จัดว่า “ไม่เบา” เลยทีเดียว สำหรับเรื่องสไตล์ของเธอคนนี้ “ออย-นันทิสา ตันยงค์เวช” อีกหนึ่งแฟชั่นนิสต้าสาวในแวดวงสังคม หวานใจหัวเรือใหญ่คนปัจจุบันของอาณาจักร คิง เพาเวอร์ “ต็อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ซึ่งนอกจากเราจะรู้จักเธอว่าเป็นทายาท บริษัท ท็อปสัน ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดนักเรียนตราท็อปสันแล้ว เธอยังเคยผ่านงานด้านแฟชั่นมาอย่างโชกโชน จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมเรื่องของสไตล์การแต่งตัวของเธอจึงโดดเด่นเข้าตา!
ด้วยความที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้าชุดนักเรียน และตัวเธอก็สนใจในการออกแบบและดีไซน์ เธอจึงเลือกเรียนในสาขาออกแบบที่ Raffles International College Thailand และต่อปริญญาตรีใบที่ 2 ในสาขา Fashion Marketing ที่มหาวิทยาลัยเดิมสำเร็จ จนเรียกว่าพร้อมทั้งงานดีไซน์และงานบริหารเลยทีเดียว ช่วงแรกเธอไฟแรงทางด้านดีไซน์ จึงร่วมกับเพื่อนๆ ทำแบรนด์แฟชั่น ในขณะเดียวกัน ก็เริ่มเข้ามาศึกษางานของบริษัทคุณพ่อ จนในที่สุด ต้องขอเบรกมาโฟกัสธุรกิจขนาดใหญ่ของครอบครัวก่อน
“ตอนนี้ออยและพี่สาวเข้ามาช่วยบริหารจัดการธุรกิจชุดนักเรียนท็อปสันอย่างเต็มตัว ซึ่งคุณพ่อขอวางมือแล้ว ด้วยความที่แบรนด์มีความเป็นมากว่า 40 ปี ก็ถึงเวลาที่เราต้องสานต่อ โดยเราเข้ามาดูทั้งหมด ดูสต็อก โรงงาน การขาย ดีลกับโรงเรียน และตอนนี้ส่งออกไปที่ประเทศจีน เครื่องแบบนักเรียนไทยกำลังฮิตมาก คนจีนชอบเอาไปใส่ตามซีรีส์ไทยที่เขาดู บางทีก็สั่งปักเป็นภาษาไทยตามซีรีส์เลย เรื่องคุณภาพของเราก็ผ่านมาตรฐาน ขายครั้งหนึ่งเป็นล็อตใหญ่มาก เป็นมิติใหม่ของวงการชุดนักเรียนไทย เริ่มจากเราขายออนไลน์ แล้วก็มีเจ้าใหญ่มาขอติดต่อเป็นตัวแทนนำไปขาย ก็เลยได้ตลาดใหม่”
จากการส่งออกนี่เอง ที่เป็นตัวช่วยในการประคับประคองบริษัทชุดนักเรียนในภาวะเศรษฐกิจดิ่ง เพราะโควิด-19 โรงเรียนไม่เปิด เด็กไทยต้องเรียนออนไลน์อยู่บ้าน ซึ่งในฐานะผู้บริหารก็พยายามอย่างเต็มที่ ทุกวันนี้ยังให้โรงงานเปิดตามปกติ แต่อาจจะผลัดกันหยุดโดยที่ยังได้รับเงินเดือนอยู่
ส่วนธุรกิจใหม่ที่เรียกว่าเป็นของเธอเต็มตัว ก็คือธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพความงามที่มีเรื่องของนวัตกรรม Anti-Aging เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตรงกับความสนใจของเธอ ประกอบกับจังหวะดีที่เธอเข้ามารับหน้าที่บริหาร “Holistic Medical” (โฮลิสติก เมดิคอล) ที่ตั้งอยู่ย่านอโศก ให้เป็นศูนย์กลางเพื่อสุขภาพสู่ความงาม เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ในการดูแลสุขภาพแบบป้องกัน ไม่ต้องรอให้ป่วยจนรักษายาก
“ธุรกิจล่าสุดที่เพิ่งเข้ามาทำก็คือ คลินิกเวชกรรม ซึ่งเทคโอเวอร์ต่อมาจากคุณอากอล์ฟและพี่นีน่า-ณัฐนันท์ สหวัฒน์ ผู้ก่อตั้ง HMC Medical Center (เอชเอ็มซี เมดิคอล เซ็นเตอร์) ออยอยากทำเรื่องความสวยความงามอยู่แล้ว ก็เริ่มศึกษา พอดีคุยกับคุณอา เป็นนวัตกรรมใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งตรงกับความชอบของเรา ก็เลยเทคโอเวอร์มาทำเองเต็มตัว เมื่อก่อนออยก็เป็นลูกค้าของที่นี่
เมื่อก่อนออยผิวแห้ง ปากแห้ง เป็นผื่นแพ้ ขึ้นที่หลังและตามตัว แล้วเราชอบทำสีผม บางทีตรงคอก็จะแดงเป็นผื่น เลยคุยกับคุณหมอ คุณหมอให้ตรวจเลือด และค่อยๆ ทานวิตามิน ปรับสมดุลของร่างกาย ดีท็อกซ์ของเสียบ้าง ประมาน 2 อาทิตย์อาการดีขึ้นมาก เมื่อเราเห็นผลเองกับตัวก็เลยเชื่อและสนใจธุรกิจตรงนี้
ปัจจุบันเทรนด์การดูแลสุขภาพของคนนั้นมาแรง เพราะคนส่วนใหญ่เชื่อว่าสุขภาพที่ดีนั้น จะนำไปสู่การใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดีและปกติสุข ในยุคนี้ยิ่งมาเจอกับโรคระบาดอีก เธอก็ยังเพิ่มเติมในส่วนของการตรวจภูมิคุ้มกัน รวมไปถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ซึ่งการบริหารธุรกิจในยุคโควิด-19 นั้น บอกเลยว่าหนักไม่ใช่เล่นๆ ต้องมอนิเตอร์ข่าวสารทุกวัน อย่างไรก็ดี เธอบอกกับเราว่าถ้าทุกอย่างเริ่มกลับมาเป็นปกติ เธอได้วางแพลนไว้หมดแล้ว พร้อมลุยเต็มที่!
แม้จะพักจากงานด้านแฟชั่น มุ่งสู่งานด้านบริหาร แต่ในเรื่องแฟชั่นส่วนตัวก็ไม่ทิ้ง ยังคงเป็นสาวคนหนึ่งที่ชอบแต่งตัว สนุกกับการได้ออกไปพบเจอสิ่งใหม่ๆ รอบตัวและเอนจอยกับการชอปปิ้ง
“สไตล์การแต่งตัวของออยไม่ได้ตายตัว ไม่ได้มีเป็นแพตเทิร์นว่าต้องใส่แบบนี้ทุกวัน บางทีก็อยากแต่งตัวเท่ บางทีก็หวาน แล้วแต่โอกาส แต่ต้องถูกกาลเทศะ ความจริงเป็นคนสบายๆ ชอบสีสัน ซิกเนเจอร์ของเราเป็นคนแต่งตัวมีดีเทล ในเสื้อที่ดูเหมือนเรียบ แต่ก็จะมีดีเทล ไม่ถึงกับหวานแต่จะมีความเก๋เบาๆ แต่บางคนก็หาว่าเราเยอะนะ (หัวเราะ) แล้วแต่อารมณ์ด้วยค่ะ แต่ที่แน่ๆ เราชอบสีสันเพราะรู้สึกสนุกกับการมิกซ์แอนด์แมตช์”
นอกจากสีสันแล้ว ก็ต้องเติมความสนุกในการแต่งตัวอีกนิด ด้วยเครื่องประดับ (Accessories) ที่เธอบอกว่าต้องมีติดตัวอย่างน้อยๆ สัก 1 ชิ้น ไม่งั้นการแต่งตัวในวันนั้นเหมือนไม่คอมพลีท
“ชอบใส่เครื่องประดับมาก ต้องมีติดตัวสัก 1 ชิ้น แล้วแต่ว่าจะเป็นสร้อย แหวน กำไล ต่างหู เรียกว่าแอสเซสซอรีเป็นสิ่งที่มีเยอะที่สุดของออยเลยก็ว่าได้ เพราะซื้อสะสมมานาน มีชั้นเก็บใหญ่โต จริงจัง (หัวเราะ) เวลาไปต่างประเทศจะชอบไปเดินตาม Flea Market ดูของแอนทีค เจอชอบซื้อมาเก็บไว้ เอาออกมาใส่บ้างตามโอกาส ทุกวันนี้ยังเก็บอยู่ไม่โละเลยสักชิ้น”
ในยุคที่ไปไหนไม่ได้อย่างนี้ แต่แฟชั่นนิสต้าก็ยังไม่หยุดชอป ตัวเลือกที่ดีที่สุดก็คือ ชอปออนไลน์ ซึ่งสาวออยก็เป็นนัก F มาตั้งแต่ก่อนยุคโควิดแล้ว!
“ยุคนี้ชอปปิ้งออนไลน์อย่างเดียวเลยค่ะ โชคดีที่เป็นคนไม่มีปัญหาเรื่องไซส์ อาจเพราะเราเรียนแฟชั่นมา ก็เลยประมาณไซส์ค่อนข้างเป๊ะ ไม่ได้เป็นแฟนตัวยงของเว็บไหนเป็นพิเศษ ชอบดูไปเรื่อยๆ ทั้งเว็บของแต่ละแบรนด์และเว็บที่เป็นมัลติแบรนด์ ที่สำคัญเราเน้นตรงโปรโมชั่น (หัวเราะ) บางแบรนด์จัดโปรโมชั่นก็เข้าไปชอปตรงเลย แบรนด์ที่ชอบตอนนี้คือ Jacquemus ที่หลายคนคุ้นกับความตะมุตะมิของกระเป๋า แต่ออยชอบเสื้อผ้าของแบรนด์นี้ เพราะมีสีสันสดใส เป็นแนวไม่เรียบ ไม่ง่าย”
แม้จะร้างจากการจับสายวัด กรรไกรตัดผ้ามาบ้าง แต่ในเวลาที่ต้องการความสเปเชียล เธอก็ลุกขึ้นมาทำชุดของตัวเอง ให้เป็นชุดแสนพิเศษของเธอคนเดียว
“บางอย่างยังออกแบบเอง ตัดเอง เพราะออยมีช่างอยู่แล้ว และเราก็เรียนจบแฟชั่นดีไซน์มา ยังสามารถทำเองได้ ออกแบบ ทำแพตเทิร์น คุยกับช่าง ดูช่างให้เขาเย็บ ก็จะได้ชุดที่แสนพิเศษไม่เหมือนใครค่ะ” แฟชั่นนิสต้าสาวสไตล์ไม่เบากล่าวทิ้งท้ายอย่างมั่นใจ