ชาวอิตาเลียนต่างยอมรับว่า จอร์เจีย เมโลนี ผู้นำพรรคบราเธอร์ส ออฟ อิตาลี เป็นผู้หญิงทรงเสน่ห์ เธอจะกลายเป็นผู้นำขวาจัดคนแรกของอิตาลี หลังจากเบนิโต มุสโสลินี หรือเปล่า
ตอนนี้พรรคบราเธอร์ส ออฟ อิตาลีค่อนข้างมีคะแนนนำโด่ง หลังจากก่อนหน้านี้ ครอบครองคะแนนเสียงในลาดิสโปลี เมืองชายทะเลใกล้ๆ กรุงโรม มาตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งนับเป็นการยุติบทบาทของขั้วการเมืองฝ่ายซ้ายในท้องที่นี้
ก่อนหน้านี้ จอร์โจ อัลมิรันเต อดีตรัฐมนตรีในสมัยเบนิโต มุสโสลินี ได้ก่อตั้งพรรคนีโอฟาสซิสต์ ชื่อ อิตาเลียน โซเชียล มูฟเมนต์ (MSI) ซึ่งแม้จะมีการออกมาต่อต้านฟาสซิสต์แต่ก็ไม่เป็นผล จอร์โจ ได้รับขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งสังคมนิยมขวาจัดของอิตาลี
สำหรับ จอร์เจีย เมโลนี ผู้ก่อตั้งพรรคบราเธอร์ส ออฟ อิตาลี ซึ่งถือว่าเป็นทายาทของพรรค MSI มุ่งมั่นสู่การเลือกตั้งทั่วไปในอิตาลี ในวันที่ 25 กันยายนนี้
มุมมองของผู้ลงคะแนนเสียง ต่างเห็นว่า จอร์เจีย คือคนที่เหมาะสม และน่าจะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงที่อิตาลีต้องการ
หากเธอชนะการเลือกตั้ง นอกจากจะเป็นนายกรัฐมนตรีขวาจัดคนแรกต่อจากเบนิโต มุสโสลินี แล้ว เธอยังจะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอิตาลีอีกด้วย พรรคของเธอไต่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆ จากคะแนเสียงเพียง 4% ในปี 2018 กลายเป็นพรรคที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน จากผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุด หลังการล่มสลายของรัฐบาลยุคมาริโอ ดราจีห์
ชาวอิตาเลียนคนหนึ่งให้ความเห็นว่า “จอร์เจียมีไอเดียดีๆ มากมาย นอกจากนี้ เธอยังเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ ดูจริงใจ และไม่สร้างภาพ” ขณะที่อีกคนบอก “ปกติฉันไม่ไปโหวตนะ เพราะพวกนักการเมืองชอบสัญญานู่นนี่ แต่ไม่เคยทำได้ แต่ฉันชอบจอร์เจีย เมโลนีนะ เธอดูมีกึ๋นดี แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นหรอบเดียวกับนักการเมืองคนอื่นๆ หรือเปล่า”
จอร์เจีย เมโลนี เกิดที่การ์บาเตลลา ย่านผู้ใช้แรงงานในกรุงโรม เธอเคยเป็นประธานยุวชนของพรรคเนชันแนล อัลไลแอนซ์ พรรคที่แตกออกมาจาก MSI อีกที นอกจากนี้ ยังเคยเป็นรัฐมนตรียุวชนในสมัยซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ก่อนที่จะก่อตั้งพรรคบราเธอร์ส ออฟ อิตาลี
จอร์เจีย ต่อต้านผู้อพยพต่างชาติ ไม่สนับสนุนการทำแท้ง รวมทั้ง ไม่ยอมรับการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เธอเดินทางไปมาร์เบลลา และขึ้นไปพูดแสดงวิสัยทัศน์ “มันใช่! สำหรับครอบครัวธรรมชาติ ไม่! สำหรับกลุ่ม LGBT นะค้า”
ในชีวิตส่วนตัว เธอสนิทสนมกับมารดาและพี่สาวมาก เธอบอกว่าแม่แอนนา แม้จะเข้มงวดไปซะทุกอย่าง แต่ก็สนับสนุนเธอทุกเรื่อง โดยเฉพาะตอนที่เธอตั้งพรรคการเมือง
แม่เป็นกำลังใจให้เธอเสมอ ตั้งแต่เด็กๆ ที่เธอมักจะถูกบุลลี่ ค่าที่เป็นเด็กอ้วน แต่เธอได้เรียนรู้จากอุปสรรคทั้งหลายว่า มีประโยชน์กับชีวิตในอนาคต
เธอไม่มีความสัมพันธ์กับบิดา ที่ทิ้งครอบครัวไปแต่งงานใหม่ และกลับมาเยี่ยมเยือนเธอเพียงปีละไม่กี่สัปดาห์ ตอนอายุ 11 ปี จอร์เจีย ตัดสินใจบอกพ่อว่า ถ้าเขาเห็นเมียใหม่สำคัญกว่า ก็ไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก เธอไม่อยากเจอพ่ออีกแล้ว
การไม่มีพ่อส่งผลกระทบต่อเธอพอตัว โชคดีที่มีแม่และพี่สาว อาเดรียนา ที่คอยอยู่เคียงข้าง “เธอเจ๋งมาก สวย และกล้าหาญ ขณะที่ฉันเป็นเด็กมีปัญหา ค่อนข้างเก็บตัว ส่วนเธอฉายแสงมาก เป็นที่รักของทุกคน เวลาเธอไปไหนมักจะพาฉันไปด้วย”