มื้ออาหารในกระบะลอยน้ำ! เทรนด์ใหม่กินข้าวสุดเก๋ของคนดัง

ใครที่เกาะติดขอบโซเชียลมีเดียของเหล่าเซเลบคนดัง ไฮโซ และอินฟลูเอนเซอร์ ทั้งหลาย ก็จะเห็นได้ว่าช่วงนี้ทุกคนต่างออกเดินทาง ไม่บินไกลไปต่างประเทศ ก็ตระเวนหาแหล่งท่องเที่ยวเก๋ๆ ในไทย ไปพักผ่อนแวะชิลและเก็บภาพสวยๆ มาแชร์กระตุ้นต่อมเที่ยวให้คึกคัก และภาพยอดฮิตที่พบเห็นได้ ทั้งการโพสท่าเก๋ๆ ตามจุดแลนด์มาร์คต่างๆ หรือแอ๊บมุมเผลอนั่งสวยในร้านคาเฟ่ดีไซน์โดดเด่น ก็ดูจะสู้ไม่ได้กับกระแสการโพสต์ภาพนอนแช่น้ำสุดชิลในสระส่วนตัว พร้อมมื้ออาหารบนถาดลอยน้ำข้างตัว ที่เป็นการโชว์ทั้งความเก๋ ความพิเศษ และความหรูหราได้ในภาพเดียว

ถ้าจะให้ย้อนกลับไปถึงที่มาของ มื้ออาหารลอยน้ำ หรือ Floating Meal นั้น ไม่มีตำราไหนหรือใครจะชี้ไทม์ไลน์ได้เด่นชัดว่า ผู้ใดหรือที่ไหนเป็นคนริเริ่ม แต่ที่แน่ๆ คือ เทรนด์นี้น่าจะเริ่มต้นขึ้นในย่านเอเชียเรานี้แหละ ด้วยโซนอากาศแบบทรอปิคัล การเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีโรงแรมห้าดาวมากมายแข่งขันกันให้บริการ จึงต่างก็ต้องงัดกลยุทธ์ใหม่ๆ ออกมาดึงดูดลูกค้า และการเสิร์ฟอาหารให้รับประทานในขณะเล่นน้ำในสระ ก็ดูจะเป็นบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่โดนใจนักเดินทางไม่น้อย นี่จึงเป็นเซอร์วิสไฮไลต์ของโรงแรมหรูในย่านนี้มานานหลายปีแล้ว

เริ่มแรกจากการเป็น Floating Breakfast มื้ออาหารเช้าลอยน้ำ ที่ว่ากันว่า น่าจะหยิบแนวคิดรูมเซอร์วิสเสิร์ฟถาดอาหารบนเตียงของเหล่าคู่รักแบบที่เราพบเห็นได้บ่อยๆ ในภาพยนตร์มาต่อยอด เป็นการเสิร์ฟถาดอาหารในน้ำ ให้เริ่มต้นวันด้วยความสดชื่นอย่างเต็มที่ ให้คุณได้เล่นน้ำ พร้อมเติมพลังยามเช้าได้แบบสุดสร้างสรรค์และแปลกใหม่ ซึ่งบริการนี้จะมีเฉพาะแขกที่เข้าพักห้องสไตล์พูลวิลล่า ที่ต้องมีสระน้ำส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งโปรโมชั่นมื้ออาหารพิเศษนี้เริ่มพบเห็นในโรงแรมที่บาหลีมากว่า 10 ปีแล้ว

แต่ทว่ากระแสมื้อเช้าในสระ เพิ่งจะมาเริ่มบูมเป็นที่รู้จัก เมื่อราว 4-5 ปีที่ผ่านมานี่เอง นั่นเพราะการมาของโซเชียลมีเดียที่เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากบริการนี้ อันที่จริงแล้วถ้าจะว่าไปคงมีน้อยคนที่จะตั้งใจสั่งมารับประทานเองเฉยๆ และไม่ได้ถ่ายภาพโชว์ใคร เพราะทั้งลำบาก ทั้งไม่สะดวก และมีข้อจำกัดในการรับประทาน โฟกัสหลักไม่ใช่การรับประทาน แต่เป็นเรื่องของสไตล์มากกว่า จุดประสงค์หลักของ Floating Breakfast จึงออกจะเน้นการทำคอนเทนต์ เน้นภาพสวย ไม่ได้เน้นรับประทานสักเท่าไหร่ แถมบางครั้งต้องจัดหาแสง หามุม ให้ภาพออกมามีสไตล์ จนทำเอาอาหารเย็นชืดหมดความอร่อยไปก็มี

ภาพของถาดอาหารลอยน้ำรูปทรงต่างๆ ที่จัดแต่งอย่างสวยๆ ที่ผู้คนพากันโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย ก็ทำเอาหลายๆ คนที่ได้เห็น อยากลองใช้บริการแบบนี้บ้าง เพราะทั้งแปลกเก๋ แถมยังสะท้อนถึงการเป็นลูกค้าระดับ VIP พักห้องพิเศษที่ต้องมีสระน้ำส่วนตัว เราจึงได้เห็นโรงแรมหรูๆ ต่างพากันจัดมื้อเช้าแบบมีสไตล์นี้ไว้คอยบริการ โดยมากจะพบในแถบบาหลี ฮ่องกง เวียดนาม ประเทศไทย รวมไปถึงย่านภูมิอากาศเขตร้อนชื้นทั้งหลาย แต่จะหาได้ยากในโซนฝั่งยุโรป หรือเมืองหนาว ซึ่งอากาศไม่เป็นใจกับการนอนแช่น้ำสักเท่าไหร่

และกระแสความนิยมก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีกในช่วง 1-2 ปีที่ผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทย เราจะเห็นได้ว่าในไอจีของคนชอบเที่ยว ชอบเดินทางทั้งหลาย ต่างต้องมีภาพมื้ออาหารลอยน้ำนี้กันทั้งนั้น นั่นต้องยกให้กับสาเหตุหลักจากโควิด-19 ที่ส่งผลให้การท่องเที่ยวซบเซาลง ขาดกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้โรงแรมหรูทั้งหลาย หันมาทำตลาดกับนักท่องเที่ยวชาวไทยมากขึ้น การปรับราคาลง พร้อมด้วยมาตรการช่วยเหลือ ส่งเสริมการเที่ยวในประเทศของทางภาครัฐ ทำให้คนในประเทศเอื้อมถึงการเข้าพักห้องสไตล์พูลวิลล่ากันมากขึ้น

แถมด้วยการป้องกันการแพร่ระบาด ลดความเสี่ยงที่ทำเอาหลายคนไม่อยากลงไปรับประทานอาหารเช้าสไตล์บุฟเฟ่ต์เหมือนแต่ก่อน แต่หันมาสั่งรูมเซอร์วิส ให้เสิร์ฟอาหารเช้าที่ห้องกันแทน ก็ยิ่งทำให้มื้ออาหารเช้าลอยน้ำได้รับความนิยมมากขึ้น และด้วยกระแสที่มาแรงนี้ทำเอาโรงแรมหลายๆ แห่ง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่อาหารเช้าเท่านั้น แต่ยังทำโปรโมชั่นชุดอาหารลอยน้ำให้บริการในช่วงเวลาอื่นๆ อย่าง เซ็ตน้ำชายามบ่าย หรือชุดมื้ออาหารค่ำสุดโรแมนติก ซึ่งก็ต้องเลือกเมนูอาหารให้ลงตัว เพราะมื้ออาหารลอยน้ำ ไม่ได้จะทำได้กับอาหารทุกประเภท เนื่องจากอาหารบางชนิดก็ไม่เหมาะ ควรจะเป็นอาหารแห้ง น้ำหนักเบา รับประทานง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เน้นการจัดแต่งที่สวยงาม

เมนูประเภทน้ำๆ แนวเครื่องแกง หรือเมนูสเต็ก ที่ต้องหั่นต้องใช้แรง ตัดทิ้งไปได้เลย เพราะถ้ารับประทานลำบาก และทำให้ถาดเอียงล่มลงน้ำ ก็จะทำให้ยุ่งยากในการทำความสะอาด และเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการดูแลสระ ดังนั้นในหลายๆ แห่งจึงมีการระบุอย่างชัดเจน ว่าการทำถาดคว่ำ หรืออาหารหกหล่นลงน้ำ แขกอาจจะต้องเสียค่าปรับเพิ่มเติม

ว่าแล้วใครจะเลือกใช้บริการสุดเก๋นี้ก็ต้องระมัดระวังกันหน่อย ไม่งั้นเพื่อภาพสวยๆ มาลงโซเชียลมีเดียเพียงไม่กี่ใบ นอกจากจะไม่ได้กินของแบบอร่อยๆ แล้ว ยังต้องเสียเงินไปฟรีๆ อีกก็เป็นได้