“แม่” ผู้หญิงไม่ธรรมดาของ “ด.ญ. เพ้นท์ฟ้า ชาญชุติวาณิช”

ART EYE VIEW—ไม่ว่าแม่ของใครก็ถือเป็นคนสำคัญสำหรับลูกทั้งสิ้น แต่เมื่อมีใครสักคนประกาศก้องว่า “แม่ฉันไม่ธรรมดา” คงมีไม่น้อยคนที่อยากจะเงี่ยหูฟังบ้างว่า ที่ไม่ธรรมดานั้น ไม่ธรรมดาอย่างไร

เช่นเดียวกับนิทรรศการแสดงเดี่ยวศิลปะครั้งล่าสุดของ ด.ญ. เพ้นท์ฟ้า ชาญชุติวาณิช ศิลปินเด็ก วัย 10 ขวบ ที่หลายคนรู้จักดี

กับชื่อนิทรรศการที่ว่า “แม่ฉันธรรมดา(ซะที่ไหน) 555” แม้จะฟังดูทีเล่นทีจริง แต่ก็ทำให้ใครหลายคนต้องตามไปชม ความธรรมดาที่ดูจะไม่ธรรมดาของแม่เธอ ผ่านภาพวาดในนิทรรศการครั้งนี้ ซึ่งกำลังจัดแสดงให้ชม บริเวณชั้น 2 ของศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ ท่าน้ำสี่พระยา


สิ่งที่ทุกคนได้เห็นนอกจากจะเป็นภาพวาดนู้ด ที่แม่ของเธอยอมเปลือยกายเป็นแบบให้ลูกสาวได้ฝึกวาดกล้ามเนื้อคนตามแบบศิลปินมืออาชีพ หลังจากใช้เวลาตัดสินใจอยู่นาน ขณะที่ลูกสาวก็อ้อนวอนขอให้แม่เป็นแบบเรื่อยมา จนแม่ยอมใจอ่อนในที่สุด

ยังมีภาพวาดพอร์เทรตของแม่เธอในอิริยาบถต่างๆ ขณะใช้ชีวิตประจำวันอยู่ที่บ้าน อาทิ ภาพแม่ขณะเสียน้ำตาตอนหั่นหอมหัวใหญ่ เพื่อเตรียมอาหารจานโปรด “ไข่ผัดหอมหัวใหญ่” ให้กับเธอ,ภาพแม่กำลังล้างจาน,ภาพแม่กำลังพอกหน้า,ภาพแม่กำลังใช้มือป้องปากที่กำลังหาว,ภาพแม่กำลังใช้ความคิด,ภาพแม่กำลังนั่งอึ๊,ภาพแม่กำลังฟังเพลง ฯลฯ รวมไปถึง ภาพแม่นุ่งผ้าถุงสีสดกำลังนอนชันเข่า และภาพรายละเอียดของมือและเท้าของแม่

แต่ไม่มีเลยสักภาพ…ภาพแม่ในแบบผู้หญิงที่สวยงามราวนางฟ้า

อะไรทำให้เธอรู้สึกไม่ธรรมดา หรือรู้สึกพิเศษกับภาพลักษณ์ที่แสนธรรมดาเหล่านี้ของแม่ตัวเอง ภาพที่ฉายซ้ำให้เธอเห็นบ่อยๆ ยาวนานเท่าๆกับอายุของเธอ และหาพบได้ในแม่ของคนอื่นเหมือนกัน เด็กหญิงเพ้นท์ฟ้า หรือ น้องเพ้นท์ ตอบว่า

“แม่ของคนอื่นก็อาจจะทำได้ แต่มันทำได้ไม่เหมือนกับที่แม่ของเราทำ เพราะเขาคือแม่ที่แท้ๆของเรา เป็นแม่ในดวงดาวในดวงใจของเรา เอาแม่ของคนอื่นมาเปรียบเทียบไม่ได้หรอกว่าเขาจะเป็นได้เหมือนแม่จริงๆของเราหรือเปล่า เวลาเรามองแม่คนอื่นก็ธรรมดา แต่เวลามองแม่ของเรา มันสุดยอดไม่ธรรมดาในความคิดของเรา

แม่เนี่ยเขาเป็นคนพิเศษ คือคนที่พยายามจะเป็นเพื่อนหนู ไม่ทำตัวเองให้เป็นแม่ เหมือนแม่ของคนอื่น เช่น ดุลูก ว่าทำไมทำอะไรเลอะเทอะอย่างนี้ เก็บเลย เขาจะไม่มีแบบนี้ แต่เขาจะคอยบอกว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะ เพราะอะไร เขาจะเป็นเพื่อนเรา เลี้ยงเราแบบเพื่อน เราก็เลยจะไม่รู้สึกว่า แม่ดุเรา เราต้องกลัวๆหน่อย ไม่ใช่”

เด็กหญิงพยักหน้าเมื่อถูกถามว่า ชอบให้แม่เป็นเพื่อนมากกว่า? และบอกเล่าว่าพ่อของเธอ ปาป๊าณัฐ(ณัฐพร) คนที่ใครหลายคนพบว่าไปไหนมาไหนกับเธอมากกว่าแม่ ผู้ที่คอยดูแลเรื่องการเรียนรู้ของเธอ สนับสนุนและปูทางให้เธอ ..เด็กหญิงบ้านเรียน(Home School) ผู้มีความสามารถโดดเด่นทางด้านศิลปะ เติบโตไปศิลปินอาชีพอย่างที่ฝันเอาไว้ กลับมีความเป็นเพื่อนน้อยกว่า

“ปาป๊าเขาจะมีความเป็นพ่อมากกว่า แต่เขาก็ถือเป็นเพื่อนที่ดีนะ เป็นเพื่อนของหนูเหมือนกัน เวลาหนูเล่นกับเขา หยอกเขา เราก็จะเป็นเพื่อนกัน แต่เวลาดุ เขาก็จะเคร่งครัดหน่อย”

มากกว่าแม่จะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง คอยดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างในบ้าน ตื่นขึ้นมาเตรียมอาหารให้เธอทานทุกเช้า และมีความเป็นเพื่อนมากว่าพ่อตามที่เธอบอก

เมื่อครั้งอายุ 7 ขวบ ครั้งที่เธอจัดนิทรรศการแสดงเดี่ยวศิลปะครั้งแรกที่ Neilson Hays Library ถ.สุรวงศ์ น้องเพ้นท์เคยบอกเล่าว่านอกจากมีความฝันที่จะเป็นศิลปิน แม่(ราตรี)ของเธอ ผู้ที่มีความสามารถในเรื่องตัดเย็บเสื้อผ้า คอยตัดชุดให้เธอสวมใส่ รวมถึงชุดที่เธอใส่ในงานแสดงศิลปะหลายๆโอกาส และสอนเธอตัดเย็บ ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เธออยากเป็นนักออกแบบเสื้อผ้า

ต่อมาในนิทรรศการแสดงเดี่ยวศิลปะครั้งที่ 2 ณ หอศิลป์ศุภโชค ย่านสุขุมวิท หลายคนคงไม่ลืมว่า แม่ของเธอคือคนที่นั่งเป็นแบบให้เธอวาดภาพสด ประกอบเพลง Another Brick In The Wall ของ Pink Floyd โชว์ให้ผู้ที่มาร่วมงานเปิดนิทรรศการได้ชม

ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่เหตุผลทั้งหมดทั้งมวลเหล่านั้น จะทำให้เธออยากวาดภาพแม่ และวาดไว้จำนวนมาก จนมากพอที่จะจัดแสดงให้ชมในนิทรรศการครั้งล่าสุด ขณะที่ภาพวาดพ่อมีน้อยมาก และเธอยังบอกถึงเหตุผลอื่นๆ ด้วยว่า เวลาวาดภาพผู้หญิง ได้อารมณ์กว่าวาดภาพผู้ชาย

“คือคุณแม่เขาเป็นผู้หญิง มีริมฝีปาก มีแก้ม มีใบหน้า ที่สามารถทาแป้ง ทาลิปสติกได้ มีตาที่สามารถทาอายไลน์เนอร์ได้ หรือสามารถแต่งตัวให้เป็นเจ้าหญิงอะไรแบบนี้ แต่ผู้ชายเขาแค่ใส่สูท ทาแป้ง แต่ถ้าวันไหนหนูอยากให้ปาป๊าเป็นแบบให้หนูวาดภาพ หนูจะจับปาป๊ามาทาลิปสติก (หัวเราะ) เอ๊าจริ๊ง(เสียงสูง)แล้วก็จะให้ทาอายไลน์เนอร์ใส่ชุดบัลเลย์”

รวมไปถึงอีกเหตุผลสำคัญว่าการให้แม่เป็นแบบ เป็นการประหยัดเงินในการจ้างแบบ และเป็นแบบที่มีเวลาให้เสมอ เพราะแม้แบบบางคนจะไม่คิดค่าจ้าง แต่ก็ใช่จะมีเวลาให้ตัวอย่างเช่นเวลาที่แม่ของเธอเป็นแบบให้วาดภาพนู้ด

“ให้แม่เป็นแบบไม่ต้องเสียค่าจ้าง แต่หนูให้หัวใจของหนูเป็นค่าจ้างตอบแทน หัวใจเต็มดวงของเรา มันก็เหมือนกับการที่เรารักแม่ ตอบแทนบุญคุณแม่ เงินมันไม่สำคัญ หัวใจของเราสำคัญกว่า

อะไรที่จะเป็นการบอกให้คนอื่นได้รู้ว่าลูกคนหนึ่งได้ให้หัวใจของตัวเองกับแม่ไปแล้ว เด็กหญิงผู้มีความมั่นใจ มีน้ำตาคลอเบ้า ตอบว่า

“มันลึกซึ้งนะ การที่เราจะแสดงออกว่าเราได้ให้หัวแม่ไปแล้วคือ เราใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับแม่ สำหรับหนู ถ้าครูเป็นเหมือนเรือจ้างที่พาเราข้ามฝั่ง แม่คือเรือที่พาเราไปสู่จุดหมาย ก่อนที่แม่จะจากโลกนี้ไป แม่ก็พาลูกของตัวเองไปสู่จุดหมาย”


ในวันที่มีอายุ 10 ขวบ เด็กหญิงผู้ผ่านการจัดแสดงเดี่ยวผลงานศิลปะมาแล้ว 3 ครั้ง ร่วมแสดงหลายครั้ง เคยถูกเชิญไปเป็นวิทยากรด้านศิลปะให้กับเด็กๆที่เรียนในระบบ และยังคงตระเวนไปร่วมงานหรือชมงานศิลปะกับคุณพ่อตามสถานที่ต่างๆอย่างสม่ำเสมอ

แม้ทั้งพ่อและแม่จะเปิดช่องให้เธอ หากวันนี้หรือวันหนึ่งวันหน้าเกิดเปลี่ยนใจไปให้ความสนใจทางด้านอื่นที่ไม่ใช่ศิลปะ แต่เวลานี้เด็กหญิงยังยืนว่ายังมีเป้าหมายที่จะเป็นศิลปินอาชีพที่ประสบความสำเร็จ และอยากจะโกอินเตอร์ มีผลงานไปจัดแสดงในต่างประเทศ

“เป้าหมายยังอยู่อีกไกล แต่เราต้องตั้งใจ ขยัน เพื่อไปให้สู่จุดหมาย”

เด็กหญิงบอกด้วยว่าที่ผ่านมายังไม่เคยท้อ แถมยังสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ และคิดว่าการที่ตนเองยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจในความฝันก็คือการตอบแทนบุญคุณแม่เช่นกัน

“ถ้าเราตั้งใจในเป้าหมายของเรา แม่ก็จะดีใจ และถ้ามีเงิน หนูก็จะซื้อบ้านใหม่ให้แม่ที่มีสวน ติดป่า ปลูกผัก มีไร่ มีนา”

ในวันที่เราไปพบเธอในนิทรรศการครั้งล่าสุด เป็นช่วงเวลาที่เธอผ่านการแสดงผลงานไปแล้ว 9 วัน ยังเหลือเวลาที่จะจัดแสดงอีกราว 22 วัน โดยวันสุดท้ายของการจัดแสดงผลงานคือวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2559

เด็กหญิงยิ้มกว้างตาเป็นประกาย บอกว่าค่อนข้างพอใจกับผลตอบรับของการจัดแสดงผลงานครั้งนี้ เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจเกินความคาดหมาย นอกจากนี้ยังมีชาวไทยและต่างประเทศจับจองผลงานไปแล้วหลายชิ้น

นอกจากการที่ผู้ชมให้ความสนใจมาชมงานของเธอ ช่วยซื้อผลงาน และของที่ระลึกอื่นๆ ยังมีอีกสิ่งที่เธออยากให้ทุกคนได้รับจากการไปชมภาพวาดแม่ผู้ไม่ธรรมดาของตนเองครั้งนี้

“อยากให้เขามาดูงาน แล้วกลับไปคิดว่า แม่ของเขา เคยทำอะไรให้เขาบ้าง แล้วก็ตอบแทนแม่กลับคืนไป”

รานงานโดย: อ้อย ป้อมสุวรรณ ภาพถ่ายโดย : วรวิทย์ พานิชนันท์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง “ด.ญ. เพ้นท์ฟ้า ชาญชุติวาณิช” ศิลปินรุ่นเยาว์ วัย 7 ขวบ


ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW ของ www.manager.co.th Email: [email protected]

และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews