Hot Topic

เทรนด์ต้นไม้มาแรง! “ก้านส้มด่าง” ไม้โปรดที่ “ศรุต สุวรรณภักดี” ตกหลุมรัก

Pinterest LinkedIn Tumblr


ถ้าไปถามคนรักต้นไม้ ว่าชอบต้นไม้ต้นไหนที่ตัวเองมีมากที่สุด คงไม่ต่างจากถามว่า ชอบกินอาหารจานไหน เพราะแม้จะตอบง่ายแต่ก็เลือกยาก เพราะบางครั้งก็อาจจะมีหลายคำตอบที่ทำให้เกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง แต่สำหรับ “จอม-ศรุต สุวรรณภักดี” นักแสดงหนุ่มที่มีใจรักต้นไม้ จนผันตัวมาทำธุรกิจขายต้นไม้ เมื่อเจอคำถามนี้กลับตอบได้อย่างไม่ลังเลว่า ต้นไม้ที่เขาชื่นชอบและมีสตอรี่มากมายให้จดจำ จนหยิบมาเล่ากี่ครั้งก็ไม่เบื่อคือ “ต้นก้านส้มด่าง” หรือ Philodendron Billietiae Variegated เพราะนอกจะเป็นไม้ด่างต้นแรกที่เขาเป็นเจ้าของ เจ้าก้านส้มด่างนี้ ยังเป็นใบเบิกทางที่ทำให้เขาเห็นช่องทางการทำธุรกิจ ที่มาจากแพสชั่นอย่างการเพาะต้นไม้ขายอีกด้วย


“ต้นนี้ผมซื้อต่อมาจากหุ้นส่วน ซึ่งเขาสั่งต้นก้านส้มด่างจากอินเตอร์เน็ตมา 3 ต้น ผมมาเห็นตอนที่ของมาส่งแล้ว รู้สึกสะดุดตาที่มีก้านสีส้ม ใบด่าง ก็รู้สึกชอบตั้งแต่แรกเห็น เลยขอซื้อต่อมาต้นหนึ่ง ซึ่งนั่นคือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนที่ซื้อมาต้นนี้ก็เพิ่งอายุได้ 5 เดือน ผมยังจำได้แม่นเลยว่าซื้อต่อมาในราคาใบละ 5,000 บาท ตอนนั้นมี 3 ใบ ก็ราคา 15,000 บาท ถือว่าเป็นราคาที่สูง ณ ตอนนั้น แต่ถ้าเป็นตอนนี้ ราคาไปไกลกว่านั้นมาก เพราะในตลาดเฉลี่ยขายกันใบละ 50,000-120,000 บาท” จอม เล่าถึงต้นไม้ที่ชอบอย่างออกรส ก่อนเสริมว่า

ด้วยราคาที่ทะยานขึ้นเป็น 10 เท่าตัว ก็เลยกลายเป็นแรงบันดาลใจให้จากเดิมที่ชอบไม้ด่างเป็นทุนอยู่แล้ว เห็นโอกาสที่จะทำรายได้จากสิ่งที่ชอบ


“ต้องบอกก่อนว่า ก้านส้มด่าง เป็นไม้ที่ทั่วโลกยอมรับ มีเอกลักษณ์ตามชื่อ คือ มีก้านสีส้ม ใบด่าง ข้อดีคือเป็นไม้ที่ดูแลง่าย ทนทาน ขยายพันธุ์ง่าย แต่ก็เป็นไม้ด่างที่ไม่นิ่ง คือเราไม่มีทางรู้ว่าจะแตกหน่อออกมาหน้าตาเป็นแบบไหน เพราะ ต่อให้ต้นแม่ต้นเดียวกัน แต่หน่อที่แตกใบออกมาก็อาจจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน อาจจะออกเป็นใบด่าง ใบเขียวหรือใบเผือก (สีขาว) แล้วแต่ดวง ไม่เกี่ยวกับการเลี้ยงดู

ผมเองตอนแรกก็เลี้ยงไว้หน้าบ้าน จนพอตอนหลังมีต้นไม้มากขึ้น หน้าบ้านไม่พอ ก็เลยย้ายไปปลูกในโรงเรือน ซึ่งควบคุมปัจจัยต่างๆ ได้ดีกว่า แต่ปรากฏเลี้ยงมาจนใบที่ 10 เจอใบเผือก จากที่ไม่ได้คิดว่าจะตัด ก็เลยตัดขายเลย เพราะปกติคนที่ปลูกไม้ด่าง พอเจอใบเขียวหรือใบเผือก เขาจะตัด เพื่อให้แตกหน่อใหม่ขึ้นมา ซึ่งอย่างต้นที่ผมเลี้ยง ก็ได้ผล หลังจากตัดไปแล้วก็ได้ใบด่างสวย เคยขายได้ตั้งแต่ใบละ 15,000 บาท ไปจนถึงสูงสุดคือใบละ 70,000 บาท กลายเป็นว่า ตอนนี้คืนทุนที่ซื้อมาแล้ว แถมยังทำเงินได้เยอะ”


สำหรับคนที่สนใจปลูกไม้ด่างก้านส้ม จอมแนะนำว่า ถ้าจะเลี้ยงไว้เผื่อขาย อาจจะต้องใจเย็น อย่างน้อยต้องเลี้ยงจนมีใบที่พอสมควรก่อนค่อยตัดขาย “ผมแนะนำว่าเวลาตัดต้องระวังอย่าให้ไปโดนตาที่จะแตกหน่อออกมา เพราะถ้าตาเสียไป เท่ากับเสียไปหนึ่งหน่อเลย โดยตาของมันจะอยู่ตรงข้ามใบ ที่สำคัญ ควรเลี้ยงให้มันมีเนื้อก่อนค่อยตัด ปกติเดือนหนึ่งจะออก 1-2 ใบ ส่วนเทคนิคการเลือก ถ้าซื้อเพื่อขยายพันธุ์แนะนำให้เลือกแบบด่างทั้งใบ ไม่ใช่ด่างแค่ครึ่งเดียว ยกเว้นถ้าซื้อเพราะความชอบล้วนๆ โอเค จะด่างครึ่งเดียว ด่างทั้งใบก็ได้


ปิดท้ายด้วยข้อคิดสำหรับคนที่เห็นเทรนด์การปลูกต้นไม้ ที่ยังคงฮิตไม่เสื่อมคลาย จอมแนะนำว่า “ทุกวันนี้คนหันมาทำต้นไม้กันเยอะ ทำให้หลายคนอาจจะมองว่าเป็นช่องทางการทำธุรกิจ ซึ่งก็ไม่ผิด เพียงแต่ถ้าจะเข้ามาตอนนี้ ผมอยากให้เริ่มจากลองซื้อต้นไม้ที่ชอบก่อน เพราะอย่างน้อยถ้าซื้อมาแล้วขายไม่ได้ หรือราคาตก ก็ยังไม่ทุกข์ เลี้ยงไปแล้วใบเผือก ใบเขียว ก็ไม่เครียด เพราะอย่างน้อยเราซื้อมาเพราะความชอบ แต่ถ้าเลี้ยงได้ดี เป็นผลพลอยได้


ที่สำคัญ ผมแนะนำให้ศึกษาให้ดีก่อนซื้อ เพราะราคาต้นไม้ตอนนี้ราคาค่อนข้างสูงไม่พอ ยังมีไม้ปั่นกระแส ไม้ที่มาแรงแบบเป็นเทรนด์ช่วงสั้นๆ ดังนั้น ผมขอย้ำว่า อยากให้ทุกคนเริ่มจากความสุขในการเลี้ยง อย่างผมเองตอนที่ซื้อต้นก้านส้มด่างก็ซื้อจากความชอบล้วนๆ ไม่ได้คิดว่าจะตัดขาย เพราะฉะนั้น ถ้าวันนี้เหลือใบละ 150 บาท ก็ยังโอเคครับ” จอมทิ้งท้ายอย่างอารมณ์ดี

Comments are closed.

Pin It