คอลัมน์ : เรื่องเล่าในเงาดิน โดย : องุ่น เกณิกา สุขเกษม
เมื่อระยะเวลาของการแสดงงานได้สิ้นสุดลง ฉันกับเพื่อนใจจึงได้เดินทางกลับเชียงใหม่ เราผลัดกันขับรถ หากคนใดง่วงนอนหรือเหนื่อย อีกคนหนึ่งก็ขับแทน
จากกรุงเทพขับล่องขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ จนถึงเมืองนครชุม จ.กำแพงเพชร ฉันรีบชะลอรถและเลี้ยวเข้าไปตามป้าย “นครชุม” ด้วยใจที่รู้สึกคุ้นเคยราวกับมีใครที่ฉันรู้จักอยู่ที่เมืองแห่งนี้
แต่เปล่าเลย ฉันรู้จักและประทับใจกับเมืองนครชุมแห่งนี้ ผ่านจากวรรณกรรมที่เคยอ่านในวัยเยาว์ “ทุ่งมหาราช” ของ เรียมเอง หรือ มาลัย ชูพินิจ
ฉันมักจะตื่นตาตื่นใจเสมอๆ กับเมืองเล็กๆ ในชนบท เมืองอันเป็นสถานที่อันธรรมดาสามัญ ที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว ฉันพอใจที่จะได้ชิมอาหารจากรสมือของคนท้องถิ่นที่นำมาวางขาย
อาทิ ปอเปี๊ยะนึ่งจากสูตรอันเป็นเฉพาะถิ่น ของแม่ค้าชาวบ้านที่วางขายในรถเข็น,ก๋วยเตี๋ยวเส้นบะหมี่ทำเองใส่ถั่วฝักยาวและหมูสับ มีเครื่องปรุงเป็นพริกป่นและน้ำตาลปี๊บเหลวๆ,ก๋วยเตี๋ยวเนื้อในร้านห้องแถวไม้อันเป็นใจกลางของตลาดแห่งนั้น และจะขาดเสียไม่ได้นั่นคือโอเลี้ยงเย็นๆ ซักถุง
สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เป็นของมีค่าและ เป็นรางวัลของการเดินทางสำหรับฉัน แม้ด้วยระยะเวลาเพียงน้อยนิดที่แค่ได้ผ่านไปสัมผัส
ฉันคิดถึงความสมบูรณ์ของที่ดินและทรัพยากรป่าไม้ในอดีตของที่นั่น ฉันคิดถึงรุ่งและสุดใจ ฉันคิดถึงพะโป้ คิดถึงภาพการค้าไม้อันรุ่งเรืองของเขา คิดถึงภาพของเมืองทั้งเมืองในคลองสวนหมากที่มีคนตายกันเป็นเบือด้วยโรคห่าระบาด….
ฉันเดินผ่านตรอกซอกซอยในตลาดของเมืองอันเงียบสงบแห่งนั้น ห้องแถวไม้เก่าแก่ทั้งหลาย..เดินไปพิศไปถึงความเป็นอยู่อันเรียบง่ายเท่าที่ตาของฉันจะมองเห็น
เมื่อเดินผ่านร้านขายทองซึ่งมีแท่นวางตู้ทองและผนังสีแดงสด ทว่าร้านทั้งร้านนั้นกลับถูกล้อมไปด้วยลูกกรง…พลันใจของฉันกลับคิดถึงไปถึงมุมอีกมุมหนึ่งของเมือง…เมืองนี้มีซ่องโสเภณีไหม…ฉันคิด และจินตนาการไปเอง
ซ่องโสเภณีนั้นเป็นสถานที่ที่จะมีหญิงสาวผู้แต่งหน้าทาปากจัดจ้าน นั่ง ยืน เดิน และทำท่ายั่วยิ้มชายตา โปรยจริตกิริยาเพื่อเรียกร้องความสนใจ ภาพเหล่านี้ผุดขึ้นในมโนสำนึกของฉัน ทั้งที่ในความเป็นจริงฉันไม่ได้พบเห็นสิ่งใดๆ อันจะก่อให้เกิดเป็นแนวคิดได้ ในสถานที่แห่งนั้นเลย
ผลพวงของการเดินทางและการได้เดินเที่ยว แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาแห่งการผ่านทาง กลับทำให้ฉันเกิดแรงบันดาลใจ และมีภาพความฝันถึงหญิงสาวต่างๆ อันมีจริตกิริยายั่วเย้าอันแก่กล้า ที่ฉันจะปั้นพวกเธอออกมา
จากเมืองนครชุมเราขับรถขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเมืองลำปาง เพื่อนใจของฉันได้หยุดแวะพักที่วัดพระธาตุลำปางหลวง อันเป็นวัดที่เขาโปรดปราน เขาเพลิดเพลินอยู่กับการเดินถ่ายภาพพระพุทธรูป วัด และศาสนสถานเก่าแก่งดงาม
ในที่สุดเราก็มาถึงเชียงใหม่..ฉันได้รับแรงบันดาลอันเต็มเปี่ยมมาจากระหว่างทางนั่นเองมาประกอบเป็นการงานแห่งชีวิต
ถ่ายภาพโดย : นายดี และ มณีดิน
รู้จัก… องุ่น เกณิกา สุขเกษม
จบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยสยาม เคยทำงานเป็นสาวแบงค์ นาน 7 ปี
ปี 2540 เป็นต้นมา หันมาจับเศษดินปั้นเป็นหญิงสาวมากจริต จนได้รับการยอมรับ และรู้จักในฐานะประติมากรหญิงผู้ไม่เคยผ่านการเรียนศิลปะจากรั้วสถาบันใด
ขณะนี้องุ่นใช้ชีวิตและทำงานประติมากรรม อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่นของบ้านริมแม่น้ำน้อย จ.สิงห์บุรี
เป็นชีวิตที่สมถะ เรียบง่าย สบายๆ แม้ไม่ได้สบายด้วยวัตถุ ดังที่เธอเคยให้สัมภาษณ์ ART EYE VIEW เมื่อหลายปีก่อนว่า
“สบายด้วยอากาศ ด้วยต้นไม้ และมีอิสระ ทุกวันนี้ทำงานปั้นดิน และเผาเองทุกชิ้น ส่วนชิ้นไหนที่เห็นเหมาะเห็นชอบ ก็จะนำไปหล่อที่โรงหล่อ
รู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากเลย เวลาที่ทำงาน เพราะอะไรที่มันเป็นชีวิตเรา เป็นความรู้สึกนึกคิดของเรา พอได้ทำเป็นงานออกมาแล้วมีความสุข
ถ้าช่วงไหนไม่ได้ทำงานปั้น มันเหมือนชีวิตเราหมดคุณค่า และอัดอั้น เพราะเรามีความรู้สึกที่ต้องระบายออกมา”
ติดตาม คอลัมน์ : เรื่องเล่าในเงาดิน โดย : องุ่น เกณิกา สุขเกษม ได้ทุกอาทิตย์ ทาง ART EYE VIEW
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW ของ www.astvmanager.com และ ART EYE VIEW เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: [email protected]
และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews
Comments are closed.