By Lady Manager
“คุณรู้ไหม ผู้หญิงชาติใดมีหน้าตางดงามสวยที่สุด ฝรั่งให้การยอมรับ ก็สาวไทยไงล่ะ ดูสิ บ้านเรามีนางงามจักรวาลมาแล้วถึง 2 คน ส่วนเกาหลีเคยได้สักปีบ้างไหมล่ะ” นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวเปิดการสนทนา
ศัลย์เกาหลีล้าหลังไทยถึง 30 ปี!
คุณหมอชลธิศ เล่าว่า ประเทศไทยเป็น Medical Hub มีชาวต่างชาติ มาใช้บริการหมอไทยสารพัดโรค รวมทั้งศัลยกรรมด้วยที่สามารถทำเงินเข้าประเทศได้มากมาย
“ศัลยกรรมบ้านเราคุณภาพดีและถูก ต่างชาติมาทำกันเยอะมากในหลายๆ โรงพยาบาล โดยเฉพาะเรื่องตา จมูก ทำหน้าอก แปลงเพศ ซึ่งผมว่าหมอไทยหลายๆ คนเก่ง ต่างชาติเชื่อฝีมือและคุณภาพของ แพทย์ไทย
เกาหลีเขาเอาญี่ปุ่นเป็นครู ลองสังเกตดู เลียนแบบแทบจะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง สกินแคร์ เทคโนโลยี ทำตามญี่ปุ่นเป๊ะ ที่สำคัญศัลยกรรมยังล้าหลังกว่าเมืองไทย 30 ปี
ศัลยแพทย์ไทยซึ่งทำศัลยกรรมบริเวณใบหน้าจะมีพื้นฐานความรู้จากแพทย์หู คอ จมูก ปาก ก่อนแตกแขนงเป็นแพทย์พิเศษเฉพาะทาง ผู้เชี่ยวชาญด้านตา จมูก ปาก เส้นผม ฟัน หน้าอก
ส่วนการแปลงเพศนั้นอันดับ 1 อยู่แล้ว ได้รับการยอมรับทั่วโลก นอกจากนี้ศัลยแพทย์ไทยยังมีการวิจัยพัฒนาเทคนิคและเทคโนโลยีในการศัลยกรรมความงามอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นวงการศัลยกรรมความงามในประเทศไทยจึงจัดได้ว่าเหนือกว่าเกาหลีใต้ เราไม่จำเป็นต้องหอบสังขารเดินทางไกลไปโมดิฟายหน้าถึงเกาหลี ในขณะที่เมืองไทยต่างชาติเขายกย่องในฝีมือ
“ลองสังเกตสิ คลินิกศัลยกรรมในเมืองไทยสภาพภายนอกจะดูไม่ค่อยหน้าเข้าหรอก แต่ทำไมคนไข้ถึงให้ความไว้วางใจล่ะ แต่คุณลองไปดูโรงพยาบาลศัลยกรรมของเกาหลีสิ โอ้โห้ เป็นตึกสวย น่าเข้ามาก แต่พอเข้าไปนะ ไม่ได้ดูดีเหมือนภายนอกหรอก เพราะเกาหลีเก่งเรื่องประชาสัมพันธ์ไงล่ะ” คุณหมอ กล่าว
กรีดตาขั้นเทพ 20 นาทีเสร็จกลับบ้านชิลๆ
เป็นที่ล่ำลือกันว่า คลินิกธีรพรการแพทย์คิวยาวเหยียด เพราะคนไข้แห่มากรีดตากันเพียบแทบจะทะลักคลินิก อีกทั้งคุณหมอเดินสายบรรยายถึงเทคนิคการกรีดตาขั้นเทพมาแล้วหลายประเทศ
ทว่าคุณหมอมักจะทำการผ่าตัดในช่วงเวลากลางคืน เปิดคลินิกรับคนไข้ในช่วงเย็นเกือบค่ำ ปิดคลินิกเกือบเช้า!
“เพราะเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้สมาธิอย่างสูง”
เจาะรูเล็กๆ บริเวณเปลือกตาเพียง 2 รู แทนการกรีดตา ไม่ต้องวางยาสลบ การเย็บแผลก็นำกล้องจุลทรรศน์มาใช้ ซึ่งทำให้มีรอยแผลขนาดเล็ก ลดอาการบวมลงได้มาก
แทนที่จะกรีด เปลือกตาให้เป็นแผลยาวเทคนิคนี้เมืองไทยคิดค้นได้เป็นที่แรกในโลก และได้รับการยอมรับ อย่างกว้างขวางในวงการแพทย์ระดับนานาชาติ
“ศัลยกรรมเป็นงานฝีมือแค่เรียนรู้อย่างเดียวพอ ต้องหมั่นฝึกฝีมือกว่ามือจะนิ่ง” ศัลยแพทย์มือฉมัง กล่าว
ถึงว่าสินะ…ดารา คนดังเมืองไทยชั้นนำจึงเป็นคนไข้ของคุณหมอกันอื้อซ่า ลิสต์ยาวเป็นหางว่าว
ข้อคำนึงก่อนโมดิฟายหน้า
ในฐานะนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย คุณหมอแนะนำคนไข้ด้วยว่า ก่อนศัลยกรรมควรคำนึงถึงอะไรบ้าง
สถานที่พยาบาลต้องถูกกฎหมายมีใบรองรับ แพทย์ต้องเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่ใช่หมอเถื่อนหรือหมอกระเป๋า หรืออย่างในกรณีที่หมอเถื่อนใช้ซิลิโคนเหลวฉีดที่บริเวณคาง แก้ม เพื่อให้ดูเปล่งปลั่งเป็นธรรมชาติ แต่อ้างว่าเป็นคอลลาเจน หรือโบท็อกซ์ ก็ทำให้เกิดปัญหารูปหน้าบิดเบี้ยวตามที่เห็นกันจนชินตา
และสิ่งสำคัญคือ คุณภาพของแพทย์ โดยดูจากผลงานและประสบการณ์ของหมอที่ผ่านมา อาจถามจากหมอโดยตรงหรือสอบถามผู้รู้ต่างๆ ไม่ใช่ดูจากโฆษณาหรือราคาเพียงอย่างเดียว
ศัลยแพทย์ทุกคนเรียนพื้นฐานมาเหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ การสร้างสรรค์
“การทำศัลยกรรมเสมือนการสร้างสรรค์ประติกรรม ศัลยกรรมเป็นงานศิลป์ ดังนั้นผลงานกับประสบการณ์จึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่คนไข้ต้องคำนึงถึงอย่างมาก
ส่วนข้อปฏิบัติก่อนทำศัลยกรรมที่คนไข้ทุกคนต้องทราบเบื้องต้นนั้นคือ ต้องมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีประวัติหรือกำลังป่วยเป็นโรค 3 กลุ่มโรคเสี่ยง ได้แก่ โรคหัวใจ โรคความดัน และโรคเบาหวาน กลุ่มโรคเลือด เช่น โรคเลือดไหลไม่หยุด และกลุ่มโรคติดเชื้อ เช่น โรคไข้หวัด โรคไซนัส เป็นต้น หากป่วยต้องรักษาโรคให้หายก่อนจึงจะสามารถทำศัลยกรรมได้ โดยเฉพาะโรคหัวใจที่อาจส่งผลถึงชีวิตได้
ที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ควรงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงก่อนทำศัลยกรรม
ขอบคุณ ภาพจากเฟซบุ้ก ยกกระชับใบหน้าแบบไฮโซ ทำตากับหมอชลธิศ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Comments are closed.