Celeb Online

กำหนดการงานราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3


สำนักราชวังของอังกฤษได้เผยแพร่กำหนดการงานราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการแล้ว ผ่านเว็บไซต์ royal.uk งานจะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ ที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ แต่จะมีขบวนแห่ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ผู้ชมตั้งแต่เวลา 6.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นอังกฤษ

สำหรับอาคันตุกะรับเชิญก็จะเริ่มเร็วเช่นกัน ทุกคนควรจะอยู่พร้อมหน้ากันในวิกตอเรีย ทาวเวอร์ การ์เดนระหว่างเวลา 7.15-8.30 น. ก่อนจะเข้าไปในเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์เวลา 9.00 น. ประมุขแห่งรัฐ รัฐมนตรี และเหล่าดาราคนดังทยอยเข้างานจนถึง 10.45 น. และงานราชพิธีบรมราชาภิเษกจะเริ่มตรงเวลา คือเที่ยงตรง


สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา จะเสด็จฯ จากพระราชวังบักกิงแฮมไปยังเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์โดย ‘The King’s Procession’ (ขบวนแห่กษัตริย์) แฟนๆ ของราชวงศ์สามารถเฝ้าเสด็จได้ที่ถนน “เดอะมอลล์” ที่ทอดยาวจากพระราชวังบักกิงแฮมไปถึงจัตุรัสทราฟัลการ์ จากนั้นจะผ่านรัฐสภาไปยังโบสถ์พิธีบรมราชาภิเษก ทั้งสองพระองค์จะเสด็จเข้าโบสถ์เวลา 12.00 น. ผ่านประตูหลัก

จากนั้น “จัสติน เวลบี” อาร์คบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีจะวางมงกุฎเอ็ดเวิร์ดบนพระเศียรของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ในเวลา 13.00 น. และจะมีเพลงบรรเลงสำหรับพิธีซึ่งรวมถึงเพลง ‘Make A Joyful Noise’ ที่ประพันธ์โดย “แอนดรูว์ ลอยด์ เว็บเบอร์” มีคณะนักร้องประสานเสียงและวงออร์เคสตราร่วมบรรเลงเพลงภายในเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ เทปบันทึกเสียงของพิธีทั้งหมดจะได้รับการเผยแพร่ในวันเดียวกัน และจะเผยแพร่ในรูปแบบที่จับต้องได้ เช่น ซีดีและแผ่นไวนิล ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมเป็นต้นไป


แต่ช่วงเวลาสำคัญที่สุด และเป็นช่วงเวลาเดียวที่กล้องทีวีไม่สามารถจับภาพได้ คือพิธีถวายน้ำมันฉัตรมงคล อาร์คบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีจะแตะพระหัตถ์ พระอุระ และพระเศียรของกษัตริย์ด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ (เป็นน้ำมันมะกอก มีส่วนผสมของงา กุหลาบ มะลิ อบเชย เนโรลี กำยาน และอำพัน รวมทั้งดอกส้ม) ซึ่งเป็นสัญญาณว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกกษัตริย์ พิธีถวายน้ำมันฉัตรมงคลถือเป็นช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ โดยมีร่มคอยปิดบังจากสายตารอบด้าน สหราชอาณาจักรเป็นระบอบกษัตริย์ประเทศเดียวในยุโรปที่ยังดำรงรักษาพิธีนี้ไว้ หลังจากนั้นไม่นานอาร์คบิชอปจะสวมมงกุฎเอ็ดเวิร์ดให้กับสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ส่วนเดียวที่จำเป็นตามกฎของพิธีคือ การถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งกษัตริย์จะทรงสาบานว่าจะปกครองพลเมืองของสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพ “ตามกฎหมายและประเพณีของพวกเขา”
หลังเสร็จพิธี กษัตริย์และพระชายาจะเสด็จฯ กลับพระราชวังบักกิงแฮมอีกครั้งด้วยริ้วขบวนที่เรียกว่า ‘The Coronation Procession’ (ขบวนฉัตรมงคล) ขบวนแห่งสุดอลังการจะเริ่มเวลา 14.00 น. เป็นขบวนรถม้าสีทอง “Diamond Jubilee State Coach” ซึ่งใช้ในราชพิธีบรมราชาภิเษกตามประเพณีโบราณ บุคลากรทางทหารจากทุกหมู่เหล่าและจากประเทศในเครือจักรภพจะเดินร่วมขบวน คาดว่าจะใช้เวลา 33 นาที

จากนั้นสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา ตลอดจนรัชทายาทจะเสด็จประทับที่ระเบียงพระราชวังเวลาประมาณ 15.30 น. เพื่อรับคำถวายพระพร แล้วการเฉลิมฉลองในวันเสาร์ก็จะจบลงด้วยศิลปะการบินของกองทัพอากาศ


BBC ยืนยันที่จะจัดคอนเสิร์ตฉลองพิธีบรมราชาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเป็นเกียรติแก่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ในวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม โดยจัดขึ้นที่ปราสาทวินด์เซอร์ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน มีการมอบตั๋วหลายพันใบให้กับพลเมืองที่สมควรได้รับเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ศิลปินที่เข้าร่วมได้แก่ วง Take That, ไลโอเนล ริชชี, แคที เพอร์รี และอันเดรีย โบเซลลี นอกจากนี้ยังมีการแสดงของ Coronation Choir ซึ่งประกอบด้วยนักร้องประสานเสียงจากชุมชนต่างๆ นักร้องประสานเสียงผู้ลี้ภัย สมาชิกกลุ่มร้องเพลง LGBTQ+ นักร้องประสานเสียงภาษามือที่หูหนวก รวมถึงดาราฮอลลีวูดอย่าง “ทอม ครูส” หรือตัวการ์ตูนสัตว์ ‘วินนี-เดอะ-พูห์’ ก็จะร่วมมีบทบาทในคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย เพื่อให้เป็นกิจกรรมสำหรับทุกคนไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ และคอนเสิร์ตจะเริ่มตั้งแต่เวลา 20.00 เป็นต้นไป

ในวันเดียวกันนั้น ชาวอังกฤษทั่วประเทศยังได้รับเชิญให้เฉลิมฉลองและรับประทานอาหาร ‘Coronation Big Lunch’ ร่วมกัน “จุดมุ่งหมายของพิธีราชาภิเษกมื้อใหญ่ คือ การชักชวนเพื่อนบ้านและชุมชนมารวมกันเพื่อเฉลิมฉลองและแบ่งปันมิตรภาพ อาหาร และความสนุกสนาน” – เป็นคำอธิบายจากสำนักราชวัง สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเคยเป็นองค์อุปถัมภ์โครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2013 และทรงเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันครั้งใหญ่ในสหราชอาณาจักรและทั่วโลก รวมทั้งในกานา และบาร์เบโดส ทั้งนี้ ทางสำนักราชวังได้แบ่งปันสูตร ‘Quiche Coronation’ ให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อให้ทำตามและเฉลิมฉลองร่วมกัน

อีกทั้งยังมีคำแนะนำจากพระบรมวงศานุวงศ์ด้วยว่า “คีชรสเข้มที่มีเปลือกบางกรอบและรสชาติที่ละมุนละไมของผักโขม ถั่วปากอ้า และทาร์รากอนสด สามารถรับประทานได้ทั้งแบบร้อนหรือแบบเย็น กับสลัดผักสดและมันฝรั่งต้มใหม่ๆ” เมนูนี้ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาทรงเลือกจากความชอบส่วนพระองค์เอง