>>นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ได้พูดถึงการสอนลูกเรื่องการให้โดยใช้โอกาสเทศกาลไว้ว่า “การมอบของขวัญในเทศกาลปีใหม่ เรียกได้ว่าเป็นของคู่กัน แต่กระนั้นเด็กๆ มักเป็นฝ่ายได้รับตลอดเวลา จนเด็กๆ ทั้งหลายอาจลืมตระหนักว่านอกจากการรอคอยที่จะได้รับของขวัญนั้น พวกเขาก็สามารถที่จะเป็นผู้ให้ได้เช่นกัน พ่อแม่ผู้ปกครองอาจใช้โอกาสนี้ สอนให้ลูกรู้ถึงคุณค่าที่แท้จริงของการให้ ที่ความตั้งใจจริง มีความสำคัญมากกว่ามูลค่าของสิ่งของ”
ผ.ศ.พญ.ปราณี เมืองน้อย จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวเพิ่มเติมถึง “เทคนิคง่ายๆ ไว้เป็นแนวทางให้ผู้ปกครองนำมาปรับใช้อย่างลองให้เด็กๆ ช่วยกันคิดว่าจะทำอะไรให้คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย เช่น ช่วยคุณตารดน้ำต้นไม้ทุกเย็นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หรือ ประดิษฐ์สมุดโน้ตทำมือเล่มเล็กให้คุณย่าไว้ใช้จดรายการเวลาไปตลาด ซึ่งกิจกรรมง่ายๆ เหล่านี้ ไม่เพียงสอนให้ลูกรู้จักการเป็นผู้ให้และเข้าใจความหมายของการให้อย่างแท้จริง แต่ยังฝึกกระบวนการคิดวิเคราะห์ของเด็กๆ ด้วย
ชวนลูกรักทบทวนตัวเอง
ในสังคมยุค 4G ที่อะไรๆ ก็รวดเร็วไปหมด บ่อยครั้งเราก็อาจหลงลืมที่จะหยุดคิดพิจารณาสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปในแต่ละวัน เมื่อสิ้นปีมาถึงก็น่าจะเป็นโอกาสอันดี ที่จะลองชวนเด็กๆ มาทบทวนเหตุการณ์ในปีที่ผ่านมา ซึ่งคุณหมอจากโรงพยาบาลเด็กแนะนำว่า สำหรับเด็กโตที่เขียนหนังสือได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจทำแบบสอบถามสนุกๆ มีคำถามให้ลูกได้ฝึกคิด เช่น เหตุการณ์ที่ลูกมีความสุขที่สุด และเหตุการณ์ที่ลูกเศร้าที่สุดในปีที่ผ่านมาคืออะไร ในปีใหม่ที่จะมาถึงลูกอยากพัฒนาตนเองเรื่องใดบ้าง เมื่อได้คำตอบแล้ว ลองนั่งคุยกับลูก เล่าเรื่องราวในปีที่ผ่านมาของคุณบ้าง ก็อาจทำให้เข้าใจกันมากขึ้น สำหรับเด็กเล็กที่ยังเขียนหนังสือไม่ได้ อาจใช้วิธีพูดคุยด้วยคำถามง่ายๆ แทน วิธีนี้ทุกคนจะได้มีเวลาหยุดนิ่งๆ ทบทวนตัวเอง อีกทั้งยังฝึกทักษะการคิดและพัฒนาการสื่อสารของลูกคุณด้วย
ตั้งเป้าหมายทำให้สำเร็จ
ช่วงสิ้นปี หลายคนมักจะตั้งเป้าหมายต่างๆ ที่จะทำในปีใหม่ที่มาถึง หรือเรียกว่า New Year Resolutions ซึ่งการจะทำให้ได้ตามเป้าหมายตลอดทั้งปีที่จะมาถึงนั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เด็กๆ จำเป็นต้องมีความมุ่งมั่นและมีความสามารถในการควบคุมตนเองพอสมควร โดยพ่อแม่ควรช่วยลูกในการตั้งเป้าหมายวันปีใหม่ที่ทำได้จริงและเหมาะสมกับวัยของลูก ขณะเดียวกันคุณพ่อคุณแม่ ควรให้ความสำคัญเรื่องการปลูกฝัง EF หรือ Executive Function ซึ่งเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญมากในโลกยุคใหม่ แต่ก่อนเราอาจมุ่งเน้นที่ IQ EQ แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไปทักษะชีวิตของเด็กยุคนี้จึงต้องเปลี่ยนตามในช่วงปีใหม่นี้จึงเป็นโอกาสดีที่พ่อแม่จะหันมาให้ความสำคัญกับ EF ซึ่งเป็นทักษะความสามารถระดับสูงของสมองในการควบคุมความคิด อารมณ์ และการกระทำ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งการจะปลูกฝัง EF นั้นจำเป็นต้องทำตั้งแต่แรกเกิดอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เริ่มจากการที่ลูกมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแม่ หรือผู้เลี้ยงดูคนใดคนหนึ่งอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นคงทางอารมณ์ เมื่อลูกโตขึ้นควรฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัย ตามด้วยการรับผิดชอบงานบ้านที่เหมาะสม ทำให้เด็กมีทักษะในการจดจ่อ ในงาน รู้จักการวางแผน มีความคิดพลิกแพลงแก้ปัญหาตามสถานการณ์ได้ ความสำเร็จจากเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวัน ถือเป็นการฝึก EF ให้เด็กๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะเด็กจะได้เรียนรู้ที่จะควบคุมตนเองให้ทำงานให้สำเร็จ เมื่อทำได้ก็จะเกิดความภูมิใจในตนเอง สุดท้ายเด็กๆ จะสามารถตั้งเป้าหมายระยะยาว อย่าง New Year Resolutions แล้วทำให้สำเร็จได้ในที่สุด