ่านการเรียนและร่วมงานในสถาบันสอนเต้นรำและคณะละครชื่อดังในหลายประเทศ บอกกับเรา

ก่อนที่ The Invisible World โชว์ที่เขาเป็นผู้ออกแบบการแสดง จะเริ่มต้นขึ้น ในรอบ 2O.30 น เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทานให้กับแขกที่เข้าไปรับประทานอาหารมื้อค่ำ ณ เบด ซัปเปอร์คลับ

ปกติแล้วโชว์ของจิตติจะเป็นโชว์สไตล์ฝรั่ง แต่เมื่อปีที่แล้วเขาได้เริ่มสนใจหยิบเรื่องราวที่ดูเป็นไทยมานำเสนอ เช่น สุดสาคร ลิเกร่วมสมัย ที่ทำให้กับ วิกหัวหิน และ 18 มงกุฎ หรือ 18 Monkeys อันเป็นโปรเจ็กต์ส่วนตัว เคยผ่านการแสดง ณ ภัทราวดีเธียเตอร์ มา 3 รอบ เมื่อปลายปี 53
Sanya Souvanna Phoum และ จิตติ ชมพี
“หลังจากที่นำคณะนักแสดง โดยการสนับสนุนของสถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย ไปโชว์ที่ประเทศเยอรมนี พอกลับมาก็เลยอยากทำโชว์ชุดนี้ เพราะไปดูโขนนางลอยแล้วได้รับแรงบันดาลใจ เลยลุกขึ้นมาทำเองและลงทุนเองเป็นหลัก เผอิญได้แคสติ้งนักแสดงจากโขนนางลอยมาด้วย ดีใจมาก ก็เลยทำ

เพราะเป็นคนที่อยากทำอะไรก็ทำเลย ซึ่งก็ได้ความรู้เยอะนะครับ เวลาทำงาน ได้ความรู้จากนักแสดงด้วย เพราะว่าโขนมันเป็นศาสตร์ที่เราไม่ถนัดเลย ถือเป็นการเรียนรู้ทั้งสองฝ่าย ทำโชว์นี้ก็ไม่นึกถึงว่ามันจะประสบความสำเร็จเยอะ เพราะอย่างที่บอกปกติโชว์ที่ทำมันไม่ใช่งานไทยเป็นงานฝรั่ง”

จิตติ กล่าวถึงความเป็นมาของ 18 Monkeys โชว์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโขนที่ภายหลังได้กลายมาเป็น The Invisible World ณ เบด ซัปเปอร์คลับ

เพราะได้รับคำชักชวนจาก Sanya Souvanna Phoum หนุ่มลูกครึ่งไทยลาวผู้ไปร่ำเรียนที่ฝรั่งเศส มีความสนใจด้านศิลปะ และเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของ เบดฯ ให้นำโชว์มาเปิดแสดง หลังจากที่ 8 ปีที่ผ่านมา นับแต่คลับแห่งนี้เปิดตัวขึ้น ได้มีงานศิลปะแขนงต่างๆหมุนเวียนมาจัดแสดงปีละ 5-6 ตรีม

สัญญา ผู้มีหมวกอีกใบเป็น ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ ของโชว์ชุดนี้ บอกถึงเหตุผลที่ทำไมต้อง The Invisible World ว่า

“ตอนที่คุณจิตติทำ 18 Monkeys ที่ภัทราวดี เป็นเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์ แต่ว่า The Invisible World สัญญาให้เพิ่มมหากาพย์รามายณะ,มหาภารตะ และภควัตปุราณะเข้าไปด้วย จึงต้องหาคำเพื่อแทนความหมายว่าโชว์ชุดนี้ ไม่ใช่แค่รามเกียรติ์ เลยเรียกว่า The Invisible World

เพราะสิ่งเรานำมันมาทำให้มันเป็นโชว์ให้มันมีชีวิตเนี่ย เดิมทีมันมีแต่เฉพาะสมองเราเท่านั้นที่สัมผัสได้ หรือ ตาเราก็เคยมองเห็นแต่ภาวะที่มันอยู่นิ่ง เช่น ครุฑ ตามธนาคาร มันจะอยู่นิ่ง แต่นี่เราเอามาทำเป็นการเต้นรำ ทำให้เค้ามีชีวิตมีการเคลื่อนไหว

สัญญาไม่ค่อยรู้จักคนที่กลับบ้านไปแล้วเปิดรามเกียรติ์อ่าน ส่วนมากจะเปิดทีวีใช่ไหม เรื่องราวของรามเกียรติ์มันเป็นสิ่งที่อยู่ในหนังสือ เราจึงอยากนำเสนอสิ่งที่ The Invisible World ให้มันมีชีวิต ให้มันสามารถมองเห็นได้”

โชว์ซึ่งแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 องค์ ไฮไลท์นับแต่องค์ที่ 4 เป็นต้นมา เป็นการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ในความเป็นเพื่อนระหว่าง “เกสรทมาลา” ลิงตัวหอมในจำนวนลิง 18 มงกฎ กับยักษ์ “มังกรกัณฐ์” ที่ต้องมาตายด้วยกันเนื่องจากสงคราม

และจบองค์สุดท้ายด้วยการเอาโขนมามิกรวมกับแทงโก้มิวสิคเพื่อแสดงให้ผู้เห็นว่าศิลปะไม่ว่าจะวันออกหรือตะวันตกสามารถร่วมกันได้

“ผมเลือกมิวสิคมาจากเพลงแทงโก้ของ Astor Piazzolla ซึ่งแต่งเพลงนี้ไว้ตอนที่เขาไม่สบายอยู่โรงพยาบาลก่อนจะตาย เนื้อหาของบทเพลงเกี่ยวกับเรื่องของความโดดเดี่ยว อยู่คนเดียว เพราะฉะนั้น เวลาที่เราฟังเพลงจะรู้สึกเลยว่านักแต่งเพลงอาเจนติน่าคนนี้ เขาแต่งเพลงที่ให้ความรู้สึกมากๆ”

ในการดูโชว์ สัญญา เจ้าของสถานที่มักบอกกับลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารมื้อค่ำเสมอว่า “เราอย่าพยายามไปเข้าใจมันมากเกินไป ขอให้รู้สึกเท่านั้น” เพราะเชื่อว่าในช่วงระยะเวลาสั้นๆไม่มีใครที่จะสามารถเข้าใจเรื่องราวที่นำเสนอได้หมด โดยเฉพาะเรื่องราวไทยๆที่ชาวต่างชาติบางคนอาจยังหยั่งไม่ลึก

ขณะที่ จิตติ นอกจากต้องการจะเปลี่ยนทัศนคติของผู้ชมว่าการไปกินข้าวตามอาหาร ไม่ได้มีแค่รำไทยให้ดู แต่คนไทยยังมีความสามารถที่จะทำโชว์คุณภาพมาเสิร์ฟ สายตาคุณ

ส่วนหนึ่งยังต้องการนำเสนอให้เห็นว่านักแสดงรุ่นใหม่ของไทย ที่มีความสามารถยังมีอยู่มาก

“อยากดึงคนที่เขาเก่งๆขึ้นมาเบื้องหน้าเยอะๆ ไม่งั้นยูก็ไม่รู้จักเขาเลย รู้จักเฉพาะคนรุ่น 60-70 ปี ซึ่งกำลังจะตายไปอยู่แล้ว แล้วเราก็จะไม่เจอใครอีกเลย ถามว่าคนรุ่นใหม่ใครหล่ะ ด้วยระบบของบ้านเราคือ ชั้นวรรณะมาก่อน เปรียบเสมือนในเรื่องรามเกียรติ์ ผู้ใดมีฐานะสูงย่อมกดผู้มีที่มีฐานะด้อยได้เสมอ

โชว์ของผมเวลาที่เล่นจะเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ด้วยเช่นกัน เรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางฐานะ หรือทางเพศทางอะไรอย่างนี้ เวลาครีเอทโชว์ผมจะเอาเรื่องราวจากชีวิตจริงๆมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องรักกัน แล้วต้องฆ่ากัน พระเอกตาย นางเอกตาย ตกหลุมรัก แฮปปี้เอนดิ้ง มันไม่ใช่ ผมพยายามเชื่อมโยงกับเรื่องจริงในชีวิตของพวกเราด้วย”

The Invisible World เปิดแสดง วันนี้ – มี.ค. 53 พร้อมอาหารมื้อค่ำ ณ เบด ซัปเปอร์คลับ ซ.สุขุมวิท 11 สอบถาม โทร. 0 -2651-3537 และ 088 – 525 – 0101





Comments are closed.

Pin It