ดราม่าไม่มีหยุด … แม้การประกวดจะสิ้นสุดไปเกือบเดือนแล้ว สำหรับการประกวดมิสยูนิเวิร์สของปีนี้ ทั้งเสียงไม่พอใจคนมง ความไม่ลงรอยกันของนางาม ไปจนถึงผู้ชนะการประกวดมีแนวโน้มว่าจะกลับเข้าประเทศตัวเองไม่ได้ และล่าสุดการออกมาปะ ฉะ ดะ ระหว่างระหว่างทีมงานผู้จัดคือ แอน JKN กับ ซามีร่า ชาห์ ที่สาวไส้กันมาแฉอีกฝ่ายอย่างถึงพริกถึงขิง ที่หาว่าต่างฝ่ายต่างโกง และฟ้องร้องกัน โดยแซะผ่านไอจี สตอรี่ กันแบบไม่มีใครยอมใคร
การประกวดครั้งนี้เป็นที่กล่าวขานกันหนักหน่วงในสังคมออนไลน์ เพราะมีทั้งนางงามร่างอวบ สาวข้ามเพศ และคนที่มีลูกแล้วเข้าประกวดด้วย เนื่องจากกองประกวดเปลี่ยนกฎใหม่ และจะว่าไปแล้วนางงามทั้งสามประเภทที่ว่าก็ติดอันดับ 1 ใน 20 เสียด้วย การประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งนี้จึงมีเรื่องฮือฮาไม่น้อยเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ก่อนประกวดด้วยซ้ำ
ก่อนจะมีการประกวดมิสยูนิเวิร์สที่เอลซัลวาดอร์ แต่ละประเทศก็จะมีการประกวดเฟ้นหาสาวงามที่จะดำรงตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สของประเทศตัวเอง เพื่อไปชิงชัยกันบนเวทีมิสยูนิเวิร์สโลก ปรากฏว่าการประกวดมิสยูนิเวิร์สอินโดนีเซีย ผู้สมัคร 7 คนจาก 30 คนถูกล่วงละเมิดทางเพศ เพราะเอเจนซีที่จัดประกวดพาพวกเธอเข้าห้องแต่งตัว เปลื้องผ้าเพื่อตรวจรอยสักตามร่างกาย และถ่ายรูปตอนที่เธอเปลือยท่อนบน ซึ่งกลายเป็นข่าวอื้อฉาว นักสิทธิสตรีในอินโดนีเซียพากันเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว
วันที่ “แอนโทเนีย โพซิ้ว” กลับไทย คนแห่ไปต้อนรับกันทะลักทลาย เห็นแล้วอดสงสาร “เชย์นนิส ปาลาซิออส” นางงามนิการากัวผู้คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2023 มาครองไม่ได้ เพราะว่าประเทศบ้านเกิดออกคำสั่งห้ามเธอกลับเข้าประเทศในตอนนี้ รัฐบาลนิการากัวเกรงว่าเธอจะปั่นกระแสคัดค้านประธานาธิบดีอีก ซึ่งเธอเคยร่วมแสดงจุดยืนต่อต้านมาแล้วครั้งหนึ่ง คราวนี้ตำแหน่งนางงามจักรวาลน่าจะเพิ่มน้ำหนักของเสียงคัดค้านได้มากขึ้น
เชย์นนิส ปาลาซิออส เป็นผู้หญิงที่แกร่งและสู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก เธอเข้าสู่แวดวงประกวดตั้งแต่อายุ 16 เพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัวที่มีแม่เลี้ยงเดี่ยว ชีวิตของเธอแทบไม่มีเรื่องอื้อฉาว ครั้นมงลง นักข่าวก็พยายามขุดคุ้ยเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะชีวิตรักของเธอ ซึ่งก็ไม่มีเรื่องคาวหรือฉาวโฉ่ นอกจากว่ากันว่าเธอเคยมีแฟนมาแล้วสามคนเท่านั้น
โซเชียลมีเดียคลำหาจนเจออดีตแฟนคนล่าสุด “วิเน็ตต์ ปาลาซิโอ” โปรดิวเซอร์และนักการตลาดซึ่งมีคนติดตามในอินสตาแกรมราวสามหมื่นคน เขาเคยโพสต์ภาพถ่ายคู่กับเธอ แต่พอรู้ว่าสื่อกำลังตามติด เขาก็ปิดอินสตาแกรมหนี และไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกด้วย รวมทั้งเชย์นิสก็เช่นกัน เธอไม่พูดถึงเรื่องนี้ แต่กลับมุ่งมั่นทำงานในตำแหน่งต่อไป
ส่วนแอนโทเนีย โพซิ้ว รองอันดับหนึ่ง ก็มีข่าวที่เป็นกระแสโจมตีออกมาว่า เธอแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ที่หมายถึงก็คือเธอไม่ได้สวมกอดเชย์นิสแสดงความยินดีช่วงที่ประกาศผลว่า เชย์นิสคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส 2023 ฝ่ายโจมตีกล่าวหาว่าเธอไม่เคารพผลการประกวด หลังจากนั้นเธอยังถูกวิจารณ์เรื่องชุดซีทรูของเธอว่าโปร่งใสเกินไป ทำให้เห็นเค้าโครงของเรือนร่างชัดเจน จุดที่ชุดปิดก็มีแค่หน้าอกและเชิงกรานเท่านั้น
จากนั้นก็มาถึงข่าวของรองอันดับสอง คือ “โมรายา วิลสัน” นางงามจากออสเตรเลีย ที่โดนขุดคุ้ยว่าพ่อแม่ของเธอทำธุรกิจล้มละลาย เป็นหนี้กว่า 45 ล้านดอลลาร์ แถมยังมีเรื่องโกงภาษีเข้ามาเกี่ยวข้องอีก และเธอเองก็ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของบริษัทเหล่านั้นด้วย ตอนที่ข่าวแฉออกมามีคนเรียกร้องให้เธอถอนตัวจากการประกวด แต่เธอกลับคว้าตำแหน่งรองอันดับสองมาครอง สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติซะงั้น
อีกคนที่ตกเป็นข่าวก็คือ นางงามเนปาล ที่พกพาน้ำหนักพร้อมความมั่นใจสู่เวที เรื่องของเรื่องก็คือ มีข่าวออกมาว่ามีเพื่อนนางงามไม่ชอบแอนโทเนีย โพซิ้วถึงขนาดว่าถ้าเธอได้มงกุฎจะถีบตกเวที และจู่ๆ ก็มีข่าวว่านางงามฝรั่งเศส “ไดแอน เลย์เร” วิจารณ์ว่านางงามเนปาลนิสัยไม่ดี ไม่ควรเข้ารอบ 20 คนสุดท้ายด้วยซ้ำ คนก็เลยโยงกันว่า ถ้าอย่างนั้นคนที่จะถีบมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ก็น่าจะเป็นเธอ
ล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นางงามเนปาลอดรนทนอยู่นิ่งต่อไปไม่ไหว ต้องออกมาเคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า เธอรักพี่น้องเพื่อนพ้องนางงามทุกคน ไม่เคยพูดจาให้ร้ายใคร และเธอยังแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รางวัลด้วย