มิวเซียมมีชีวิต…ชมสัตว์สตัฟฟ์หายากใกล้สูญพันธุ์

เดอะ สตรีท รัชดา ร่วมกับ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จัดนิทรรศการ “Taxidermy” นิทรรศการสัตว์สตัฟฟ์ที่จะพาคุณท่องไปในโลกของสัตว์หลากหลายชนิด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมปลูกฝังแนวคิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้ทางวิทยาศาสตร์ และธรรมชาติวิทยาให้กับประชาชนในวงกว้าง ตั้งแต่วันนี้ถึง 27 มกราคม 2565 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา

สัตว์สตัฟฟ์ที่นำมาจัดแสดงภายในนิทรรศการ “Taxidermy” มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่นำมาจาก “ศูนย์บริหารคลังตัวอย่างทางธรรมชาติวิทยาและสตัฟฟ์สัตว์” ขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสตัฟฟ์สัตว์อันดับต้นๆ ของประเทศ

ภายในนิทรรศการมีสัตว์สตัฟฟ์หลายชนิดที่น่าสนใจต่อการเรียนรู้ ซึ่งเป็นสัตว์ที่หาดูได้ไม่ง่ายนัก เช่น

• นกแก้วโนรีแคทเทอริ่ง (Chattering Lory)
นกแก้วโนรีแคทเทอริ่งมีแนวโน้มจะสูญพันธุ์ พบมากบริเวณพื้นที่ราบลุ่ม ป่าดิบเขา สูงจากระดับน้ำทะเล 1,050 เมตร ปกติแล้วเจ้านกปากสีส้มชนิดนี้จะชอบอยู่บริเวณสวนและป่ามะพร้าว มีขนสีแดงเข้ม ต้นขาและปีกมีสีเขียวอ่อน ปลายหางมีสีเขียวเข้ม ในบางครั้งจะมีจุดแต้มสีเหลืองตามใบหน้า และมีอยู่ 3 สายพันธุ์ย่อย ลักษณะแตกต่างกัน จะมีโอกาสได้เห็นลำตัวเป็นสีเหลือง เมื่อกระพือปีกและหุบปีก อาศัยอยู่ในโพรงบนต้นไม้สูงจากพื้นดินประมาณ 20-25 ซม. ฤดูกาลผสมพันธุ์อยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน หรือนานกว่านั้น ออกไข่ครั้งละ 2 ฟอง ระยะเวลาฟักไข่ประมาณ 76 วัน

• กวางรูซ่า (Rusa Deer)
อาศัยอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย มีขนาดกลาง ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ 80-120 กก. ส่วนตัวเมียมีน้ำหนักประมาณ 40-60 กก. กินพืชเป็นอาหาร โดยเฉพาะ ส่วนใบไม้ (Herbivore, Folivore) เกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์ สำคัญต่อระบบนิเวศน์ในการช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์พืช โตเต็มที่เมื่ออายุ 1.5-2 ปี และมีอายุขัยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 15-20 ปี กวางรูซ่าสามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี แต่จะพบมากในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม ตั้งท้อง 8 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว

• นกคาสโซวารี (C Southern Cassowary)
นกคาสโซวารีมีขนาดใหญ่แต่บินไม่ได้ สูงประมาณ 100 ซม. น้ำหนักประมาณ 85 กก. เป็นนกขี้อายระมัดระวังตัวมาก มีอารมณ์เสียง่าย และชอบต่อสู้ ปกติจะอาศัยอยู่ตามลำพังในป่าฝนทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย และทางใต้ของหมู่เกาะปาปัวนิวกีนี ในทวีปออสเตรเลีย ลักษณะขาสั้นและแข็งแรง ขนทั่วทั้งตัวมีลักษณะคล้ายเส้นผม เอาไว้ป้องกันดงหนามของไม้พุ่มต่างๆ มีหางและปีกที่เล็กมาก บนหัวจะมีสันกระดูกที่เด่นสะดุดตา หัวและคอไม่มีขน ส่วนหนังจะเป็นสีแดง ฟ้า ม่วง และเหลือง ขาจะมี 3 นิ้ว สามารถวิ่งได้เร็วมากถึง 45 กม./ชม. และยังว่ายน้ำได้อีกด้วย นกคาสโซวารีจะออกไข่เป็นสีเขียวเข้มชุดละ 3-6 ฟอง โดยตัวผู้จะเป็นผู้ฟักไข่ ใช้เวลา 49-56 วัน อยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์