ดังจากคลิป! พริตตี้อีสาน“มายด์มิ้นท์” อัดอั้นคนดูถูก ยันไม่ใช่แค่ยืนสวยหน้าแน่นแต่งโป๊อกบึ้ม อาชีพนี้ต้องอดทนทรมาน!?

By Lady Manager

ย่างเข้าสู่ฤดูกาลของเหล่าอาชีพ สาวพริตตี้ กันแล้วนะคะช่วงนี้ เรียกว่าจัดเต็มละลานตาเต็มงานมอเตอร์โชว์ ไม่รู้ว่าไปดูคนหรือรถกันแน่อ่ะเนอะ


ทว่าหลายคนคงยังจำคลิปพริตตี้สาวสวยระดับตัวแม่มาระบายความในใจถึงคนที่ชอบดูถูกอาชีพพริตตี้ ด้วยสำเนียงเสียงอีสาน งานนี้เรียกว่าเว้าแบบไฟแลบแทบไม่หยุดหายใจ พร้อมลีลาจิกกัดบ่นไปด่าไปเสียดสีพวกโลกสวยแบบเรียกเสียงฮาขำอมยิ้มกันได้ เพราะเธอโด่งดังเพียงข้ามคืนจนกลายเป็นเน็ตไอดอลเพราะคลิปนี้

“พริตตี้มันเป็นหยัง? อยากสิมาระบายแน๊”

และเราจะมาทำความรู้จักกับอาชีพพริตตี้ผ่านมุมมองของ มายด์มิ้นท์-นรา ฝ่ายพงษา พริตตี้เสียงอีสานสาวขอนแก่นวัย 22 ปี กันให้มากกว่าที่คนมักชอบมองว่า แค่แต่งโป๊ยืนสวยหน้าแน่นอึ๋มกระจายบนรองเท้าส้นสูงแป้บๆ ก็ได้เงินค่ะ

“เริ่มทำงานตั้งแต่สมัยมัธยม ม.5 เลย เริ่มเดินแบบครั้งแรกตอน ม.6 จากนั้นก็เดินทางสู่เส้นทางนางแบบ เริ่มประกวดช้างซูเปอร์โมเดล 2013 เป็นเวทีแรกที่ประกวดและชนะเลิศ ก่อนหน้านี้ก็มีประกวดนางงามบ้างประปราย

ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะวิทยาการจัดการ สาขาการจัดการทั่วไป ปี 4 เราจึงเริ่มมองแล้วว่า เราต้องเดินไปในทิศทางไหน เพราะรักสวยรักงามมาตั้งแต่เด็ก”

พริตตี้เสียงอีสาน เกริ่นถึงการเดินทางเข้าสู่วงการพริตตี้อย่างเต็มตัว

อัดอั้น! เป็นพริตตี้กดดันโดนดูถูก สวยศัลย์ทรมานเพราะงาน

พริตตี้เสียงอีสานบอกด้วยว่า อาชีพนี้กดดันเจอแต่คนดูถูก จนรับไม่ไหวต้องขอระบายความในใจเผื่อว่าคนเหล่านั้นจะมีมุมมองต่ออาชีพนี้ดีขึ้น

“ก่อนที่จะออกคลิประบายความในใจนั้นออกไป คิดว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายสำหรับการเป็นพริตตี้แล้วนะที่เราจะทำอีเวนท์นี้ จะไม่ทำพริตตี้ วางมือแล้วจะทำธุรกิจของเราอย่างเดียว เหนื่อย แล้วเดี๋ยวก็มีรุ่นน้องผุดขึ้นมา แล้วเรารู้สึกว่าท้อแท้ มีแรงกดดันต่างๆ พอจบอีเวนท์นี้ กลับไปที่ห้องก็เริ่มอัดคลิประบายความในใจ

เพราะคนที่เป็นพริตตี้ไม่ใช่แค่ว่าจะมายืนสวย หลายคนคิดว่า ยืนอยู่บนรองเท้าส้นสูงทำหน้าสวยๆ แป้บนึงก็ได้ตังค์แล้ว แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลยค่ะ ไม่มีใครอยากจะเกิดมาไม่สวย จนต้องมาทำศัลยกรรม ยัดซิลิโคนเข้าหน้าอก ต้องเจ็บ เอาเข็มจิ้มหน้าฉีดโบท็อกซ์ 3 เดือนครั้ง ไม่มีใครอยากทรมานกันหรอก

แต่สิ่งที่พริตตี้ต้องทำเพราะอะไร เพราะเราต้องดูดี เพื่อจะมีงานเข้ามา บางคนบอกว่า ชอบโชว์หน้าอก แต่ไม่ใช่นะ เรากดดัน ไม่มีใครอยากโชว์หรอก แต่ถ้าเขาไม่โชว์คุณจะดูไหมล่ะ พริตตี้เขามีไว้สร้างสีสันของงาน

ที่อยากเลิกเพราะคิดว่า มันอาจจะไม่ใช่ตัวเราหรือเปล่า เราก็มีธุรกิจของเรา ทำไมต้องมาเหนื่อยขนาดนี้ แต่พอคลิปออกไปปุ้บมันกลับกัน ทุกคนรู้จักเรามากขึ้น มีงานเข้ามาเยอะ จากที่แต่ก่อนไม่มีคนรู้จัก เขาก็จะมองสองแง่สองง่าม แต่ที่รับงานต่อเพราะว่า เขาเริ่มมองภาพลักษณ์เราเป็นพริตตี้สาวอีสาน เป็นคนตลก เป็นตัวของตัวเอง มายด์มินท์เลยไม่รู้สึกอึดอัดตั้งแต่วันนั้นมา จึงเลือกที่จะทำพริตตี้ต่อ

และหลังจากคลิปออกไปภูมิใจนะคะ ภาษาอีสานเป็นภาษาที่สวยงามนะคะ นอกจากขนบธรรมเนียมประเพณีก็มีการพูดอีสาน เป็นการบ่งบอกว่าเราเป็นคนอีสานนะ มันน่าอายตรงไหน เราภูมิใจนะ แต่เราต้องดูกาลเทศะ เช่น งานนี้เราต้องพูดภาษากลางนะ เพราะมีคนมากมายหลากหลายภาค ไม่ใช่ว่าเราจะพูดอีสานทุกครั้ง

มีพริตตี้หลายคนก็ออกคลิปพูดอีสานเหมือนกัน ซึ่งเราก็ภูมิใจ ไม่ได้คิดว่าเลียนเเบบเรา รู้สึกดีใจที่เด็กรุ่นหลังกล้าพูด เป็นแรงบันดาลใจไม่อายที่จะพูดอีสานกันมากขึ้น”

มูลค่าศัลย์ 3 แสน สุดคุ้ม! ได้หน้า-นมใหม่ งานเข้าเพียบ

มายด์มิ้นท์บอกด้วยว่า สาเหตุที่พริตตี้หลายคนต้องทำศัลยกรรมนั้น เพราะลูกค้าเลือกพริตตี้มายืนงานอีเวนท์ของเขาเพราะความสวย รูปร่างหน้าตาต้องดึงลูกค้าเข้างาน ตรงนี้แหล่ะ จึงทำให้หลายๆ คนต้องศัลยกรรม

“เราไม่ได้อยากจะเปลี่ยนแปลงหน้าอะไรมากเป็นคนละคน แค่อยากเปลี่ยนให้ดูดีขึ้น จมูกก็ไปทำมา 3 รอบ และตัดปีกจมูก เดิมทีเป็นคนฐานจมูกกว้าง หรือจมูกบานนั่นเอง แต่มีสันจมูกอยู่แล้ว เพียงแต่แปะซิลิโคนแค่ประมาณ 1 มิลฯ ให้เป็นรูปเป็นทรงขึ้น

ส่วนปากก็ตัดริมฝีปากบนออกนิดหนึ่ง เพื่อเวลาถ่ายรูปปากจะได้ไม่ใหญ่มากจนล้นกล้อง และทำหน้าอกจากคัพเอเป็นซี นอกนั้นก็มีฉีดโบท็อกซ์ แต่ไม่ฉีดฟิลเลอร์เพราะกลัวเจอของปลอม อย่างพริตตี้บางคนไปฉีดไปคางมาผิวเป็นตะปุ่มตะป่ำไม่เหมือนเดิม เลยไม่กล้าฉีดค่ะ

เบ็ดเสร็จรวมมูลค่าการทำศัลยกรรมทั้งหมดประมาณ 300,000 บาท แต่ก็คุ้มกับสิ่งที่ได้มา ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่า ทำแล้วจะคุ้มไหม แต่ด้วยความที่ใจรัก จึงทำไปเถอะ ได้คืนไม่ได้คืนช่างมัน เพราะมีปมตั้งแต่เด็ก เนื่องจากหน้าอกไม่มีเลย แบนมาก ฉายา “เวก้าจอแบน” และเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่ไม่มีหน้าอกแล้วอยากจะทำให้ใหญ่ๆ ในครั้งแรก

ส่วนเรื่องความขาวนั้น เนื่องจากเป็นลูกเสี้ยวเวียดนาม ได้ผิวจากคุณแม่เลยขาว แต่เคยมีประสบการณ์ไปฉีดกลูตาไธโอนครั้งนึง แล้วรู้สึกเหมือนจะช็อก เหมือนจะตาย หน้ามืด ทรงตัวไม่อยู่ เหมือนจะฟุ้บลงไปเลย หลังจากฉีดได้ประมาณ 10 นาที เพราะมันฉีดเข้ากระแสเลือด จึงกลัวมาก ไม่เคยฉีดผิวขาวอีกเลย ก็ทานแค่วิตามินบำรุงผิวทั่วไป”

โอ้โห! รายได้เฉียดสองแสนต่อเดือน โชว์ตัวชั่วโมงละหมื่น

“รายได้ต่อเดือนประมาณ 180,000 บาท เพราะจะมี 2 แบบ หากเป็น MC ต้องโฟนงาน ถ้าเป็นงานยาวก็คิดวันละ 5,000 บาท แต่หากเป็นโชว์ตัวก็คิดชั่วโมงละ 8,000-10,000 บาท แล้วแต่งาน จะรับสลับกัน อย่างงานโชว์ตัวก็จะมีแฟนคลับมารอดูเรา เขาจะมารอ แม้จะเพียงแค่ชั่วโมงเดียว เขาก็มีความสุขที่จะมาเจอเรา หรือเราโฟนงาน 10 นาทีปุ้บเก็บตัว แล้วก็รอรอบออกมาใหม่ แฟนคลับเขาก็จะรอเราเช่นกัน เป็นกำลังใจของเรา

รับงานแถบภาคอีสานซะส่วนใหญ่ แต่ก็มีกรุงเทพฯ ด้วยค่ะ แถบภาคอีสานเขามักจะมีงานอีเว้นท์ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ แล้วมายด์มิ้นท์จะมีตารางเรียนจันทร์-พุธ ถ้างานอีเวนท์มันยาวแล้วตรงกับงานอีเวนท์ ก็จะตัดงานออกไปเลย แต่หากเป็นตอนเย็นก็จะไปทำ หากเรามีงานกลุ่มที่ต้องทำกับเพื่อน จะไม่รับงานเลย เพราะเราต้องไปช่วยเพื่อน จะไม่เอาเปรียบไปทำแต่งานของตัวเอง แต่ตอนนี้เรียนแค่วิชาเดียว เพราะใกล้จะจบแล้ว

เราก็อยากทำงานเก็บเงินเลี้ยงครอบครัว อยากมีอพาร์ทเมนต์ หรือหอพักให้เช่า ไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ทำงานแล้ว ซึ่งตอนแรกคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องแต่งตัวโป๊ แต่พอระยะเวลาผ่านไป เราทำให้แม่รู้ว่า เราเรียนและทำงานไปด้วย แต่ไม่เคยเสียคนเพราะงานพริตตี้ ไม่เคยนอกลู่นอกทาง ไม่ดื่มเหล้า แต่เที่ยวกลางคืนบ้าง เพื่อนจะชอบชวนไป เพราะเป็นคนสนุกสนาน”

โดนจ้องนม แทะโลม เสี่ยเข้าหา เป็นเรื่องปกติ!

“เคยมีแบบว่ามองหน้าเราแล้วก็มองหน้าอกสลับกันไปมา” มายด์มิ้นท์กล่าวอย่างตลก

“คือ มองเฉยๆ อ่ะได้นะคะ เพราะเราทำมาใหญ่เอง จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชายจะต้องมอง เราก็ยอมรับ

และมีแม้กระทั่งเสี่ยเข้าหา อย่างเวลาเราทำงานก็จะมีเจ้าของงาน หรือเพื่อนเจ้าของงาน เข้ามาคุยน้องชื่ออะไร เลิกงาน After Party เดี๋ยวไปกินข้าวกันนะ เราก็ไม่เคยไปเลยค่ะ ถ้าไปก็ไปกับทีมงาน ยกทีมไปกับสต้าฟ จะเป็นแบบนี้มากกว่า จะไม่เคยรับงานเอนเตอร์เทน เพราะอันตราย อีกอย่างเห็นเหมือนแรงๆ แบบนี้ แต่จริงๆ เป็นคนกลัวเรื่องแบบนี้มาก

ประมาณกว่า 90% คนที่เข้ามาหาพริตตี้ เขาต้องคิดว่าพริตตี้ทำงานอยากได้ตังค์ ถ้าพริตตี้แค่คุยกับผู้ชายแล้วได้ตังค์เร็วกว่าทำงานล่ะ เขาก็คิดว่าอาชีพพริตตี้ต้องกระหายเงินแน่เลย แต่จริงๆ แล้วพริตตี้ก็เหมือนอาชีพอื่นค่ะ พอทำงานก็รอเงินเดือน รอเงินออก ทุกคนจำเป็นใช้เงินหมด

การจะเป็นเด็กเสี่ยไม่ต้องเป็นพริตตี้ก็เป็นได้ อยู่ที่ตัวคนค่ะ”

สุดท้ายมายด์มิ้นท์ฝาก 3 ข้อปฏิบัติไว้ให้พริตตี้รุ่นใหม่ด้วยว่า

1) มีความเคารพผู้ใหญ่ กตัญญู ใครที่ให้งานเราก็ต้องให้เกียรติ อย่างมีรุ่นพี่ให้งานเรา จากนั้นเราได้งานเราก็ต้องชวนรุ่นพี่ด้วยมาทำด้วย ไม่ใช่มีงานแต่ไม่แบ่งคนอื่น เราต้องมีน้ำใจ ไม่กั๊ก หากเราให้เกียรติอาชีพตัวเอง สิ่งที่เราทำไปมันจะกลับมาหาตัวเราเอง

บางคนสวยมากแต่ทำตัวไม่น่ารัก ขี้เหวี่ยงขี้วีน มาสาย อู้งาน เอาเปรียบเพื่อน กินอาหารแล้วไม่เก็บ ทิ้งไว้ตรงนั้นให้ทีมงานมาเก็บ ตรงนี้ไม่น่ารัก เราทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มต้องรักษาน้ำใจกัน

2) ความพยายาม ความรับผิดชอบ สำคัญมาก เมื่อเราพยายามที่จะเป็นแล้ว เราต้องรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา ตั้งใจทำงาน ไม่บ่นเหนื่อยในขณะที่เพื่อนคนอื่นเขาไม่บ่น อันนี้ไม่น่ารัก

3) ความเป็นตัวของตัวเอง แต่ต้องไม่เดือดร้อนคนอื่น ไม่ใช่เป็นตัวของตัวเองบนความทุกข์ของผู้อื่น เช่น ชอบด่าคน แต่บอกว่าตัวเองเป็นคนชอบพูดตรงๆ ไม่นินทาคนอื่น ไม่มีใครดีไปกว่าใครหรอก ทุกคนมีดีของตัวเอง

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก MindMint Chin Han Hwun
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)

พิเศษสำหรับแฟนเพจ! ส่งความสวย เตรียมรับปี58 เชิญทำทรีตเมนต์เพิ่มความกระจ่างใส ด้วย Aura Bright มูลค่า 4,800 บาท ฟรี! เพียงร่วมสนุกง่ายๆ เริ่มแล้ววันนี้ – 15 ธค.ศกนี้

 

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net