อาจจะเหมือนกรณีของ เจ้าชายเอ็มมานูเอเล ฟิลิแบร์โต ของอิตาลี ที่พยายามจะรักษาความเป็นราชวงศ์ของตัวเองเอาไว้ “เจ้าชายวิลเลียม รูดอล์ฟ ล็อบโควิขซ์” ก็พยายามทุกวิถีทางที่จะรักษาศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งมรดกตกทอดทางประวัติศาสตร์ของเช็ก รีพับลิค
เจ้าชายวิลเลียมสร้างปรากฏการณ์ในตลาดบิตคอยน์ โดยเข้าไปสนับสนุนการประมูลผ่านบิตคอยน์ แบบไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ เพื่อที่จะรักษาคอลเลกชันงานศิลป์และปราสาทของครอบครัวเอาไว้
เขาเกิดในปี 1994 เป็นบุตรชายคนโตของมารดาชาวอเมริกันกับบิดาชาวเช็ก บิดาของเขา วิลเลียม อี. ล็อบโควิชซ์ สืบเชื้อสายราชวงศ์โบฮีเมียนอายุ 600 ปี โดยในอดีตเป็นผู้สนับสนุน ลุดวิก ฟาน บีโทเฟน
ราชวงศ์ล็อบโควิชซ์ ต้องสูญเสียปราสาทและงานศิลปะของพวกเขา อย่างเช่น ผลงานของพีเตอร์ บรูเอเกล และดิเอโก เบลาซเกซ จากศตวรรษที่ 16 และ 17 ในสมัยที่นาซีบุกยึดครองประเทศ รวมทั้ง ตอนที่ลัทธิคอมมิวนิสต์เข้ามามีอิทธิพล กว่าจะได้คืนมาบ้างก็ตอนที่สหภาพโซเวียตล่มสลายในทศวรรษที่ 1990
นับตั้งแต่นั้น ครอบครัวราชวงศ์ล็อบโควิชซ์ ได้กลับไปยังเช็ก รีพับลิค หลังจากได้ปราสาทอันเป็นมรดกของครอบครัวกลับคืนมา
เจ้าชายวิลเลียม เป็นนักเรียนดีเด่น เขาดำเนินรอยตามบิดาในการเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยเลือกเรียนในสาขาประวัติศาสตร์วัฒนธรรมยุโรปกลาง ซึ่งในขณะที่เป็นนักศึกษา เขาได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ มากมาย
ตั้งแต่เป็นสมาชิกของ พิพิธภัณฑ์หอศิลป์ฮาร์วาร์ด เป็นกรรมการนักเรียน เป็นเอ็มวีพีของทีมโปโลฮาร์วาร์ด ฯลฯ
บอสตัน แมกกาซีน รายงานว่า ครอบครัวล็อบโควิชซ์ ได้ที่ดิน ปราสาท และงานศิลปะกลับคืนมา โดยมีข้อแม้ว่า ห้ามขาย ห้ามนำออกไปจากแผ่นดินเช็ก โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล ทายาทราชวงศ์เก่าแก่ของเช็ก ต้องทุ่มเทเงินทองจำนวนมากในการบูรณะปราสาทของพวกเขา เปิดเป็นจุดท่องเที่ยว ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ทว่า มาสะดุดบ้างในช่วงการระบาดของโควิด -19
จากผู้กำกับสื่อดิจิทัล ที่ผันตัวมาจับตลาดประมูลผ่านบิตคอยน์ ที่ปราสาทล็อบโควิชซ์เอง โดยเขาบอกว่า ในศตวรรษที่ 21 เราต้องใช้เงินดิจิทัลนี่แหละในการจับจ่าย ถ้ารีบมาลงทุนกับเราจะรวยก่อน แถมยังจะได้ช่วยกันรักษาศิลปวัฒนธรรมและมรดกของเช็กเอาไว้ด้วย
นอกเหนือจากพระยศ เจ้าชาย และปราสาทราชวังแล้ว เจ้าชายเช็กยังคงโดยสารแทรม (รถรางไฟฟ้า) ไปทำงานทุกๆ เช้า เขายังเคยต้องไปขายไอศกรีม เป็นไกด์ทัวร์เองก็ยังเคย