Dining Out

อาหารสุดสวยจานอร่อยของเชฟมิชลินระดับสามดาว “โทมัส บิวเนอร์”

Pinterest LinkedIn Tumblr


สำหรับคนรักความสุนทรียรสในอาหารเลิศรสไม่ควรพลาดกับการมาเยือนเมืองไทยของ เชฟโทมัส บิวเนอร์ (Thomas Bühner) เชฟมิชลินระดับสามดาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเยอรมนีมากกว่า 20 ปีของ จาก ห้องอาหาร ลา วี (La Vie) หนึ่งในห้องอาหารมิชลินระดับสามดาวชั้นนำของโลก จากเมืองออสนาบูร์ก (Osnabrück) ประเทศเยอรมนี

ระหว่างวันที่ 11 – 16 พฤษภาคม 2558 เชฟโทมัสจะบินตรงมาโชว์ฝีมือปรุงอาหารรสชาติอันเยี่ยมยอดให้ได้ลิ้มลอง ณ ห้องลอร์ด จิมส์ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ สำหรับมื้อค่ำอาหาร 5คอร์ส( ราคา 5,532 บาท ++) และ 7 คอร์ส (ราคา 6,356 บาท++) อาทิ แซลมอนพร้อมเสิร์ฟกับไข่ปลาคาเวียร์, เฟนเนล, ขนมปังกรอบและน้ำมันมะกอก, กุ้งมังกรกับหัวบีทรูท, และ ไข่ปลาคาเวียร์กับโฟมฮาเซลนัท โดยมีอาหารจานหลักเป็น เนื้อวัววากิวจากออสเตรเลียกับมะขาม กล้วย พริกเม็ดใหญ่ และเมนูปลาเทอบอท บล๊อคโคลี่และถั่ว กับโฮเซลลิโตแฮม

ส่วนมื้อค่ำคืนพิเศษวันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2558 (ราคา 8,121.3 บาท++ ) เป็นไวน์ดินเนอร์ อาหาร 6 คอร์ส ควบคู่กับไวน์ชั้นยอด Dreissigacker Rielsing และ Pinot Noir ชั้นเลิศจากแคว้น Rheinhessen เยอรมันนี รวมทั้งรายการอาหารอื่นๆอีกเช่น เทริยากิปลาอินทรีย์ผสานกับผลเสาวรส พร้อม ไอศครีมรสงาดำ, เนื้อตุ๋นและนกพิราบเสิร์ฟคู่กับกระหล่ำปลีแดงและน้ำซุปข้น

อาหารแต่ละจานของเชฟบิวเนอร์นั้น นอกจากจะอร่อยเลิศรสแล้วยังสวยงามเหมือนจริง ทั้งนี้เพราะเชฟใช้แนวการประกอบอาหารด้วยรูปแบบสามมิติ โดยจะเน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติเป็นส่วนสำคัญ ความหลงใหลในการปรุงอาหารด้วยอุณหภูมิต่ำ และการจัดสมดุล ความพริ้วไหว กลมกลืนของรายการอาหารได้อย่างลงตัวเหมาะสม ไม่ใช่เพียงแค่แยกเป็นอาหารแต่ละจานเท่านั้น

ประสบการณ์ด้านอาหารของเชฟบิวเนอร์นั้นเริ่มใน1989 เชฟบิวเนอร์ ได้ดำรงตำแหน่งเป็น Chef de Partie ของ เชฟฮาราลด์ โวล์ฟาร์ท (Harald Wohlfahrt) ณ ห้องอาหารชวาร์ซวาลด์สทูเบอ (Schwarzwaldstube) เมืองบาเยรส์บรอนน์ (Baiersbronn) ซึ่งนับได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนในอาชีพพ่อครัวของเขาก่อนที่เขาจะได้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าเชฟ (Head Chef) ณ ห้องอาหาร ลา ต๊าบ (La Table) ณ เมืองดอร์ทมุนด์ (Dortmund) ในปี 1991 และอีกห้าปีต่อมาเขาได้รับมิชลินเป็นดาวแรก และได้รับดาวที่สองในปี 1998 เชฟบิวเนอร์ ได้รับรางวัล Gault & Millau ในประเภท “เชฟดาวรุ่งประจำปี 2001 (Rising Star of the Year) ”

และ อีกห้าปีต่อมาเขาก็ได้รับรางวัล Gault & Millau อีกครั้งในประเภท “เชฟแห่งปี (Chef of the Year)” ซึ่ง Gault & Millau เป็นรางวัลเก่าแก่ ก่อตั้งที่ประเทศฝรั่งเศสในปี1965 คล้ายๆกับมิชลิน โดยที่ทางคณะกรรมการจะต้องมีการทดสอบและให้คะแนนตามมาตรฐาน และในปี 2009 เชฟบิวเนอร์ ยังได้เป็น Grand Chef ของ Relais & Châteaux (เรอเลซ์ แอนด์ ชาโตว์) ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และพ่อครัวชั้นนำที่ก่อตั้งมากว่าครึ่งศตวรรษ มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะให้บริการที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและมิตรภาพอันอบอุ่น และการทำให้ลูกค้าได้สัมผัสกับคำนิยามของคำว่าศิลปะแห่งการใช้ชีวิตและขณะที่ร่วมงานกับห้องอาหาร ลา วี (La Vie) เขายังได้ร่วมเป็นสมาชิกของ Les Grandes Tables du Monde ในปี 2010
ใครที่หลงใหลและติดใจฝีมือการปรุงอาหารของเชฟมิชลินระดับสามดาวชื่อดัง ในวันที่ 11 – 16 พฤษภาคม 2558 สนใจสำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 659 9000 ต่อ 7392 หรืออีเมลล์ [email protected]

Comments are closed.

Pin It