“คานเย เวสต์” คนดังในแวดวงดนตรีและแฟชั่น ตกเป็นข่าวฉาวตั้งแต่งานสัปดาห์แฟชั่นที่ปารีส ด้วยพฤติกรรมที่ขัดต่อสายตาของสังคมโลก จนเจ้าของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ต้องคิดทบทวนและตัดสินใจเพื่อยุติเรื่องฉาว และไม่ให้เกิดผลเสียหายกับแบรนด์ อย่าง Adidas ซึ่งออกมาประกาศเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ยอดขายสำหรับไตรมาสที่ 4 อาจต้องลดลงอีกครั้ง เหตุเพราะต้องยุติการเป็นหุ้นส่วนไลน์ ‘Yeezy’ กับ คานเย เวสต์ มูลค่าการตลาดที่ Adidas ต้องสูญเสียครั้งนี้สูงถึง 9.3 พันล้านบาท และอีกแบรนด์หนึ่งคือ Balenciaga ก็โบกมือลา “เย” เช่นกัน
ไม่เพียงแต่ คานเย เวสต์ คนเดียวเท่านั้น ที่ก่อความเสียหายให้กับแบรนด์สินค้า รวมทั้งตนเอง ยังมีคนดังคนอื่นอีกที่ต้องชวดรายได้งาม จากการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าแบรนด์ดัง เราไปดูกันว่ามีใครกันบ้าง ที่ปากหรือพฤติกรรมทำให้ตนเองต้องหลุดโผจากสปอนเซอร์รายใหญ่… แต่เอาจริงๆ ใครจะเจ็บกว่ากันระหว่างคนถอน หรือคนถูกถอนสปอนเซอร์
ไทเกอร์ วูดส์
นักกอล์ฟที่เคยได้สมญานามจากสื่อว่า ‘Tigergate’ ในยุคที่เขารุ่งโรจน์ กระทั่งมาสะดุดขาตัวเองในปี 2009 กับเรื่องชู้สาวและพฤติกรรมนอกใจภรรยา กลายเป็นข่าวฉาวในหน้าสื่อ สปอนเซอร์รายใหญ่ อย่าง AT&T และ Accenture ประกาศถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์ในทันที ตามมาด้วย TAG Heuer และ Gillette ซึ่งแต่ละแบรนด์จ่ายค่าตัวให้สูงถึงปีละ 100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.5 พันล้านบาท ส่วนแบรนด์อื่นๆ ในจำนวนนั้น มี Nike และ Electronic Arts ยังคงให้การสนับสนุน ภายหลังหย่าร้างกับภรรยา และพักการแข่งขันกอล์ฟไปนาน 20 สัปดาห์ ไทเกอร์ วูดส์ ก็หวนคืนสู่สังเวียนอีกครั้ง นิตยสาร Forbes รายงานตัวเลขรายได้ของเขาจากการเล่นกอล์ฟประมาณ 82 ล้านบาทต่อปี อีก 5.7 หมื่นล้านบาทมาจากสปอนเซอร์มากกว่า 10 แบรนด์ โดยเฉพาะ Gatorade ที่ลงทุนผลิต ‘Gatorade Tiger’ ออกมาขาย พร้อมจ่ายค่าสัญญา 5 ปีเพิ่มอีก 3.5 พันล้านบาท
เคต มอส
นางแบบที่ทำร้ายตัวเองด้วยยาเสพย์ติด ทันทีที่ข่าวเรื่องเธอติดยาเริ่มหนาหู ปี 2005 เคต มอส ขณะเป็นท็อปโมเดลวัย 31 ถูกยกเลิกสัญญาอย่างกะทันหัน แบรนด์ดังอย่าง Burberry, Chanel และ H&M บอกเลิกจ้าง ค่าตัวของเธอในขณะนั้นจ๊อบละไม่ต่ำกว่า 3.5 แสนบาท กว่าจะหลุดพ้นจากการเป็น ‘Cocaine-Kate’ ที่สื่อมวลชนตั้งให้ เธอต้องเข้ารับการบำบัด สามปีต่อมาเธอกลับเข้าวงการอีกครั้ง ในปี 2008 นิตยสาร Forbes จัดอันดับให้ เคต มอส อยู่ในลิสต์ ‘The World’s 15 Top-Earning Models’ ที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก และนับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา เธอยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับอีกหลายแบรนด์ ควบคู่ไปกับการลงทุนหุ้น และทำธุรกิจร้านอาหารในลอนดอน (Fat Moss Burger) ก่อตั้งทีมฟุตบอล (London Angels) ผลิตวอดก้า (Pure Wondermoss) และแบรนด์แฟชั่น ปัจจุบันนางแบบวัย 48 ปีรายได้ของเธอยังคงอยู่ที่ 3.4 พันล้านบาทต่อปี
โนวัค โยโควิช
นักเทนนิสระดับท็อปของโลก กลายเป็นข่าวอื้อฉาวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ระหว่างเดินทางไปแข่งขันรายการ Australian Open แล้วถูกกักตัวเนื่องจากเขาไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 งานนี้เขาแถลงข่าววิจารณ์พาดพิงถึงนายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน ด้วย Peugeot ค่ายรถยนต์เบอร์หนึ่งของฝรั่งเศส มีปฏิกิริยาตอบโต้ทันทีด้วยการถอนสปอนเซอร์ ตามมาด้วย UKG บริษัทด้านเทคโนโลยีที่ประกาศไม่ต่อสัญญา ส่วนรายอื่นๆ อย่าง Head, Asics และ Lacoste (ซึ่งมีคอลเลกชัน Lacoste x Novak Djokovic ร่วมกัน) ยังสงวนท่าที นิตยสาร Forbes ประเมินรายได้จากการลงสนามของโยโควิชราว 1.3 พันล้านบาทต่อปี หรือราว 3.7 ล้านบาทต่อวัน
คริสเตียโน โรนัลโด
เหตุเกิดในรายการสัมภาษณ์ของ “เพียร์ซ มอร์แกน” ที่โรนัลโดพลั้งปากด้วยอารมณ์ทิ้งระเบิดใส่ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของตนเอง รวมถึงการกล่าวว่าเขาไม่เคารพในตัว “เอริก เทน ฮาก” ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน จนเป็นผลให้ทีมแมนยูฯ ประกาศให้ คริสเตียโน โรนัลโด ย้ายออกจากทีมเป็นการยุติสัญญาก่อนกำหนด และการเป็นนักเตะไร้สังกัดตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เท่ากับเขาสูญเสียรายได้ต่อปีไปราว 650 ล้านบาทจากทีมแมนยูฯ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อสปอนเซอร์ของเขาที่มีอยู่ร่วม 30 เจ้า ตั้งแต่หมวดเครื่องอุปโภค-บริโภคไปจนถึงแฟชั่นและยานยนต์ นอกจากนั้น เขายังมีแบรนด์แฟชั่นและน้ำหอม ‘CR7’ ของตนเอง รวมถึงการลงทุนแบบจอยน์-เวนเจอร์กับเครือโรงแรม Pestana โรนัลโดมีทรัพย์สินมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1.7 หมื่นล้านบาท ตามหลัง ลิโอเนล เมสซี อยู่แค่อันดับเดียว
Comments are closed.