มีข่าวคราวว่า กษัตริย์ชาร์ลส์ ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมชมม้าแข่ง ณ แซนดริงแฮม ในนอร์โฟล์ค เป็นครั้งแรกหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบท ที่ 2
ม้าแข่งเคยเป็นหนึ่งในความหลงใหลของสมเด็จพระราชินีนาถแห่งอังกฤษ ปัจจุบัน ฟาร์มม้าแข่งแห่งนี้ได้ตกเป็นสมบัติส่วนพระองค์ของกษัตริย์ชาร์ลส์ ที่ 3 โดยทรงขับรถพระที่นั่งด้วยพระองค์เองจากพระราชวังมายังตัวฟาร์มในเวลาพักเที่ยง หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ทรงนำม้าแข่ง 14 ม้าไปสู่สนามประมูลที่แทตเตอร์ซัลส์ ในนิวมาร์เก็ต ซัฟโฟล์ค ที่มูลค่ามากกว่า 1 ล้านปอนด์ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในจำนวน 14 ม้านี้ รวมทั้ง เลิฟ อัฟแฟร์ส ม้าแข่งชนะเลิศที่สนามกู้ดวู้ด 2 วันก่อนที่สมเด็จพระราชินีนาถจะเสด็จสวรรคต ซึ่งได้รับการฝึกโดย ไคลฟ์ คอกซ์ จากลัมบอร์น ในเบิร์กเชอร์ นอกจากนี้ยังมี จัสต์ ไฟน์ ม้าในกษัตริย์ชาร์ลส์ ที่ 3 เอง ที่ได้รับการฝึกโดยเซอร์ไมเคิล สเตาต์ จากนิวมาร์เก็ต จนชนะเลิศที่สนามในเลสเตอร์เมื่อเดือนก่อน
ปัจจุบัน กษัตริย์ชาร์ลส์ ที่ 3 ทรงเป็นเจ้าของม้าแข่ง 60 ม้า รวมทั้งแม่พันธุ์ 38 ม้าที่แซนดริงแฮม ม้าแข่งที่นำไปเข้าตลาดประมูล ไม่ได้อยู่ที่แซนดริงแฮม แต่อยู่ที่ฟาร์มอื่นๆ และได้รับการฝึกในที่ที่แตกต่างกันไป
ลือกันว่า การนำไปประมูล เป็นแผนการของกษัตริย์ชาร์ลส์ ที่จะทรงตัดตอนการเพาะพันธุ์ม้าแข่งของเสด็จแม่ของพระองค์เอง แต่โฆษกของแทตเตอร์ซัลส์ จิมมี จอร์จ บอกว่า การนำมาขายในตลาดประมูลเป็นเรื่องธรรมดา “สำนักราชวังอังกฤษนำม้าออกมาขายทุกปีเป็นเรื่องปกติ สมเด็จพระราชินีนาถทรงเพาะพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ด้วยพระองค์เอง และทรงนำออกมาขายด้วย ซึ่งพระองค์ทรงสืบทอดมรดกนี้มาจากพระราชบิดา กษัตริย์จอร์จ ที่ 6 ที่ทรงทั้งเพาะพันธุ์ ทรงม้า ทรงแข่งม้า เป็นกีฬาที่ทรงชื่นชอบมาตลอดพระชนม์ชีพ”
จอห์น วอร์เรน ผู้จัดการส่วนพระองค์ในด้านการแข่งม้า จากไฮแคลร์ สตัด ในแฮมเชอร์ บอกว่า สมเด็จพระราชินีนาถทรงมีม้าและการแข่งม้าอยู่ในพระดีเอ็นเอ “ทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สำหรับค่าใช้จ่ายในฟาร์มเลี้ยงม้า ซึ่งไม่ค่อยจะคืนกำไรกลับมาสักเท่าไร แต่เมื่อปีที่แล้ว เป็นปีที่ดีที่สุด ที่ม้าแข่งจากฟาร์มส่วนพระองค์ถึง 36 ม้า คว้ารางวัลชนะเลิศ และได้รางวัลมา 590,000 ปอนด์ สรุปรายได้จากการแข่งม้าตลอดพระชนม์ชีพ คาดว่า พระองค์ทรงมีรายได้จากการนี้ราว 10 ล้านปอนด์”
กษัตริย์ชาร์ลส์ ที่ 3 ทรงเคยเป็นจ๊อกกีสมัครเล่นเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ ทว่า พระองค์ไม่ได้ทรงคลั่งไคล้ในกีฬาชนิดนี้เช่นสมเด็จพระมารดา ขณะที่ราชินีคามิลลา กลับตรงกันข้าม ทรงเริ่มเพาะพันธุ์ม้ามาตั้งแต่ปี 2008 จึงเชื่อว่า กษัตริย์ชาร์ลส์ ที่ 3 จะทรงสานต่อโครงการเพาะพันธุ์ม้าแข่งต่อไป แต่คงจะทรงลดขนาดลงจากที่พระราชมารดาทรงเคยทำไว้
จิมมี จอร์จ ย้ำอีกว่า การนำม้าของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบท ที่ 2 ออกมาขายในตลาดประมูล ไม่ได้แสดงถึงการยุติบทบาทของสำนักราชวังอังกฤษต่อวงการแข่งม้า “ทุกๆ ปี เจ้าของม้าแข่งจะขายม้าที่มีอยู่ ตอนที่สมเด็จพระราชินีนาถยังทรงพระชนม์ชีพ พระองค์ก็ทรงขายม้าของพระองค์เองด้วย” โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดยังเสริมว่า ทุกอย่างที่ราชวงศ์อังกฤษเคยทำมาเกี่ยวกับม้าแข่งจะดำเนินต่อไปอย่างแน่นอน
Comments are closed.