ART EYE VIEW—กลายเป็นประเด็นในโลกโซเชียล กรณีการตัดไม้มะหาดอายุ 143 ปี ในพื้นที่ จ.กระบี่ มาให้ “มูไก” ศิลปินชาวญี่ปุ่น สร้างเป็นผลงานประติมากรรม ประดับหอศิลป์อันดามัน จ.กระบี่
มูไก เป็นศิลปินที่เดินทางมาเมืองไทยบ่อยครั้ง โดยส่วนใหญ่มาในนามศิลปินนานาชาติ ที่ กมล ทัศนาญชลี ศิลปปินแห่งชาติ เชิญให้มาร่วมกิจกรรมทางด้านศิลปะ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด,เคยเป็น Artist-in-residence หรือ ศิลปินในที่พำนัก ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นราว 2 เดือน และเดินทางไปสร้างงานศิลปะในหลายประเทศทั่วโลก
โดยผลงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา คือการนำซากไม้ หรือไม้ที่ถูกคนอื่นโค่นทิ้งทำลาย มาสร้างเป็นงานประติมากรรม
และล่าสุด กิจกรรมศิลปะที่ หอศิลป์อันดามัน จ.กระบี่ มูไก ก็คือหนึ่งในศิลปินที่มาร่วมกิจกรรมด้วย แต่ที่ต้องกลายเป็นประเด็นให้ถูกพูดถึง เนื่องจาก ไม้ที่นำมาสร้างเป็นผลงานประติมากรรม ไม่ใช่ซากไม้ แต่ไม้มะหาดอายุ 143 ปี ที่ถูกโค่นมาเพื่อให้มูไก สร้างงานประติมากรรมโดยเฉพาะ
จึงทำให้มีคนวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม บ้างก็ว่าไม่น่าจะผิดอะไร เพราะเป็นต้นไม้ในพื้นที่ๆเจ้าของยินยอมให้ตัด
ดังที่ “กีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน” นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ ได้เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับต้นไม้ที่นำมาสร้างประติมากรรมในครั้งนี้ ทางหน้า facebook ของตนเองว่า
“ไม้มะหาด ตำนานประติมากรรมหน้าเมืองกระบี่..นายสุวรรณ มุคุระ เจ้าของไม้มะหาดอายุ 143 ปี ได้มอบไม้ต้นนี้ที่อยู่ในโฉนดที่ดินของตนเอง ที่บ้านทุ่ง ให้กับเทศบาลเมืองกระบี่เพื่อนำมาแกะสลักเป็นเสาประตูมากรรม จำนวน 5 ท่อน โดยมีอาจารย์กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ ร่วมกับคุณมูไก ศิลปินจากประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ดำเนินการสร้างประติมากรรมที่หน้าเมืองกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 เป็นต้นไป โปรดติดตามต่อไป”
บ้างก็ว่า อย่างไรก็ตาม เป็นสิ่งที่ศิลปินควรมีจิตสำนึกถึงต่อทำธรรมชาติ ในฐานะที่ควรเป็นผู้สร้างมากกว่าทำลาย
ร่วมแสดงความคิดเห็น ว่าคุณคิดอย่างไรกับกรณีนี้..
ข่าวที่เกี่ยวข้อง…นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ แจงเรื่องตัดต้นไม้ทำงานประติมากรรม
…เปิดใจ “นายกฯ กระบี่” ผู้สั่งโค่นไม้มะหาดร้อยปี ศิลปะยืนยาวแต่ไม้แก่รอวันตาย!!?
***รู้จัก KATSUMI MUKAI***
ผู้ชายคนนี้เห็นต้นไม้ที่ตายแล้วเป็นต้องใจเต้น…ไม่ต่างจากปลวก
แต่ฉันอยากเรียกเขาว่าปลวกเลวๆ มากกว่า เพราะไม่มีปลวกดีๆ ที่ไหน เจอไม้แล้วเหลือทิ้งไว้ให้เห็นต่างหน้า นอกจากเจาะกินเรียบ
แถมต้นไม้ที่เขาเจาะ มันสวยงามและดูมีคุณค่าเกินกว่าจะเรียกว่า “ซาก” ของปลวก
KATSUMI MUKAI เป็นประติมากรชาวญี่ปุ่น เริ่มต้นสนใจทำงานศิลปะประเภทงาน Painting มาก่อน หลังจากที่เขาได้เดินทางไปตามประเทศต่างๆ ได้เห็นต้นไม้ที่มีลักษณะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟอร์มของต้นไม้ ,เนื้อไม้ หรือว่าพื้นผิวของเปลือกที่ห่อหุ้มต้นไม้ต้นนั้นๆอยู่ ทำให้เขาเกิดไอเดียที่จะสร้างงานประติมากรรรมจากต้นไม้ขึ้น
งานที่ต้องใช้เลื่อย ใช้ค้อน ใช้สิ่ว เป็นตัวช่วยในการทำงาน ใครหลายคนอาจมองว่ามันช่างเป็นงานที่เหนื่อยหนัก แต่สำหรับ MUKAI แล้ว เขาสนุก และเบิกบานอย่างมาก
เพราะการทำงานในแต่ละครั้ง เขามักจะได้พบเจอเรื่องราวที่นึกไม่ถึงเสมอ บางครั้งที่เขาใช้เครื่องมือเจาะลงไปในเนื้อไม้ เขาพบว่ามีลูกปืนฝังอยู่ในนั้นด้วย หรืออย่างตอนที่จะมีการสร้างโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย และบังเอิญว่าบริเวณพื้นที่นั้นมีต้นไม้อายุมากถึง 300 ปี ที่จะต้องถูกโค่นทิ้ง MUKAI ถูกเรียกให้ไปดู ระหว่างที่เขาใช้เครื่องมือเจาะเข้าไป นอกจากก้อนหินสามก้อน ที่เกือบจะทำเอาเครื่องมือเขาแทบพัง เขายังได้พบอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่มันถูกฝังอยู่ในเนื้อไม้มายาวนาน
และคราวที่เขาเดินทางมาเมืองไทย และจัดการกับต้นมะม่วงป่าที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 1 เมตร (ในพื้นที่ของ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตองครักษ์) เขาก็ได้พบลิ่มรถไฟ 2 อัน และตะปูอีก 5 ตัว
สำหรับคนอื่นแล้วอาจหัวเสียกับอุปสรรคที่ได้เจอ แต่สำหรับ MUKAI แล้ว เขาคิดว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์
MUKAI บอกว่าเขาไม่ต้องมีการสเกตช์ใดๆลงในกระดาษ ก่อนลงมือทั้งสิ้น ทุกอย่างมันอยู่ในหัวของเขาแล้ว นับตั้งแต่ได้เจอต้นไม้ซึ่งเป็นเป้าหมาย เขาให้ความสำคัญกับการขึ้นรูปก่อนที่จะฝากริ้วรอยของสิ่ว อันเป็นเอกลักษณ์ ไว้ที่เนื้อไม้นั้น
บ้านของ MUKAI อยู่ไกลออกไปจากเมืองโตเกียว สตูดิโอสร้างงานกลางแจ้งของเขา ใครที่ผ่านไป เป็นต้องได้เห็นงานประติมากรรมชิ้นเอกหลากหลายชิ้น เขาเป็นที่รู้จักดีในบ้านเกิด แต่ชื่อของเขาดังไกลไปมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี ฝรั่งเศส เม็กซิโก เกาหลี ฯลฯ เขาล้วนแต่เคยไปฝากผลงานเอาไว้ให้จดจำ
ผลงานของ MUKAI มีเนื้อหาไม่ตายตัว บางครั้งเขาก็บันดาลต้นไม้ ให้เป็นรูป คน, รูปสัตว์ ,ทางน้ำไหล หรือแม้แต่ “ไข่” อะไรก็ได้ที่เขาเห็นว่ามันเหมาะสมกับฟอร์มของต้นไม้
เหตุผลของการสร้างงานบางชิ้นขึ้นมา MUKAI บอกว่า เขาต้องการเชื่อมความสัมพันธ์ของผู้คนให้เป็นกลุ่มเป็นก้อนกัน และเพื่อบอกกับใครว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้ แต่เรายังมี พ่อ แม่ พี่น้อง และญาติมิตร รายรอบเราอยู่
ยามที่คนชมงานของเขา เขาอยากจะทำให้คนชมรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงมดตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ที่กำลังมองดูสิ่งที่ยิ่งใหญ่ตรงหน้า มันก็เหมือนกับที่เขาคิดว่าเขาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ไม่ได้เทียบเท่าหรือยิ่งใหญ่ไปกว่า ต้นไม้อายุหลายร้อยปีที่เขาลงมือจัดการมัน
ดังนั้นงานของเขาจะไม่พยายามเปลี่ยนฟอร์มของต้นไม้ไปมาก และบางครั้งจะหลงเหลือพื้นผิวอันเป็นเสน่ห์ ของต้นไม้ไว้บ้าง เพราะเขาเชื่อว่าสิ่งที่ธรรมชาติให้มา ไม่ใช่เรื่องที่สมควรถูกมองข้าม
MUKAI ชอบให้เด็กมามุงดูเวลาเขาสร้างงาน เขาไม่รู้สึกรำคาญใดๆ แต่เขากลับรู้สึกว่า เด็กๆได้มีส่วนช่วยในการทำงาน ขณะเดียวกัน เขาก็อยากปลูกฝังให้เด็กๆได้เรียนรู้ในสิ่งที่เขาทำด้วย
และหวังว่ามันจะเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้เด็กๆ รักและหวงแหนธรรมชาติมากขึ้น
เป็นที่ทราบกันดีในหมู่เพื่อนศิลปินว่า ยามงาน MUKAI ตั้งใจเต็มที่ ส่วนยามสนุกเขาก็ดูเหมือนจะลืมโลกในด้านที่ร้ายๆไปเสียสิ้น จึงทำให้เขาผู้มีอายุอยู่ในวัย 60 กว่าๆ นี้ ยังแข็งแรงและพร้อมจะลุยงานหนักต่อไปได้อีกนาน
ว่าแต่ว่า ใครที่เห็นต้นไม้ที่ตายแล้ว อย่าเพิ่งโค่นทิ้งไปเสียหล่ะ โปรดบอกเขา เพราะเขาเองก็อยากสร้างงานดีๆสักชิ้นฝากไว้ที่เมืองไทยเช่นกัน
หมายเหตุ : บทสัมภาษณ์โดย ART EYE VIEW เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2549
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW ของ www.astvmanager.com และ ART EYE VIEW เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: [email protected]
และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews
Comments are closed.