เริ่มต้นวันใหม่ด้วยหนังสือดีๆ เพิ่มอาหารสมอง

“เปลี่ยนวิธีทำงานแค่ 1 % คุณก็แซงหน้าคน 99 % ได้แล้ว” ผลงานของ โคโนะ เอตาโร่ ผู้นำด้านการปฏิรูปทรัพยากรบุคคลขององค์กร เขาได้เผยเคล็ดลับเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพให้เหนือกว่าคนอื่นเป็น 100 เท่า ด้วยเทคนิคการทำงานที่ง่ายจนใครๆ ก็มองข้าม

ผู้คนมากมายคิดกันไปเองว่า ภ้าอยากก้าวไปให้ไกล ก็ต้องพัฒนาการทำงานด้วยเทคนิคที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร แต่ โคโนะ เอตาโร่ ผู้บริหารของบริษัท IBM Japan ค้นพบว่านั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะจริงๆ แล้วเทคนิคการทำงาน ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือ เทคนิคที่เรียบง่ายจนคนมองข้ามไปต่างหาก คุณเคยรู้หรือไม่ว่า แค่พยักหน้าเป็นช่วงๆ คุณก็สามารถควบคุมการประชุมได้แบบเบ็ดเสร็จ แค่เลิกลงท้ายด้วย ป.ล. อีเมล์ของคุณก็จะได้รับการตอบกลับมากขึ้น หรือแค่ฝึกปะทะคารมกับเพื่อนร่วมงานบ่อยๆ ที่ทำงานก็จะมีความปรองดองมากขึ้น เป็นต้น

หนังสือเล่มนี้รวบรวมเคล็ดลับที่ง่ายจนคนมองข้ามไว้มากถึง 85 ข้อ ด้วยความง่ายแบบสุดๆ คุณจึงไม่ต้องการทักษะ ไม่จำเป็นต้องฝึกฝน

“วิชาความคิดที่คุ้มค่าหน่วยกิตที่สุดในโลก” (inGenius) หนังสือแปลผลงานของ ทีนา ซีลิก ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในเล่มนี้ทีน่าได้เผยการเรียนรู้วิธีใช้ “ความคิด” มาสร้างโอกาสในทุกด้านของชีวิต ผ่านหลักสูตรที่ได้รับความนิยมสูงสุดของสแตนฟอร์ด

คุณคงเคยได้ยินว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จต้องมีวิชาความรู้ แต่ในความเป็นจริงแค่นั้นมันยังไม่พอ คุณต้องมี “วิชาความคิด” ด้วย นั่นคือสิ่งที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดรู้ดี จึงได้มีการออกแบบหลักสูตรพิเศษขึ้นมาเพื่อเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาก้าวสู่โลกภายนอกได้อย่างมั่นใจ

เล่มนี้จะพาคุณไปนั่งในชั้นเรียนที่ได้รับความนิยมสูงสุดของสแตนฟอร์ด คุณจะได้เรียนรู้เทคนิคการคิด วิธีมองให้เห็นโอกาส ตลอดจนแนวทางต่างๆ ที่เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างธุรกิจและขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งมากมาย

“ดักทางฆ่า” (The Hardway) หนึ่งในซีรีย์สืบสวนสอบสวนชุด Jack Reacher ซีรีย์อาชญนิยายระทึกขวัญที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล ยอดขายทะยานสู่ 100 ล้านเล่ม ขายลิข
สิทธิ์แปลไปแล้วกว่า 50 ประเทศ ผลงานของ Lee Child นักเขียนที่ได้รับความนิยมจากนักอ่านนิยายฆาตกรรมทั่วโลก
เงิน 1 ล้านดอลลาร์แลกกับการช่วยชีวิตผู้หญิงและเด็ก 7 ขวบที่ถูกจับไปเรียกค่าไถ่ นั่นคือข้อเสนอที่แจ๊ค รีชเชอร์ได้รับจากชายแปลกหน้าขณะนั่งละเลียดกาแฟอยู่ริมทางเท้ากลางดึกในนครนิวยอร์ก เอ็ดเวิร์ด เลน นักธุรกิจใหญ่เคยสูญเสียภรรยาคนแรกจากเหตุลักพาตัวความผิดพลาดของเอฟบีไอเมื่อ 5 ปีก่อน เมื่อเหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นซ้ำรอยกับภรรยาคนปัจจุบัน เขาจึงไม่ไว้ใจตำรวจและเลือกที่จะพึ่งอดีตสารวัตรทหารอย่างรีชเชอร์ แทน

ภารกิจที่ดูเหมือนง่ายกลับพารีชเชอร์ไปลงเอยอยู่ท่ามกลางสงครามแค้นที่ซับซ้อนกว่าตาเห็น ทุกย่างก้าวของเขาดูเหมือนจะมีหลุมพราง “ดักทาง” ไว้หมดแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่รีชเชอร์ไม่เชื่อแม้กระทั่งสัญชาตญาณของตัวเอง ทางออกเดียวที่เขาคิดได้คือต้องขุดหลุมพรางไว้ดักคนร้ายตัวจริงเท่านั้น

“สัมผัสที่ 7 สัมผัสต้องสาป” (HORNS) นิยายเขย่าขวัญที่ขายดีเป็นปรากฏการณ์จนถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์สุดระทึก นำแสดงโดย แดเนียล แรดคลิฟฟ์ เข้าฉายปลายเดือน พ.ย. 57 นี้ ผลงานโดย โจ ฮิลล์ นักเขียนนิยายเขย่าขวัญที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย 
เล่มนี้เป็นเรื่องราว ณ เมืองห่างไกลในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ อิ๊ก เพอร์ริช ชายหนุ่มผู้เคร่งศาสนาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าแฟนสาวของตัวเองอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ชีวิตของเขาหลังจากนั้นเหมือนตกนรกทั้งเป็น หนึ่งปีต่อมา เขาสะสึมสะลือตื่นขึ้นมาและเห็น “เขาคู่หนึ่ง” งอกจากศีรษะ

ดูเหมือน “เขา” สุดอัปลักษณ์จะมาพร้อมพลังเหนือธรรมชาติบางอย่าง พลังที่มากกว่าสัมผัสที่ 6 เพราะอิ๊กไม่เพียงสัมผัสกับสิ่งลี้ลับได้ แต่เขายังสามารถควบคุมความคิดและสั่งการให้คนทำอะไรก้ได้ตามที่เขาต้องการ และเพียงแค่เขาสัมผัสตัวใคร เขาจะล่วงรู้ความลับโสมมของคนๆ นั้นอย่างทะลุปรุโปร่ง ดังนั้น “อิ๊ก” จึงตัดสินใจใช้ “สัมผัสที่ 7” สืบหาตัวคนร้ายที่ฆ่าแฟนสาวและทำลายชีวิตของเขา โดยไม่รู้เลยว่ามันจะพาเขาไปพบกับความจริงอันเหลือเชื่อที่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เขาคงไม่อยากให้เขาคู่นั้นงอกขึ้นมาตั้งแต่แรก