บิวตี้ เจมส์ แกรนด์โอเพนนิ่ง “โชว์รูม” แห่งใหม่ย่านศาลาแดง เสิร์ฟความสวยงามของอัญมณีและเครื่องประดับด้วยโซนแสดงสินค้าที่กระจายทั่วทุกพื้นที่ของโชว์รูม ต้อนรับลูกค้าทุกเจนเนอเรชั่นด้วยการ shopping แบบ All Area พร้อมฉลอง นิว แชปเตอร์ โชว์รูมใหม่ด้วยเครื่องประดับ 10 คอลเลกชัน มูลค่า 1,200 ล้านบาทส่งท้ายปลายปี ภายใต้แรงบันดาลใจที่มาจากความเชื่อของพลอยชนิดต่างๆ นำมาร้อยเรียงเรื่องราวผ่านลวดลายกับความหมายในหลากหลายบริบท
หนึ่ง-สุริยน ศรีอรทัยกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทบิวตี้ เจมส์ เล่าถึงความตั้งใจที่จะรังสรรค์พื้นที่ใจกลางเมือง บริเวณที่ตั้งของอาคารบิวตี้ เจมส์ เซนเตอร์ บนถนนศาลาแดง ซอย 1/1 เนรมิตชั้น 3 ของอาคารเป็นโชว์รูมอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อรับรองกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้เวลาชมความงดงามของเพชรพลอยและการเลือกเครื่องประดับที่ถูกใจ ท่ามกลางการตกแต่งพื้นที่ในรูปแบบ more function โดยใช้ประโยชน์กับทุกๆ พื้นที่ มีความทันสมัย แต่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นบิวตี้ เจมส์ ที่มีความ unique ในตัวเองและพร้อมที่จะก้าวไปในยุคสมัยอยู่เสมอ ซึ่งแบรนด์ใช้งบการออกแบบและตกแต่งโชว์รูม ประมาณ 88 ล้านบาท
“เสน่ห์ของโชว์รูมแห่งนี้จะสัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวขึ้นบันไดเรื่อยมาถึงโซนแสดงสินค้าต่างๆ ลูกค้าทุกคนที่ได้มาเยือนจะรับรู้ถึงความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และตื่นเต้นกับความรู้สึกใหม่ๆ อยู่เสมอในเวลาเดียวกัน ทำให้เกิดความอยากที่จะแวะเวียนมาที่โชว์รูม อีกหนึ่งความโดดเด่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโชว์รูมคือ การจัดโซนสินค้าที่กระจายในทุกๆ จุด ทั่วพื้นที่ทั้งชั้นของอาคาร ไม่ว่าจะเดินไปจุดไหนทุกท่านก็สามารถชื่นชมกับความสวยงามของจิวเวลรี่ เรียกว่ารองรับการ shopping ได้แบบ all area เลยทีเดียว”
เมื่อถามถึงเทรนด์เครื่องประดับในทุกวันนี้ หนึ่ง สุริยน มองว่า “ความเป็นวินเทจกลับมานิยมอีกครั้ง สังเกตว่าวัยรุ่นนำเอาจิวเวลรี่ของคุณพ่อคุณแม่ คุณย่าคุณยายออกมาสวมใส่ แต่ก่อนจะมองว่าใหญ่ไป แต่เดี๋ยวนี้ความใหญ่ก็นิยมกันมาก ใส่ให้ดูแพง ใส่ให้ดูทันสมัย โดยจับแมชท์กับลุคส์และโอกาส ตามสไตล์แต่ละบุคคล นี่คือเทรนด์ที่จะอยู่ไปได้กับทุกยุค” ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของบิวตี้ เจมส์ มีอยู่ในทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย ลูกค้าอายุน้อยที่สุด 7 ขวบเป็นลูกค้าประจำของแบรนด์ วัยทำงาน วัยรุ่น เซเลบริตี้ที่เริ่มสะสมจิวเวลรี่ ไปจนถึงกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่ที่นิยมสวมใส่และเก็บเป็นสมบัติสืบทอดให้ลูกหลาน
ในโอกาสที่เปิดตัวโชว์รูมแห่งใหม่ย่านศาลาแดง พร้อมจัดงาน BEAUTY GEMS GRAND OPENING OF THE NEW CHAPTER EXCLUSIVE WITH MARIO MAURER บิวตี้ เจมส์ ได้ออกแบบเครื่องประดับ 10 ชิ้นงาน มูลค่า 1,200 ล้านบาท ทุกชิ้นได้รับแรงบันดาลใจจากการตีความหมายของลวดลายการออกแบบในหลากหลายบริบท ผนวกกับความเชื่อเรื่องพลอยชนิดต่างๆ ได้แก่ ชุด Cassius สร้อยคอมรกตประดับเพชร ตัวแทนของความยิ่งใหญ่กับความเชื่อที่ว่า สีเขียวของมรกตเป็นต้นกำเนิดของความอุดมสมบูรณ์ อัญมณีที่มีความศักดิ์สิทธิ์และทรงพลัง ชุด Colt สร้อยคอพลอยมรกตประดับเพชรหลากหลายเม็ดล้อมรอบมรกตสีเขียวขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกถึงความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและทรงอำนาจ ชุด Harmony สร้อยคอพลอยทัวร์มาลีนประดับเพชร ตัวแทนความสวยงาม ทรงคุณค่า สัญลักษณ์แห่งความรัก ชุด Luciano สร้อยคอบุษราคัมประดับเพชร อัญมณีนพเก้า ความเป็นสิริมงคลและสร้างพลังบวกแก่ผู้ครอบครอง ชุด Nicasio สร้อยคอพลอยมรกตประดับเพชร กับความเชื่อว่ามรกตสามารถขจัดปัดเป่าปัญหาส่งเสริมพลังอำนาจ
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องประดับที่น่าสนใจอย่างชุด Opulence สร้อยคอพลอยกรีนทัวร์มาลีนประดับเพชร ตัวแทนความหรูหรา มั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ เชื่อว่าทัวร์มาลีนช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจและความริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ชุด Resplendent สร้อยคอบุษราคัมประดับเพชร ตัวแทนความสดใส รุ่งโรจน์ ขจัดความเครียด เติมพลังความสุขและความมีชีวิตชีวา ชุด Demure สร้อยคอพลอยแทนซาไนต์ประดับเพชร ตัวแทนหญิงสาวขี้อายมีโลกส่วนตัวและน่าค้นหา ชุด Armando สร้อยคอพลอยไพลินประดับเพชร เชื่อว่าพลอยไพลินสามารถป้องกันภัยอันตราย และชุด Ethereal สร้อยคอพลอยทับทิมประดับเพชรที่มีความประณีตงดงามด้วยช่างฝีมือ
งานแกรนด์โอเพนนิ่ง โชว์รูม ยังได้นักแสดงมากความสามารถ มาริโอ้ เมาเร่อ มาร่วมเป็นเกียรติเซอร์ไพรส์แขกภายในงานด้วย โดยเครื่องประดับที่มาริโอ้ สวมใส่เป็นสร้อยเพชร BEAUTY GEMS ABEILLE COLLECTIONS (บิวตี้ เจมส์ อาเบล คอลเลกชัน) ที่ตั้งใจรังสรรค์โดยใช้ผึ้งมาเป็นตัวแทนของความมุ่งมั่น ขยันขันแข็ง โดยลักษณะนิสัยของผึ้งชอบการรวมตัวและเกาะกลุ่มกันในบริเวณรวงผึ้งสื่อถึงความสามัคคี และผึ้งยังเป็นอีกหนึ่งในสัญลักษณ์ของความรักอันแสนหวาน สัญลักษณ์แห่งการบอกรัก เหล็กในของผึ้งเปรียบดั่งสายศรรักของกามเทพผู้บันดาลรักแก่มนุษย์ทุกผู้คน เหมาะกับหนุ่มโอ้ ที่มีไลฟ์สไตล์และกิจกรรม ที่ไม่ว่าจะออกงาน ถ่ายละคร หรือแฟชั่นต่างๆ ก็สามารถนำคอลเลกชันนี้สวมใส่ไปได้ในทุกๆ โอกาส และคอลเลกชันนี้ถือเป็น unisex collections สามารถใส่ได้ทุกเพศทุกวัยด้วย
นอกจากนี้หนุ่มโอ้ ยังติดเข็มกลัดมรกตประดับเพชร โดยมรกต น้ำหนัก 201.78 กะรัต เพชร น้ำหนัก 44.44 กะรัต 18K White Gold 63.00 กรัม Platinum น้ำหนัก 3.42 กรัม สวยหรูดูดีเหมาะกับหนุ่มโอ้มาก รวมมูลค่าเครื่องประดับ 2 ชิ้นกว่า 300 ล้านบาท
สำหรับใครที่มองหาของขวัญในโอกาสต่างๆ หรือมองหาจิวเวลรี่สำหรับสวมใส่เอง มอบให้คนรัก หรือเก็บสะสม เชิญได้ที่โชว์รูม บิวตี้ เจมส์ ผู้เติมเต็มความสุขด้วยความงามจากเครื่องประดับที่มีความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดของการออกแบบ เพื่อมอบความงามอันเลอค่าในการครอบครอง ด้วยมาตรฐานการคัดสรรและออกแบบเครื่องประดับคุณภาพสูง ตอกย้ำการเป็น ผู้ผลิตและออกแบบอัญมณีและเครื่องประดับแถวหน้าของประเทศไทย