ปัจจุบันแม้เศรษฐกิจทั่วโลกจะถดถอย จากผลกระทบของสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโคโรนา ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศซบเซา หลายคนที่อยากเดินทางเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด จึงหาทางออกด้วยการล่องเรือท่องเที่ยวแทน โดยเฉพาะ สังคมคนรวยที่เน้นกินหรูอยู่สบาย ไปไหนมาไหนสะดวก รวดเร็ว ที่สำคัญ ต้องเอ็กซ์คลูซีฟ แถมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน “เรือยอชต์” จึงตอบโจทย์ได้ดีที่สุด มหาเศรษฐีหรือนักลงทุนต่างชื่นชอบ ถึงขนาดซื้อเรือยอชต์ไว้ใช้ท่องเที่ยวส่วนตัว ทั้งยังรองรับเพื่อนฝูง ลูกค้า ได้อีกด้วย
วันนี้ ลองมาฟังความเห็นจากผู้ที่คร่ำหวอดในวงการเรือยอชต์ อย่าง “ธน จงสืบธรรม” ผู้จัดการทั่วไป อะซิมุท ยอชต์ ประเทศไทย (Azimut Yacht Thailand) ภายใต้บริษัท เอ็มจีซี มารีน แอนด์ ชาร์เตอร์ (เอเชีย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายเรือยอชต์ อะซิมุท อย่างเป็นทางการ ที่บอกไว้ว่า “ตลาดเรือ luxury yavht ทั่วโลกขยายตัวมากกว่า 50% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งมาจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น จากไลฟ์สไตล์ของของลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่เปลี่ยนไป โดยหันมานิยมใช้เรือสำหรับการสันทนาการกับครอบครัว ท่องเที่ยว สังสรรค์กับเพื่อนฝูง ฯลฯ เพิ่มมากขึ้น
จะเห็นได้จากในปี 2021 ที่ผ่านมา อะซิมุท ยอชต์ ประเทศไทย มียอดส่งมอบเรือในปี 2021 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคำสั่งซื้อล่วงหน้า ซึ่งต้องใช้เวลารอประมาณ 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง สำหรับการประกอบเรือเพื่อพร้อมที่จะส่งมอบให้กับลูกค้า แต่ก็ยังมีเหล่าเศรษฐีทั้งหลายยินดีรอ
ในส่วนของประเทศไทยนั้น มหาเศรษฐีเมืองไทยนิยมสั่งรุ่น FLYBRIDGE กันมากที่สุด เพราะตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงใจสุดๆ ทั้งฟังก์ชั่นและพื้นที่ใช้สอย ส่วนรุ่นที่กำลังมาแรงอีกรุ่นหนึ่งคือ MAGELLANO ซึ่งถือเป็น cruising yacht ที่มีรูปลักษณ์การดีไซน์ที่ทันสมัย สง่างามสไตล์อิตาลี การเดินเรือที่ราบรื่น มีเสถียรภาพในการควบคุมทิศทาง และประหยัดเชื้อเพลิง โดดเด่นตรงใจผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยในการเดินทางทางทะเล
อีกเหตุผลสำคัญที่เหล่ามหาเศรษฐี ต่างหันมาเลือกเดินทางโดยเรือยอชต์ส่วนตัว เพราะการออกแบบภายในเสมือนใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของตัวเอง โดยมีการเลือกใช้วัสดุที่ดูหรูหราสง่างาม อย่างเช่นในรุ่น FLYBRIDGE 68 นั้น มาพร้อมฟังก์ชั่นของห้องโดยสารที่ปรับเปลี่ยนได้ถึง 3 แบบ ผสานพื้นที่อเนกประสงค์ ลงตัวกับทุกลักษณะการใช้งานตามความต้องการของลูกค้า
เริ่มที่แบบครัวปิดล้อม พื้นที่ใช้สอยที่หรูหราตั้งอยู่ตรงทางเข้าของดาดฟ้าหลัก ส่วนห้องครัวซ่อนอยู่ด้านหลัง พร้อมนวัตกรรมใหม่ Lanterna เป็นระแนงปิดห้องครัวเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว แต่ช่วยให้แสงไหลผ่านพื้นที่ทั้งหมดได้ด้วย
ต่อมาเป็นครัวแบบเปิด สำหรับผู้ที่ต้องการเลย์เอาต์แบบสนุกสนาน ตัวเลือกนี้ตั้งอยู่บริเวณหัวเรือ โดยห้องครัวตั้งอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับห้องรับประทานอาหาร ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นโซนเลานจ์ที่สองได้
แบบสุดท้ายดูเป็นทางการขึ้นหน่อย เพราะห้องครัวตั้งอยู่ท้ายเรือและห้องอาหารตั้งอยู่ทันทีที่คุณก้าวเข้ามาจากห้องนักบิน เพื่อการผ่อนคลายทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง ขณะที่ ห้องนั่งเล่นเคลื่อนไปทางหัวเรือ
สำหรับชั้นล่างประกอบด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ รองรับแขกได้ถึง 8 ท่าน แยกพื้นที่สำหรับลูกเรือ 1-2 คนเพื่อความเป็นส่วนตัว โครงสร้างส่วนบนรวมถึงฮาร์ดท็อปและดาดฟ้า ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยให้เรือมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพิ่มความมั่นคงและความสะดวกสบาย
ต้องรวยขนาดไหนถึงจะได้เป็นเจ้าของเรือยอชต์หรูๆ แบบนี้ ประมาณว่าต้องมีเงินเหลือๆ เกิน 50 ล้านขึ้นไป เพราะรุ่นเริ่มต้นของตระกูล FLYBRIDGE อย่าง FLYBRIDGE 50 ก็ปาไปที่ 50 ล้านบาทโดยประมาณ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ออปชั่นที่ลูกค้าเลือกอีกต่างหาก”
วันนี้ แม้ไม่ได้เป็นเจ้าของก็ยลโฉมความงดงามกันไปพลางๆ ก่อน เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ขยันเก็บเงินซื้อไว้เดินทางท่องเที่ยวทางทะเลกันให้หนำใจ