ไนกี้และจี-ดราก้อน (G-DRAGON) นักออกแบบ ครีเอทีฟ และผู้นำทางวัฒนธรรม ชาวเกาหลีใต้ได้ร่วมกันนำเสนอรองเท้าไนกี้ควอนโด1(Nike Kwondo1) ซึ่งเป็นรองเท้ารุ่นที่ 2 ที่ได้พัฒนาร่วมกัน โดยมาในสีสันใหม่ที่ทั้งเป็นเอกลักษณ์และสะท้อนถึงแนวคิดนับตั้งแต่ก้าวแรกของความร่วมมือ นั่นคือความเป็นตัวของตัวเอง รวมไปถึงการเฉลิมฉลองให้กับความร่วมมือครั้งสำคัญนี้
ไนกี้เชื่อมั่นว่ากีฬามีพลังสร้างความเปลี่ยนแปลงและไนกี้พร้อมจะสานความร่วมมือกับผู้ที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน เพื่อขยายขอบเขตของกีฬาให้คนรุ่นต่อไปสามารถจินตนาการถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ โดยจี-ดราก้อนและแบรนด์ของเขาคือพีซไมนัสวัน (PEACEMINUSONE) ได้ถ่ายทอดความรู้สึกของเสรีภาพลงบนผืนผ้าใบขาวที่ผสานทั้งความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมเข้าด้วยกันเพื่อยกระดับชุมชนกีฬาไปอีกขั้น
“ผมอยากมีอิสระในทุกๆ สิ่งที่ผมทำ ตั้งแต่การแต่งตัวไปจนถึงการสร้างสไตล์ของตัวเอง สำหรับคนที่รู้สึกว่าสิ่งต่างๆ ในชีวิตของพวกเขามันมีไม่เพียงพอหรือมีมากจนเกินจะรับไหว ผมหวังว่ารองเท้ารุ่นนี้จะช่วยจุดพลังของการเป็นตัวของตัวเองและช่วยนำทางพวกเขาไปสู่อิสรภาพ”
รองเท้าไนกี้ควอนโด1 เหมือนตัวของจี-ดราก้อน รองเท้ารุ่นนี้เป็นเป็นรองเท้าแนวใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ผสานทั้งความยืดหยุ่นในแง่สไตล์ไปพร้อมกับการตั้งคำถามกับรองเท้าแบบเดิมๆ และกำแพงทางวัฒนธรรม
จุดเด่นที่น่าสนใจของรองเท้ารุ่นนี้ :
รองเท้ารุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากรองเท้าฟุตบอลตระกูลเทียมโปของไนกี้และรองเท้ากอล์ฟสไตล์คลาสสิก หน้าผ้ารองเท้าผลิตจากหนังระดับพรีเมี่ยม ผสานกับการฉลุลายแบบรองเท้าสไตล์โบรก (Brogue)
เพื่อผสานสไตล์อย่างเป็นทางการและสไตล์สปอร์ตอย่างลงตัว รองเท้ารุ่นนี้มีดีไซน์รูปทรงที่เพรียว มีสไตล์คล้ายกับปีก รวมถึงลิ้นรองเท้าแบบแผ่นที่สามารถถอดออกได้ ส่วนเชือกจะอยู่ด้านใต้ลิ้นรองเท้า
สีขาวตลอดทั้งรองเท้าเป็นเสมือนผืนผ้าใบเปล่า เข้ากับทุกสไตล์และรูปลักษณ์
ลายดอกเดซี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์พีซไมนัสวันปักอยู่บริเวณส้นเท้า สอดรับกับลวดลายของแบรนด์พีซไมนัสวันที่ตะเข็บหน้ารองเท้าและบริเวณปลายเชือกรองเท้า สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างไนกี้กับหนึ่งในศิลปินผู้มีความคิดสร้างสรรค์สูงที่สุดในโลกคนหนึ่ง
ชื่อของรองเท้ารุ่นนี้มาจากการผสมระหว่างกีฬาเทควอนโด ศิลปะการต่อสู้ของเกาหลีใต้ รวมถึงชื่อจริงของจี-ดราก้อนคือควอนจียง และสโลแกน ‘Just Do It’ ของไนกี้
รองเท้า Nike Kwondo1 จะวางจำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคมนี้ ทางเว็บไซต์ nike.com แอปพลิเคชัน SNKRS และที่ร้านไนกี้บางสาขา
Comments are closed.