By Lady Manager @Bitchy
ไม่ว่าจะสื่อสารต่อหน้า หรือสนทนาทางมือถือ กระทั่งในเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ทำไม๊ทำไมผู้ชายของเรามักเป็นโรคอ้ำอึ้ง ตอบช้า แถมถาม “หา..?” “อะไร?” ราวกับต้องการประวิงเวลาไว้ก่อน
ครั้นตอบก็มัก “เออ เมื่อกี้คุยงานอยู่” “สัญญาณไม่ชัด” “รถติด” ฯลฯ
…เป็นอะไรกันนักกันหนาค๊ะ?!?
“บอกความเป็นจริงแล้วชอบบ่น ขี้เกียจโต้แย้งด้วย” สามีคนหนึ่งเขียนเปิดเผยในบล็อก พร้อมบอกด้วยว่าส่วนใหญ่พูดปดกับภรรยาในเรื่องไม่ซีเรียส ถ้าเป็นเรื่องจริงจังใหญ่โตไม่โกหกหรอกคร้าบ
งั้นเรามาลิสต์กันว่าคำพูดปดเล็กปดน้อยยอดฮิตติดปากผู้ชายนั้นมีอะไรกันบ้าง ประโยคใดช่างมันเหอะ คุณสาวๆ ไม่ต้องคาดคั้นเอาเป็นเอาตายกับแฟนหนุ่มหรอก หรือวลีวาทะไหนที่ส่งสัญญาณว่า คุณภรรยาควรปล่อยให้คุณสามีอยู่คนเดียวสักพัก อย่าไปเจ้ากี้เจ้าการล่วงละเมิดความเป็นแมน เสนอหน้าเข้าไปแก้ปัญหาให้เขา
โดยเรามีกูรูเพศชายมาช่วยอธิบายว่า อะไรคือเหตุผลเบื้องหลังคำโกหก 4 มหายอดนิยมนี้
อันดับ1 : “รถติด”
“อ้างว่ารถติด มันง่ายกว่าที่จะต้องมานั่งอธิบายว่าทำไมมาสาย” จอห์น อโมเดโอ (John Amodeo) กูรูความสัมพันธ์ผู้เขียน The Authentic Heart อธิบายความเป็นเพศชายว่า
“ผู้ชายสื่อสารไม่เก่งเท่ากับผู้หญิง และเขาก็คิดว่ารถติดเป็นเหตุผลที่เยี่ยมที่สุดแล้ว”
ทั้งนี้คุณสาวๆ ต้องใจเย็น อย่ารีบโวยวายถ้าเขามาสายเพียงไม่กี่ครั้ง ในเมื่อคุณรู้ว่าเขาเป็นคนทำอะไรชักช้า นัดมารับ 10 โมง แต่ดั๊นออกถนน 10 โมง คุณก็แก้ด้วยการบอกเวลานัดเร็วขึ้น
แต่หากหนุ่มของคุณอ้างรถติดตล๊อดกับทุกสถานการณ์ คำพูดปดติดปากนี้ก็ไม่ไร้สาระแล้วล่ะ คุณต้องคอยสังเกต และเริ่มกลยุทธ์จับโกหก…โดยไม่ให้เขารู้ตัว
อันดับ2 : “ไม่แพงหรอก”
ประสบเจอไหมคะ สามีที่บ้านชอบแอบซื้อของเล่นเด็กผู้ชาย ทั้งๆ ที่เราก็มีลูกผู้หญิง เดี๋ยวหุ่นยนต์ เดี๋ยวรถแข่ง เดี๋ยวเครื่องบินบังคับวิทยุ ฯลฯ สอยกลับบ้านจนไม่มีที่เก็บแล้ว
“ผู้ชายไม่ว่าโตขนาดไหนก็ชอบของเล่น และเขาก็ไม่ชอบความรู้สึกว่าต้องขออนุญาตใครด้วย” จอห์น กล่าวว่า “แม้ผู้ชายใช้เงินของเขาซื้อเอง ไม่ได้ใช้เงินในบัญชีร่วม เขาก็ยังติดโกหกกับภรรยาว่า ‘ไม่แพง’ (ของเล่นสมัยนี้ราคาไม่ถูกนะ)”
เพราะผู้ชายต้องการได้ความรู้สึกว่าเขาควบคุมตัวเอง ไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจใคร พอๆ กับความกลัวว่า หากต้องบอกกล่าวขออนุมัติจากภรรยาก่อน เท่ากับพาตัวเองไปอยู่ใต้อำนาจภรรยา ที่สำคัญ กลัวว่าภรรยาจะโกรธ แถมมาด้วยบ่น บ่น และบ่น ‘เอาเงินซื้อของเล่นบ้าๆ นี้ไปเก็บเป็นค่าเทอมให้ลูกดีกว่า’
…ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ ให้เขาได้สำแดงความเป็นเด็กผู้ชายในตัวออกมา อยู่ในโลกจินตนาการบ้าง สมัยเด็กๆ เขาอาจไม่มีเงินซื้อของเล่นหรือได้เล่นของเล่นเหล่านี้ ครั้นโตมาหาเงินใช้เอง ซื้อมาเล่นบ้างจะเป็นไร ดีกว่าเอาเงินไปถลุงเลี้ยงดูตุ๊กตาดิ้นได้นะจ๊ะ
อันดับ3 : “ดื่มไม่เยอะหรอก”
แหม บอกดื่มไม่หนัก แต่เห็นกลับบ้านมาทีไร กรึ่มกลิ่นฉุนมาเชียว ซึ่งประเด็นนี้สามารถนำไปสู่รอยร้าวระหว่างความสัมพันธ์ได้ถ้าคุณไม่ ‘เข้าใจ’ เขาพอ
ลำพังขึ้นชื่อว่า ‘เพศชาย’ ย่อมต้องการอิสระเสรี ยิ่งติดดื่มอีก คุณต้องงัดศิลปะขั้นเทพมาใช้ในการสื่อสาร แสดงให้เขาเห็นว่าคุณห่วงเขาขนาดไหน
“แต่ต้องดูจังหวะเวลาด้วย” บาร์ตัน โกลด์สมิทธิ์ (Barton Goldsmith) ผู้เขียนเรื่อง Emotional Fitness for Intimacy เตือนว่า
“ห้ามพูดตอนเขาเมา” บาร์ตัน บอกรอให้เขาสร่างเมา หรือวันอื่นที่เขาพร้อมฟังอย่างมีสติ สนทนาในเชิงร่วมกันแก้ปัญหา ไม่ใช่เอะอะตำหนิเขาฝ่ายเดียว
อันดับ4 : “ผมไม่เป็นไร”
ผู้ชายเกินครึ่งที่พูดปดประโยคนี้กับผู้หญิงใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นแม่ เป็นเมีย หรือแค่แฟน แสดงว่าเขากำลังเครียด และต้องการรักษาความภาคภูมิใจในตัวเอง ด้วยการแก้ปัญหาเอง
เป็นการโกหกเพื่อปกป้องภาพพจน์ของเขาในสายตาของเรา และเหนืออื่นใด เขาไม่ใช่เพศที่สันทัดในการเล่าเรื่องลำดับเหตุการณ์ว่าอะไรเกิดขึ้น และไม่รู้ว่าจะบรรยายความรู้สึกออกมาอย่างไร เขาจึงใช้วิธีจัดคุณสาวข้างกายออกไปจากสถานการณ์ อย่ารับรู้ปัญหานั้นซะเลยดีกว่า
“ปล่อยเขา 2-3 วัน แล้วค่อยถามเขาใหม่ ถ้าเขายังบอกว่าไม่เป็นไร แสดงว่าเขาต้องการแก้ปัญหานั้นเองจริงๆ” บาร์ตันแนะนำ
นิสัยเสียหญิงเราชอบถือวิสาสะ เข้าไปจัดการชีวิตส่วนตัวของคนรักในนามแห่งความรัก ซึ่งในทางกลับกัน มันจะก่อให้เกิดผลทางลบมากกว่า
คุณจะกลายเป็นสาวเซ้าซี้น่ารำคาญ ความห่วงใยหวังดีกลายเป็นการคาดคั้นกดดัน
รักเขา ก็จงเชื่อมั่น ว่าเขาเคลียร์ปัญหาเองได้เถอะนะ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.