ทรงไหนมาล่า สีไหนมาแรง โดยเซียนผมยุ่น

By Lady Manager

ทรงผมทำให้คน “เกิด-ดับ” ได้ในบัดดล แม้หน้าตาจัดว่าสะสวยขนาดไหน แต่ตัดผมทรงอาเหล่าม่าจนยายทวดต้องเผลอเหลียวหลังไหว้ ใครเห็นต้องขำก๊าก คงไม่ไหวละมั้ง!

ดังนั้นเกิดเป็นสาวสมัยใหม่แห่งยุคโลกวิกฤตมันต้องตามให้ทันเทรนด์ เผื่อว่านำมาปรับใช้ให้เหมาะกับใบหน้าของตนเองได้ถูก อย่ามัวแต่ย่ำเหยาะแหยะอยู่กับทรงผมเดิมๆ เกิดมาทั้งทีหัดเปรี้ยวแซ่บซะบ้าง!

งั้นตามมาเลย! คำต่อคำกับกูรูเซียนผมสุดเท่ห์แห่งแดนอาทิตย์อุทัย!

“ทรงผมคนสาวไทยกับญี่ปุ่นแทบไม่ได้มีข้อจำกัดอะไรไม่ต่างกัน เพียงแต่ผมคนไทยมีเกล็ดผมที่ค่อนข้างหนากว่าคนญี่ปุ่นเท่านั้นเอง จึงไม่มีข้อจำกัดว่า จะทำให้ใครออกมาสวยไม่ได้

แต่ทรงผมที่เป็นการโชว์ทุกเวทีบางคนอาจคิดว่าค่อนข้างแรง มันก็จริง บางคนทำไปอาจจะไม่เวิร์กกับทรงบนเวที มันเว่อร์ไป แต่ผมมองว่าคือ โชว์ ถ้าเรานำทรงเหล่านี้มาปรับให้เข้ากับรูปหน้า หรือสไตล์ของคนคนนั้นก็จะทำให้ทรงผมออกมาดูดีได้”

มร.ฮิโรฟุมิ เคระ (Hirofumi Kera) กูรูช่างผมแดนอาทิตย์อุทัยชั้นแนวหน้าจากจากชิเซโด้ โปรเฟสชั่นแนล (Shiseido Professional) บินลัดฟ้าสู่เมืองไทยบอกเล่าเทรนด์ผมใหม่ที่กำลังมาแรงแซงโค้งในขณะนี้ว่า

เทรนด์ผมมาล่า
ซอยทะลุมิติ ดัดลอน ด้านข้างเรียบ

“เทรนด์ผมคอนเซปต์ เบลด (Blade) ทรงนี้กำลังเป็นทรงที่ทั่วโลกกำลังนิยมตัด นางแบบคนไทยก็ตัดทรงนี้ได้ออกมาสวย ทรงนี้เน้นความคมชัด โฉบเฉี่ยว มีมิติ ให้เข้ากับยุคสมัยของหญิงแกร่งที่ซ่อนความหมายในตัวเอง

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนปี 2011 ผู้นำแฟชั่นค่ายต่างๆ ได้นำเสนอผลงานการจัดแต่งทรงผมที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยการผสมผสานระหว่างความละเอียดอ่อน และความคมชัดได้อย่างลงตัว โดยวงการแฟชั่นช่วงนี้ได้รับอิทธิพลมาจากยุค70 และ 80 เป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์

ดังนั้นเทรนด์ต่างๆ เหล่านี้จึงทำให้ทางชิเซโด้ฯ เปิดตัว “เบลด” เทรนด์ผมใหม่ คือ ทรงผมที่ด้านข้างดูเรียบ เพื่อโชว์มิติของลอนผม และความเปล่งประกายของสีผม ส่วนด้านบน โชว์สีสันซึ่งใช้เทคนิคไม่เหมือนใคร ทำให้องค์ประกอบต่างๆของทรงผมผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบที่สุด

เอกลักษณ์ของผมทรงผสไตล์เบลด คือ เน้นความเงางามและความหลากหลาย ด้วยการไล่ระดับโทนสีผม เพื่อเพิ่มมิติ และการตัดซอยแบบมีมิติและซับซ้อน แสดงให้เห็นรูปทรงที่สวยงามโดดเด่น และเพิ่มลูกเล่นโดยการดัดอ่อนๆ

นอกจากนั้น ยังโดดเด่นและสะดุดตา ด้วยการออกแบบการตัดซอย โดยแบ่งผมออกเป็น 2 ส่วน คือผมด้านล่าง ตัดสั้นเพื่อความสมบูรณ์ ที่เน้นความชัดเจนของผมแบบมีมิติ ส่วนผมด้านบนตัดซอยเพื่อสร้างวอลลูม(volume) ให้กับทรงนี้ โดยการตัดแบบไล่ระดับ”

เซียนผมยุ่นแนะวิธีจัดทรงสไตล์เบลดง่ายๆ ด้วยตัวเองโดยไม่แพ้โปรผมด้วย

“เคล็ดลับการเปลี่ยนทรงผมที่ทำได้ด้วยตนเองในแบบง่ายๆ ของทรงนี้คือ ต้องทำผมด้านข้างต้องให้เรียบ แล้วทัดหูโชว์ให้เห็นหู ถึงแม้ผมด้านบนจะเยอะ ฟู แต่ถ้าเราทำด้านข้างให้ดูเรียบจะดูออกมาดีได้ในแบบสไตล์เบลดได้” พ่อมดแห่งทรงผม บอกเทคนิค

เทรนด์สีมาแรง
“ม่วง-เบจ” รำลึกเรโทร

ตัดเสร็จไม่พอ ต้องลงสีให้ศีรษะด้วยแน่ะ!

“จากนั้นต้องเติมสีสันให้ผมในโทนสีเบจ (beige) โทนสีม่วงลาเวนเดอร์ (Lavender) แต่ต้องมีเทคนิคการทำสีโดยการทำสีแบบสลับช่อ คือ พื้นสีผมใช้โทนสีม่วงลาเวนเดอร์ และด้านนอกใช้สีเบจ เพื่อให้ได้ความเก๋ไก๋แบบยุคเรโทร (Retro) และการดัดลอน คือขั้นตอนสุดท้ายเพิ่อความเด่นชัดของทรงนี้นั่นเอง

สีผมตอนนี้ถ้าเป็นแบรนด์อื่นค่อนข้างแรง แต่เวลาผมคิดสไตล์ขึ้นมาจะคิดว่ามันเหมาะกับสีผิว หรือคนเอเชียหรือเปล่า ผมมองว่าถ้าเป็นคนเอเชีย ถึงจะใช้สีสว่างขนาดไหน แต่มันก็ต้องคงความเป็นธรรมชาติ ให้ออกมาสวยได้มากที่สุด ส่วนทรงที่ใช้ต้องให้ร้านซาลอนกลับไปใช้จริงได้กับลูกค้า อาจจะไม่ใช่ทรงที่หวือหวาเท่าไหร่ แต่มองว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับช่างทำผมนำไปปรับใช้ให้เข้ากับลูกค้าได้”

คุณฮิโรฟุมิ บอกด้วยว่า ช่างผมแดนซากุระทุกคนไม่เพียงแต่แต่งหน้าได้อย่างเดียว ความสามารถต้องรอบด้านต้อง “แต่งหน้า” สวยไม่แพ้ตัดผมด้วย

“ส่วนสีสันของการแต่งเติมบนใบหน้า คือ สีครีมประกายเทา สามารถเพิ่มเสน่ห์เย้ายวลความงามของดวงตาอันแสนคมของสาวเอเชีย สีลิปสติกประกายส้มเข้ากันดีกับสีผม เพื่อให้รู้สึกถึงกลิ่นอายย้อนยุค”

*เซียนแนะ*

:ป้องกันผมเสีย จงหมั่นเล็มผม

เซียนผมฮิโรฟุมิ ย้ำผู้หญิงทุกคนหัดหมั่นเล็มผม และทรีตเมนต์ ด่านปราการผมแห้งเสีย

“และอย่าลืม ดูแลเส้นผมด้วย เทรนด์ผมมักเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้เราต้องทำผมใหม่ตลอด ดังนั้นเส้นผมต้องโดนทำร้ายไปเรื่อยๆ เราต้องหมั่นเล็มผมบ่อยๆ ถ้าเราปล่อยให้ผมเสียโดยไม่เล็มจะทำให้สภาพเส้นผมเสียยิ่งไปมากขึ้น และทรีตเมนต์บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ร้าน หรือที่บ้าน ต้องบำรุงเหมือนผลิตภัณฑ์บำรุงหน้า ดังนั้นจะต้องมีสารบำรุงเส้นผมให้มาก บำรุงเกล็ดผม และหนังศีรษะ จะทำให้ผมดูดี และสุขภาพดีขึ้น”

:วิธีดูแลผมหน้าร้อน

กูรูผมบอกวิธีดูแลผมในช่วงฤดูร้อนแสนสาหัส แดดแรง สาเหตุทำร้ายผมจนแห้งกรอบ!

“ช่วงหน้าร้อน หนังศีรษะจะมัน แต่ปลายกลับแห้งกรอบชี้ฟู ถ้าเป็นเมืองไทยผมมองว่าอากาศจะแห้ง และร้อน ผมจะเสีย แต่บริเวณหนังศีรษะจะมัน สิ่งสำคัญในการดูแลคือเราต้องสระผม และล้างพวกคราบมันออกให้หมดเพื่อความสะอาด

ในส่วนของปลายผมต้องมีการบำรุง แนะนำให้มาส์ค (mask) ผมทิ้งไว้ 10 นาที จะช่วยให้สุขภาพเส้นผมดูดีได้ เน้นช่วงปลาย เราจะไม่มาส์คช่วงหนังศีรษะเพราะจะทำให้หนังศีรษะมัน แต่จะมีทรีตเมนต์บางตัวที่ใช้กับหนังศรีษะโดยเฉพาะ เพราะถ้าบำรุงหนังศีรษะได้ด้วยก็จะทำให้ผมไม่มัน และไม่ลีบแบนด้วย แต่ไม่ใช่ทุกตัวนะครับ”

:แก้ปัญหาผมลีบแบน – หนาฟู

“ทิปส์ในการแต่งผมให้ดูเป็นธรรมชาติทรงระหว่างวัน ถ้าเป็นคนผมดัดแนะนำให้ใช้เป็นแวกซ์ (wax) ชนิดครีม บางคนพอบีบใส่มือเสร็จจะเอาใส่ผมเลย อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผมลีบ แบน และดูหนักแข็งจนเกินไป

ผมแนะนำว่าให้ถูแวกซ์กับมือก่อนจนซึมเข้าระหว่างนิ้ว จากนั้นค่อยนำมาจับผม และขยำ มันจะดูเป็นธรรมชาติและไม่หนักจนเกินไป ผมจะดูพลิ้วสวย แบบไม่ตั้งใจ สวยได้ทั้งวัน ใช้แวกซ์ขยำตั้งแต่ช่วงกลางผมถึงปลายผม แต่ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้ไปโดนในส่วนของช่วงโคนผมนะ ถ้าโดนปุ้บจะทำให้ดูแบน ลีบติดหนังหัวไปเลย

ส่วนการจัดแต่งทรงของคนผมชี้ฟู หรือคนผมเยอะมาก มันจะมีเทคนิคตรงที่ว่า ถ้าผมช่วงกลางของศีรษะเยอะ หรือช่วงข้างหูนั่นเอง จะทำให้หัวดูใหญ่ ดังนั้นแฮร์สไตลิสต์ (Hair Stylist)จะแนะนำว่าให้ตรงช่วงกลางศีรษะลีบลงมา จะช่วยอำพรางศีรษะดูเล็กลง

อีกวิธีคือ แก้ปัญหาได้ด้วยการตัดซอยในส่วนที่ทำให้ศีรษะดูใหญ่ หรือพยายามทำให้ช่วงปลายผมดูผมเยอะจะได้ดูสมดุลกับช่วงบนนั่นเอง”

>ซอกแซกหลังไมค์
ทรงผมหนุ่มแดนปลาดิบ หรือ กิมจิ ทำสาวยุ่นกรี๊ดบ้านแตก!

“เทรนด์ของทรงผมผู้ชายจะคล้ายกับผู้หญิง ต้องผมสั้น แต่จะเล่นสีเยอะกว่าผู้หญิง โดยการใส่ลูกเล่นสีส้มเข้าไปมากขึ้น

ต้องยอมรับเลยว่า ทางญี่ปุ่นเริ่มมีกระแสเกาหลีเข้ามา จึงทำให้กระแสเกาหลีมีให้เห็นในญี่ปุ่นบ้างแล้ว

ส่วนความแตกต่างของทรงผมระหว่างสไตล์เกาหลี และญี่ปุ่น ผมว่าเกาหลีเขาค่อนข้างใส่สไตลิ่งค่อนข้างเยอะ ผมจึงค่อนข้างเเข็ง ดูไม่เป็นธรรมชาติ ถ้าเป็นสไตล์ญี่ปุ่นจะเน้นความพริ้วของผมให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า

ดังนั้นทำให้บุคลิกของผู้ชายญี่ปุ่นจะแลดูค่อนข้างอ่อนโยน ใสกว่าเกาหลี นั่นทำให้หนุ่มเกาหลีดูแมนมากกว่าหนุ่มญี่ปุ่น ผมจึงไม่แปลกใจว่า ทำไมตอนนี้ผู้หญิงมักจะชอบผู้ชายเกาหลีมากกว่า เพราะทรงผมดูแมนกว่าหนุ่มญี่ปุ่นนั่นเอง”เซียนผมฮิโรฟุมิปิดท้ายแบบขำขำ

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net